วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557

"สนธิญาณ" ชี้ฝ่ายต้านคสช.รุกหนักจัดตั้งทุกรูปแบบ เตือนยังรู้จัก"บิ๊กตู่"น้อยไป



"สนธิญาณ" ชี้ฝ่ายต้านคสช.รุกหนักจัดตั้งทุกรูปแบบ "ปู"กล้าทวงสัญญา"บิ๊กตู่"-"ณัฐวุฒิ"ส่งสัญญาณ"เข้าใจตรงกันนะ" สร้างวาทกรรมใหม่"คอรัปชั่นความยุติธรรม" เตือนยังรู้จัก"ประยุทธ์"น้อยไป


รายการ "สนธิญาณปักธงตรงประเด็น" ประจำคืนวันที่ 8 กันยายน 2557 ออกอากาศทางช่องทีนิวส์ ดำเนินรายการโดย คุณสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม (ต้อย) และคุณฉัตรชัย ภู่โคกหวาย(อุ๋ย) โดยมีเนื้อหาดังนี้


ฉัตรชัย : สวัสดีครับ ต้อนรับเข้าสู่รายการสนธิญาณปักธงตรงประเด็น วันนี้มากับฉัตรชัย ภู่โคกหวาย ครับพี่ต้อยครับ สวัสดีครับพี่ต้อย


สนธิญาณ : สวัสดีครับอุ๋ย ก็ต้องเรียนท่านผู้ชมนะครับเนื่องจากว่า น้องวิวมีภารกิจมากมายในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการที่จะดูแลฝ่ายรายการข่าวซึ่งเรียกว่างานทางด้านเบื้องหลังของข่าวสารมีภาระมากจึงจะต้องขอให้คุณฉัตรชัยมาช่วยดำเนินการแทนเพราะฉะนั้นดูๆ แล้วก็ให้รำลึกถึงความหลังคืนรังข่าวกลับมาอีกครั้ง


ฉัตรชัย : ประเด็นสำคัญที่น้องวิวต้องห่างหาย จากตรงนี้ไปเพราะว่าหลังจากที่เรามีการปรับผังเป็นรายการข่าว 24 ชั่วโมงนะครับ ทำให้น้องวิวต้องทำงานหนักขึ้น นะครับก็ไปทำงานทางด้านเบื้องหลังก็คือช่วยเหลือทางข้อมูลข่าวสารมานำเสนอให้กับพี่น้องประชาชนแฟนข่าวทีนิวส์ได้เสพได้ชมกัน ประเด็นสำคัญวันนี้นะครับที่เราจะมาพูดคุยกับพี่ต้อยนะครับ ตั้งใจมาเลยสถานการณ์ทางการเมืองหลังจากที่เรามีคณะรัฐมนตรีซึ่งชัดเจนว่าวันศุกร์นี้จะมีการแถลงนโยบายหลังจากนั้นนะครับทุกคนจะเข้าไปปฏิบัติงานในกระทรวงทบวงกรมทั้งหมดทั้งมวล คสช. คณะรัฐมนตรีใหม่ก็จะเดินหน้าไป ส่วนความเคลื่อนไหวอื่นๆ นะครับ กลุ่มฝ่ายต้านอดีตฝ่ายต้าน กระบวนการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น เมื่อสื่อที่ถูกปิดไป ทั้งฝ่ายเรียกว่าเป็นบลูสกายเดิม เอเชียนอัพเดทเดิม ตอนนี้เปิดมาหมดแล้ว แนวรบทางด้านพวกนี้เป็นอย่างไรวันนี้จะมาแจกแจงกัน แล้วก็นอกเหนือจากนั้นนะครับ


สนธิญาณ : รวมทั้งทิศทางการเคลื่อนไหวอื่นๆ จึงเกิดมาเป็นหัวข้อดังนี้นะครับ คสช.เดินหน้าคืนความสุขจนสุดทางหรือแค่กรรมการห้ามมวย เอาละครับขอความเห็นกับแฟนๆ ทีนิวส์นะครับ ว่าสถานการณ์ในขณะนี้คิดว่า คสช.เดินหน้าคืนความสุขจนสุดทางหรือ


