หอยแครงในบริเวรอ่าว บ้านดอน จ.สุราษฎร์ฯ ตายเกลื่อน ผู้เลี้ยงฯเสียหายร่วม 500 ล้านบาท จนท.ประมงคาด อาจติดเชื้อพาราสิต รอผลยืนยันแน่ชัดจากศูนย์วิจัยฯ ก่อนเผยฟันธง
เมื่อวานนี้ (11 ก.ย. 57)นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมนายสนิท ศรีวิหค นอภ.กาญจนดิษฐ์ อุตสาหกรรมจังหวัดและประมงอำเภอกาญจนดิษฐ์ ทำการออกตรวจสอบสภาพการตายของหอยแครงในบริเวณอ่าวบ้านดอน เขต อ.กาญจนดิษฐ์ บนเนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ทำให้ชาวประมงผู้เลี้ยงหอยได้รับความเสียหายแล้วประมาณ 400-500 ล้านบาท
ทางด้านเจ้าหน้าประมงที่ได้เก็บตัวอย่างหอยเพื่อส่งไปพิสูจน์ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง จ.สุราษฎร์ธานี โดยคาดการณ์สาเหตุไว้เบื้องต้นว่าสาเหตุที่หอยตายอาจมาจากเชื้อพาราสิตที่ปะปนอยู่ในน้ำซึ่งจะทำให้หอยอ่อนแอ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวคล้ายกับที่ จ.เพชรบุรี เมื่อหลายปีก่อนหรือไม่
ทั้งนี้ นายฉัตรป้อง ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ลงเก็บตัวอย่างน้ำตามพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตถุงมือยางที่ชาวบ้านแจ้งว่ามีการปล่อยน้ำเสียลงคลองครามที่ไหลผ่านสู่อ่าวบ้านดอน ซึ่งผ่าน อ.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแล้วว่าได้มีการบำบัดน้ำเสียอยู่ในระดับมาตรฐานอีกทั้งไม่ได้ปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองครามแต่อย่างใด
ทางด้านนายสมชาย สินมา เจ้าของสินฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม อ.กาญจนดิษฐ์ กล่าวว่า ในพื้นที่หอยแครงตายนั้น ทำการเพาะเลี้ยงอยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะนี้กำลังขยายวงกว้าง เนื่องจากพื้นที่การเลี้ยงที่อยู่ติดกันตายอย่างต่อเนื่องอีกทั้งเกิดน้ำเสีย ตนจึงเป็นห่วงว่าจะลามไปยังแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมด้วย
สนับสนุนเนื้อหาโดย มติชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น