สถานีรถไฟตลาดพลู
การเป็นย่านเก่าแก่ที่เกิดขึ้นมายาวนานแล้ว ทำให้ย่านนั้นมีประวัติศาสตร์ มีสถานที่ที่มีความสำคัญ และกลายเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนหลากหลายรุ่น เหมือนอย่างที่ “ย่านตลาดพลู” เป็นอยู่ในทุกวันนี้
“ตลาดพลู” มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี ซึ่งพื้นที่ริมคลองบางกอกใหญ่ หรือคลองบางหลวงแห่งนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีนมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี แต่เมื่อมีการย้ายราชธานีไปยังฝั่งพระนคร ก็มีชาวจีนบางส่วนย้ายบ้านไปอยู่แถวย่านสำเพ็ง และมีชาวมุสลิมเข้ามาอยู่แทนที่ จากนั้น ชาวมุสลิมก็เริ่มทำสวนพลูขึ้นในพื้นที่แถบนี้ และมีการขยับขยายมาปลูกสวนพลูกันทั้งชาวมุสลิมและชาวจีนอย่างแพร่หลาย จนพื้นที่แถบนี้กลายเป็นตลาดซื้อขายพลูขึ้นมา และเกิดชุมชนที่อยู่อาศัยที่เรียกกันว่า “ตลาดพลู” มานับแต่บัดนั้น |
||||
พูดถึงเรื่องการเป็นสถานีรถไฟ ในปัจจุบันนี้ “สถานีรถไฟตลาดพลู” ก็ยังถือว่าเป็นสถานีรถไฟที่ยังคงมีความสำคัญ เพราะเป็นหนึ่งในสถานีรถไฟสายแม่กลอง ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ที่เป็นต้นทางไม่มากนัก ทุกวันนี้ยังมีขบวนรถไฟที่ขนส่งทั้งคนและสิ่งของผ่านเข้าออกอยู่ทุกวัน ตัวสถานีจึงยังพอมองเห็นความคึกคักอยู่เสมอ และใกล้ๆ กับตัวสถานีรถไฟ ทั้งบริเวณริมทางรถไฟ และริมถนน ก็ยังเป็นที่ตั้งของร้านอาหารอร่อยๆ อีกหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง อาหารตามสั่ง ร้านขนมหวาน เป็นต้น โดยเฉพาะร้านขายกุยช่ายเจ้าดัง ที่คนซื้อต้องมายืนรอต่อแถว ก็อยู่ใกล้ๆ กับสถานีรถไฟนี่เอง |
||||
มาถึงวัดราชคฤห์ ต้องมาสักการะ “พระพุทธรูปนอนหงาย” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง ลักษณะเป็นพระพุทธรูปนอนหงาย พระเศียรหนุนพระเขนย พระกรทั้งสองข้างแนบพระองค์ หลับพระเนตร และมีพระมหากัสสัปปะนั่งพนมมืออยู่ที่พระบาท ซึ่งตามพุทธประวัตินั้น เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ศิษยานุศิษย์ก็ได้นำพระสรีระของพระองค์มาถวายพระเพลิง แต่พระสรีระของพระองค์ไม่ยอมติดไฟ เนื่องจากพระองค์ต้องการจะรอให้พระมหากัสสปะเดินทางมาถึงเสียก่อน |
||||
นอกจากนั้น หากใครเคยนั่งรถผ่านวัดราชคฤห์บนถนนเทอดไท ก็คงจะเห็นสิ่งก่อสร้างที่ลักษณะคล้ายภูเขาตั้งอยู่บริเวณหน้าวัด สิ่งก่อสร้างที่ว่านั้น ที่จริงแล้วเรียกว่า “เขามอ” หรือภูเขาจำลองที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน และบนยอดเขามอนั้นก็มีพระมณฑป ซึ่งภายในมีพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่ สามารถขึ้นไปกราบไหว้ด้านบนได้ |
||||
วัดจันทารามเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมายาวนานเกินกว่าร้อยปี พระอุโบสถสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา แต่มีการบูรณะครั้งใหญ่ในปี พ.ศ.2517 ภายในประดิษฐานพระประธานปางมารวิชัย มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นศิลปะแบบจีน เป็นเครื่องสูงของจีนที่เขียนขึ้นอย่างประณีต |
||||
เมื่อเดินเข้าไปภายในวัดแล้วก็จะเห็นพระอุโบสถหลังใหญ่ เป็นพระอุโบสถที่สร้างขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในประดิษฐานพระพุทธชินวร พระประธานสมัยสุโขทัยปางมารวิชัย ส่วนด้านหน้าพระอุโบสถ ก็จะมีพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินในท่าประทับนั่ง มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา |
||||
ส่วนด้านข้างกันก็มี “วิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” โดยด้านหน้าวิหารมีพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นพระบรมรูปทรงม้า พระหัตถ์ข้างหนึ่งถือพระแสงดาบชูขึ้นฟ้า ลักษณะเดียวกับพระบรมรูปตรงวงเวียนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ส่วนภายในพระวิหาร มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หลายองค์ และยังมีแท่นพระบรรทมไสยาสน์ ซึ่งเป็นพระราชอาสน์สำหรับประทับแรมทรงศีลและทรงกรรมฐาน ของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ และยังมีพระบรมรูปจำลองขณะที่พระองค์กำลังทรงกรรมฐานอยู่ด้วย |
||||
|
||||
การเดินทางมาย่านตลาดพลู สามารถใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีตลาดพลู แล้วต่อรถกระป๋องมาลงที่ตลาดพลูได้ ส่วนรถโดยสารประจำทางมีสาย 4, 9, 43, 111, 175 |
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 12 กันยายน 2557 15:34 น |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น