ฉัตรชัย : แค่กรรมการห้ามมวย


สนธิญาณ : กรุณาใช้ถ้อยคำที่สุภาพและเหมาะสมนะครับเห็นใจทีนิวส์นะครับ


ฉัตรชัย : ทีนี้มาที่ประเด็นนี้ก่อนพี่ต้อย โผทหารมาใหม่สดๆ ร้อนๆ ต้องพูดกันซักนิดหนึ่งว่าเป็นไปตามคาดหมายหรือไม่อย่างไรครับ


สนธิญาณ : ก็มีหลายเรื่องที่ไม่ได้เป็นไปตามคาดหมายนะ ตำแหน่งหลักเนื่องจากว่าต้องไปดูที่ ทบ. ผมเรียนย้ำนะครับ ให้ความสำคัญส่องกล้องไปที่ ทบ. เวลาจะปฏิวัติ ยึดอำนาจ อยู่ที่ ทบ. ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นการขยับกำลังใน ทบ. จึงเป็นเรื่องสำคัญนะครับ ประการแรกปลัดกลาโหม พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล จากเสนาธิการทหาร ย้ายมาเป็น ปลัดกลาโหม ก็เรียกว่าทำหน้าที่ดูแลงานทางด้านอำนวยการธุรการของกองทัพทุกเหล่าทัพ ซึ่งก็ถือว่าสำคัญนะครับ สิ่งที่เราได้เห็นว่าหลังจากที่ คสช. เข้ามาปฏิบัติการยึดอำนาจ แล้วก็เอา พล.อ.ฉัตรชัย มานั่งอยู่นี้นะครับ ทหารของปลัดกลาโหมก็มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในแง่ของการปฏิบัติงาน ที่สำคัญก็ต้องไปดูละครับ ที่กองทัพบกเป็นแบบนี้ ไม่ผิดโผ หมายความว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ซึ่งในเรื่องดังกล่าวนะครับก็จะค่อนข้างเห็นเป็นทางเดียวกันมาตลอดว่าคนที่จะต้องเป็นผู้บัญชาการทหารบก ก็คือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร


ฉัตรชัย : แต่ก่อนหน้านี้ก็มีความเคลื่อนไหวนะครับ ไปยื่นหนังสือต่อประธานองคมนตรีนะครับ


สนธิญาณ : ก็หมายความว่าในช่วงของ คสช. ก็ต้องเรียนแบบนี้ครับว่า บทบาทของ พล.อ.ไพบูลย์ มีความโดดเด่นเป็นอย่างยิ่งนะ เป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการทางด้านกฎหมายดูแลทุกเรื่องเป๊ะๆๆ ความว่าเป๊ะ ไม่ได้หมายความว่าไปใช้กฎหมายกลั่นแกล้งใครนะครับ แล้วเป็นบุคคลที่มีท่าทีสุภาพเป็นอย่างยิ่ง ต้องเรียนแบบนี้นะครับ ท่านเคยเชิญผมไปคุย แล้วเป็นภาพที่ประทับใจมาจนถึงทุกวัน ไปถึงแล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างหน้าผมเอง แล้วก็บอกว่า สนธิญาณครับกองทัพจะต้องขอโทษที่ต้องดำเนินการปิดทีนิวส์ ก็ท่านขอโทษ ผมก็จะทำอะไรได้ แต่ว่าก็ทำการแลกเปลี่ยนสถานการณ์ให้เข้าใจว่าทำไมถึงต้องปิด มันมีความจำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็เมื่อเราสามารถดำเนินการตามความเคลื่อนไหว ซึ่งท่านก็ให้เห็นว่าทีนิวส์ ท่านรู้ว่าไม่ใช่เป็นสื่อที่มีกลุ่มการเมืองหนุนหลังนะครับ อาจจะมีภาพของผมที่เข้าไปเป็นแกนนำ กปปส. แต่ทีนิวส์ไม่ได้ถ่ายทอดสด การเคลื่อนไหวที่ไม่ใช่ในลักษณะข่าว ก็พูดคุยกันเข้าใจ ท่านก็จะมีวิสัยทัศน์ที่ค่อนข้างจะชัดเจน ทีนี้จะทำให้เกิดเป็นกระแสนะครับว่า จาก พล.อ.อุดมเดช นอนมาๆ คือนอนมาเขาจัดลำดับไล่เรียงมาจะเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ในแง่อาวุโสก็รุ่น 14 พล.อ.ไพบูลย์ ท่านรุ่น 15 พล.อ.อุดมเดช นะครับก็มาเป็นรองผู้บัญชาการทหารบกอยู่แล้ว ที่สำคัญนะครับ ตอนที่ คสช. เป็นเลขา ฐานะเลขานี้สำคัญ รวบรวมทุกเรื่องไว้แล้วก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ทุกเรื่องที่รวบรวมไว้ เพราะเมื่อขึ้นมาที่จะต้องดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก คนที่มีสิทธิ์ประกาศกฎอัยการศึกก็คือคนเดียวนี้นะ คือหนึ่งเดียวนี้นะครับ


