พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชจริยวัตรที่พอเพียงมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงสอนพระโอรสธิดาให้ทรงใช้ชีวิตเรียบง่ายอย่างสามัญชน
ทั้งความสนุกสนานจากการทรงเล่นตามวัยและการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจในการดำรงชีวิต เช่น เป็นคนดี มีความรับผิดชอบต่อตนเอง มัธยัสถ์อดออม ใฝ่หาความรู้ รู้จักแบ่งปัน และช่วยเหลือผู้อื่น
ตัวอย่างเฉพาะเรื่องความมัธยัสถ์ เช่น จะไม่ทรงซื้อของเล่นที่มีราคาสูงกว่าทรัพย์ที่มี
ทรงอดออมเก็บเงินที่เหลือจากค่าขนมเพื่อนำไปซื้อของเล่นที่มีพระราชประสงค์
เสวยแยมที่ทำเองจากผลไม้
ทรงขี่จักรยานไปโรงเรียนแทนการเสด็จพระราชดำเนินไปโดยรถยนต์พระที่นั่ง
นอกจากนั้น ยังทรงเห็นความสำคัญของส่วนรวม อันเป็นเข็มทิศนำทางในการดำเนินพระราชภารกิจยามเจริญพระชันษา ที่เป็นเส้นทางสู่ดวงใจของอาณาประชาราษฎร์ทั้งแผ่นดิน ด้วยพระวิริยะอุตสาหะหลอมรวมการปลูกฝังอบรมและสรรพวิชาความรู้
ทรงค้นหาหนทางที่จะเยียวยาให้พสกนิกรได้อยู่ดีมีสุขโดยทั่วหน้ากัน
เมื่อเจริญพระชนมพรรษา พระราชจริยวัตรแห่งความพอเพียง พอประมาณ มีเหตุมีผล เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินพระชนมชีพของพระองค์
ดังจะเห็นได้จากทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดพิธีทรงหมั้นกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เป็นการส่วนพระองค์ ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยพระธำมรงค์องค์เดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกพระราชทานแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
และทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายดังเช่นคู่สมรสทั่วไป
ทรงจัดงานเลี้ยงฉลองเป็นการภายในระหว่างพระญาติสนิทและข้าราชบริพารใกล้ชิด ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับความสำคัญของการดำเนินชีวิตอย่างประหยัดแก่ประชาชนชาวไทย ดังพระราชดำรัสเมื่อช่วงต้นรัชกาลพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๐๓ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๐๒ ความตอนหนึ่งที่ว่า
”…ในภาวะทางเศรษฐกิจของประเทศที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าใคร่จะได้กล่าวถึงความสำคัญของการประหยัด ซึ่งรัฐบาลได้ชักชวนให้แต่ละคนปฏิบัติ คงจะได้ตระหนักอยู่แล้วทั่วกันว่า การใช้จ่ายโดยประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเอง และครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ประหยัดเท่านั้น ยังจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย…”
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนับเป็นแรงบันดาลใจและเป็นแบบอย่างอันประเสริฐต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยทุกคน
เช่น ทรงฉลองพระองค์และรองพระบาทราคาไม่แพง ไม่โปรดการตัดฉลองพระองค์ใหม่อย่างฟุ่มเฟือย แต่ละองค์ทรงใช้งาน ๕ – ๖ ปี ส่วนองค์เก่าที่สุดทรงใช้ถึง ๑๒ ปี
ฉลองพระบาทที่ชำรุดทรงส่งซ่อมแซม และทรงใช้ได้อีกนานเป็น ๑๐ ปี
ทรงใช้แปรงสีพระทนต์รีดหลอดยาสีพระทนต์จนแบนเรียบ มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งมหาดเล็กได้นำหลอดยาสีพระทนต์หลอดใหม่มาเปลี่ยนถวาย ทรงให้นำหลอดเก่ากลับคืนมาและทรงใช้ได้อีกถึง ๕ วัน
ยามปฏิบัติพระราชภารกิจ สิ่งที่ติดพระองค์ตลอดเวลา คือ ดินสอ กล้องถ่ายรูป แผนที่ และวิทยุสื่อสาร อุปกรณ์เหล่านี้เป็นเครื่องมือในการทรงงาน
เช่น ดินสอไม้ราคาไม่แพง มียางลบอยู่ตรงปลายดินสอ เพื่อลบคำที่เขียนผิดออกได้ง่าย ไม่เปลืองกระดาษเหมือนใช้ปากกา ทรงเหลาดินสอด้วยพระองค์เองและเหน็บไว้ที่กระเป๋าฉลองพระองค์เดือนละหนึ่งแท่งใช้จนกุดสั้น
ทรงถ่ายรูปจนสุดม้วนฟิล์ม
แม้ในยามน้ำมันมีราคาสูง พระองค์ทรงเลือกยานพาหนะที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิล
นอกจากนั้น การดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริจำนวนมาก ล้วนอยู่ในกรอบของเศรษฐกิจพอเพียงนี้
พระราชจริยวัตรแห่งความพอเพียงนี้นับเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ชาวไทย.
…………………………………………
ที่มา : สารานุกรมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เว็บ http://www.haii.or.th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น