ฉัตรชัย : คือเหมือนกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยทำมา


สนธิญาณ : แล้วที่นี้พอดู พล.อ.อุดมเดช นะ ผมเองก็เคยไปคุยเหมือนกันนะ แต่ไม่ได้คุยเป็นการส่วนตัว ท่านก็เชิญทีวีทุกช่องที่ปิดทั้งหมดไปแลกเปลี่ยนพูดคุย ท่าทีชัดเจนมากครับ คือหมายความว่ามาดเข้ม นุ่มนวลแต่เด็ดขาด ตอนนั้นไม่เปิด ยังไงก็ไม่เปิด อธิบายยังไงก็ไม่เปิด แต่พูดจาสุภาพแล้วก็ชี้แจงให้เข้าใจ จำได้นะครับตัวแทนของทีวีเอเชียอัพเดทบอกว่า เปิดเถอะครับเรานี้เป็นคนรากหญ้านะครับ ทีวีเสื้อแดงอยู่กับคนรากหญ้า เราจะได้ไปทำให้คนรากหญ้าเข้าใจการทำงานของ คสช. แต่ผมก็ไม่รู้จะเข้าใจยังไงนะ เมื่อกี้ฟังเกริ่นๆ ณัฐวุฒิก็บอกมาว่า เราก็เหมือนกับต้นไม้ที่ยืนต้นจะต้องขับความชุ่มชื้นมาหล่อเลี้ยงในยามที่พื้นดินภูมิอากาศแห้งผาก รอฝนตกมาใหม่ มันยังสงสัย ว่าฝนที่จะตกมาใหม่ชุ่มช่ำนี้คืออะไร เอาละค้างไว้ก่อน ก็มาดูโผทหาร ก็หมายความว่าอันนี้เดินไปตามลำดับ แต่ในแง่ของคนทำข่าวนะครับ ท่านผู้ชมครับ ถ้าเกาะติดข่าวเราจะเห็นว่า โผทหารมีการขยับอยู่นิดหน่อย ขยับนะครับซึ่งโผก็เป็นโผนะ ข่าวลืมก็คือข่าวลือ ตอนนั้นบอกว่า พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ จะขึ้นไปเป็นประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก เหตุผลที่จะขึ้นไปเป็นที่ปรึกษากองทัพบกเพราะมีอัตราจอมพลเหมือนกันนะครับ แล้ว พล.อ.ไพบูลย์ นะครับจะไปเป็นรองปลัดกลาโหมนะครับ แต่ที่ดูนะครับไม่เป็นไปตามโผ ซึ่งความจริงโผที่ว่ามันอาจจะผิดก็ได้ คำสั่งที่ประกาศออกมานะครับ พล.อ.ฉัตรชัย ก็กลายเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก แล้วก็รอเกษียณก็อยู่ในอัตราจอมพลเหมือนกัน ส่วน พล.อ.ไพบูลย์ นะครับก็ไปเป็น รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพราะฉะนั้นโผผู้บัญชาการทหารสูงสุดนะครับการโยกย้ายในปีนี้น่าสนใจนะครับ ท่าน พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่รองซึ่งถ้าแฟนข่าวทีนิวส์นะครับฟังสนธิญาณรายงานอยู่เรื่อยๆ จะตอกย้ำให้เห็นว่าเขาจะมีรองจาก 3 เหล่าทัพ ทบ. จะได้อัตรา จอมพล 2 คน คือ เสนาธิการทหารกับรอง อีก 1 คน แล้วหลังจากนั้นจะมีรองที่เป็น ทอ. กับ ทร. แต่ครั้งนี้นะครับ รองของกองบัญชาการทหารสูงสุดมี 2 คน ที่มาจาก ทบ. นะครับ คือ พล.อ.วุฒินันท์ ลีลายุทธ นะครับ กับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ในแง่ของผู้ที่ติดตามข่าวมาก็ดูว่ามันไม่ค่อยจะเป็นเรื่องที่ปกตินัก เอาละเป็นเบื้องต้นก่อนนะครับ เวลาหมดในช่วงแรกแล้วเดี๋ยวช่วงหลังจะขยับให้เห็นอีกนิดนะครับ ในลำดับล่างๆ ที่โยกย้ายนะครับ ในกองทัพบก คนที่ขึ้นมาเป็นผู้ช่วย คนที่มาเป็นแม่ทัพก็ยังน่าสนใจอยู่


ฉัตรชัย : เอาละครับเดี๋ยวช่วงหน้ากลับมาติดตามกันต่อนะครับ มีคำถามที่เกิดขึ้นมากมายเลยนะครับกับแฟนข่าวทีนิวส์ก็ดี กับแฟนของพี่ต้อยก็ดี ตกลงไปสมัคร สปช. หรือป่าว ช่วงหน้ากลับมาตอบกันว่ามีอะไรเกิดขึ้นนะครับ ช่วงนี้พักกันซักครู่ครับ(พักช่วง) กลับเข้ามาในช่วงที่สอง ยังอยู่กับผมและพี่ต้อย สนธิญาณนะครับ ยังอยู่กันที่ประเด็นของโยกย้ายนะครับ โผโยกย้ายทหารนะครับ ตอนนี้ไม่ใช่โผแล้ว เป็นความจริงแล้ว





สนธิญาณ : เป็นของจริงแล้วครับ คำสั่งโยกย้ายต้องเรียนแบบนี้ครับ เมื่อกี้นี้พูดถึงตำแหน่งที่สำคัญในกองทัพจะมี ตำแหน่งแม่ทัพ หลังจากแม่ทัพจะเป็นผู้บัญชาการกองพล จากผู้บัญชาการกองพลก็จะเป็นระดับกรม แล้วหลังจากนั้นก็เป็นกองพัน ทีนี้นะครับเที่ยวนี้นะครับ มีการย้ายแม่ทัพหลัก แม่ทัพภาค 4 ทัพ ขยับขยาย ย้ายหมด รวมทั้งหน่วยป้องกันภัยทางอากาศด้วยนะครับ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับแม่ทัพเหมือนกัน มาย้ายกัน 5 แม่ทัพเที่ยวนี้นะครับ เพราะว่า เมื่อพล.ท. ธีรชัย นาควานิช นะครับ แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยทหารบก พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่3 ขึ้นมาเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พล.ท. ธีรชัย รุ่น14 พล.ท.ปรีชา รุ่น 15 วันนี้เนี่ยต้องถือว่าเป็นพล.อ.แล้ว ทั้ง 2 ท่านนะครับ แน่นอนครับ ขึ้นมาตามลำกดับอาวุโส คือกองทัพในยุคพล.อ.ประยุทธ์ เราจะเห็นได้ว่าขยับกันมาเนี่ย ตามลำดับ แม่ทัพนะครับ ที่ย้าย 1 แม่ทัพ 1 นะครับ คนที่มาเป็นแม่ทัพ 1 นะครับ คือ พล.ท. กัมปนาท รุดดิษฐ์ จากผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ายยุทธการนะครับ ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่1 นี่ก็ถือว่ามีความเหมาะสม คือก่อนหน้านี้นะครับ ท่านเป็นผู้บัญชาการกองพลที่1 คือผู้บัญชาการกองพลที่1 ทุกคน โดยทั่วไป ต้องขึ้นมาเป็นแม่ทัพ 1 เรียกว่าเดินเส้นทางสายนี้มานะครับ





โดยทั่วๆไปนะครับ ตอนที่พล.ท. กัมปนาท รุดดิษฐ์ ต้องขยับขยายไปขึ้นอัตราพล.ท. จากรองแม่ทัพพล.ต. ขึ้นเป็นผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกนะครับ ถือว่าย้ายออกข้างใหม่ไปทำงาน ซึ่งตอนนี้เรียกว่ามาเป็นประธานผู้ที่ดูแลงานปรองดองทั้งหมด วันนี้ย้ายกลับมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คือคืนกลับเข้าสู่ที่เก่านะครับ ส่วนแม่ทัพภาคที่3 พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ ก็เป็นแม่ทัพน้อยที่3 อยู่ ส่วนแม่ทัพที่2 นะครับ ก็รองแม่ทัพภาค 2 พล.ต. ธวัชชัย สุกปลั่ง มาตามสายมาตามลำดับนะครับ แม่ทัพที่ 4 ก็มาตามลำดับ พล.ต.ปราการ ชลยุทธ ที่น่าสนใจผมดูที่น่าสนใจ ต้องจับตานะครับคนนี้ นายทหารคนนี้ เที่ยวนี้ก็ขยับเหมือนกันครับ ใครๆก็เรียกว่าเสธฯแดง ตอนนี้ต้องเรียกว่าผู้บัญชาการแดง นั่นก็คือพล.ต.อภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองพลที่1 รักษาพระองค์ จากผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 31 ย้ายมาเป็นผู้บัญชาการกองพลที่1 รักษาพระองค์ หมายความว่าตอนปฏิบัติการใช้กำลังทหารในกรุงเทพฯและการจัดการต่างๆนะครับ เป็นผู้บัญชาการด้วยตัวเองนะครับ เติบโตเราก็เห็นตั้งแต่ปี 52, 53 ตั้งแต่เป็นกรมทหารราบที่11 ปฏิบัติการรักษาความสงบอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ขยับขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่1 คนนี้รุ่นที่20 ครับ ยังมีเวลาอีกพอสมควร ก็ต้องจับตากัน





ฉัตรชัย : ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นที่ผ่านมานะครับ เป็นเรื่องของโผทหารที่ออกมาแล้ว ทีนี้กลับมาที่เรื่องส่วนตัวนิดนึงพี่ต้อย ล่าสุดไม่ว่าไหนจะเป็นในส่วนของสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม มูลนิธิสำนักรักบ้านเกิดนะครับ นครศรีธรรมราช ส่งเข้าประกวด ส่งเข้าไปเป็นสนช. สายสืบจริงหรือไม่จริงอย่างไรครับ เกิดอะไรขึ้นกับเรื่องนี้





สนธิญาณ : ต้องเรียนแบบนี้ก่อน มูลนิธิชื่นฤทัยในธรรม นะครับ เป็นมูลนิธิที่ผมได้จัดตั้งขึ้นด้วยงบประมาณส่วนตัว บนพื้นที่ 50 ไร่ ที่ต้องย้ำว่าเป็นงินส่วนตัวก็ปกติไม่ค่อยหยิบยกมาพูด แต่เนื่องจากในช่วงระยะนี้นะครับอุ๋ย จะมีคนมาถามอยู่เรื่อย จะไปลง สปช. สนช. นะครับ ในมูลนิธินะครับ ในพื้นที่ 50 ไร่ ได้สร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมนะครับ ในสถานปฆิบัติธรรมก็จะประกอบไปด้วย มีกุฏิพระ มีเจดีย์ แล้วก็มีอาคารปฏิบัติธรรมนี่ล่ะครับ ทำแบบเรียบง่ายนะครับ เจดีย์อยู่ในที่ศูนย์กลาง เจดีย์นี้เรียกว่าเจดีย์ พุทธเมตตาโพธิปักขิยธรรม เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร ได้รับพระราชทานมา ในสภาพพื้นที่ตามที่เห็นนะครับ เรียนท่านผู้ชมแล้วก็แฟนทีนิวส์แบบนี้ว่าชีวิตผมนะครับ เรียนว่าชีวิตผม ไม่เคยมีความใฝ่ฝันเรื่องการเมือง





นี่ก็มีคนถามว่าทำไมคุณสนธิญาณไม่สมัคร ก็ต้องบอกว่าผมไม่ได้สมัครหรอก ชีวิตผมถ้ามีความใฝ่ฝันซักอย่างหนึ่งในชีวิต นอกเหนือว่าอยากเห็นบ้านเมืองดีนะครับ ฟังดูท่านก็อ่าจจะรู้สึกอาจจะขยะแขยง ดูท่า เพราะท่าทางไม่น่าจะไปในเส้นทางแบบนี้ เพราะอยากไปพระนิพพาน ต้องพูดกันแบบนี้ในที่สาธารณะวงกว้างๆนี้ แล้วสิ่งที่ผมกลัวที่สุดคือกลัวบาปเป็นความจริง สิ่งที่ผมพยายามจะแสวงหาก็คือบุญ เพราะหัวใจของพระพุทธศาสนาที่บอกว่า จะต้องละเว้นเรื่องบาปทำบุญให้มากแล้วก็ชำระจิตใจบริสุทธ์ นี่คือทิศทางที่อยากเป็นไป ทีนี้นะครับก็เรียนว่า คุณพิพัฒน์ ชนะสงคราม ซึ่งเรื่องว่าทำงานทางด้านข้าวสารเหมือนกับผมมาพอสมควรนะครับ เขาก็น่าจะสมัครก็มาปรึกษากับผม ผมด้วยความสัตย์จริงอยากให้มูลนิธิเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง นี่ลุงกำนันไปทำบุญกับหลวงตา คือพระอุดมเมตตตากิตติคุณ เมื่อก่อนเป็นพระคูเมตตากิตติคุณ ตอนนี้ขยับเป็นท่านเจ้าคุณแล้ว ลุงกำนันไปทำบุญหลังจากแพ้เลือกตั้ง ปี 54





ฉัตรชัย : วันเกิดพอดี





สนธิญาณ : แล้วตรงกับวันที่ 7 กรกฎา พอดี ไปทำบุญรับปากกับผมไว้ก่อนแล้ว สภาพการณ์แบบนี้นะครับ ก็มาเสนอคุณพิพัฒน์ ชนะสงครามนะครับ สื่อขณะทีนิวส์เองนะครับ กลับมาว่าขณะทีนิวส์เองยังไม่ลงข่าวเลย เพราะเห็นว่าสนธิญาณจากมูลนิธิชื่นฤทัยในธรรม เซ็นชื่อเสนอ เพราะคุณพิพัฒน์ทำงานข่าวกับผมมา เป็นสิบยี่สิบปี คิดว่าเผื่อจะเป็นกำลังบ้านเมือง แล้วคนนะครับ ที่ไปสมัครแล้วไปเป็นข่าวคุณ ฉัตรชัย ภู่โคกหวาย นะครับ และผมเรียนว่าทิศทางของทีนิวส์การทำงานของทีนิวส์นะครับ แล้วสิ่งที่ผมพูดมาโดยตลอดก็คือว่า ในการปฏิรูปสื่อที่สำคัญนะครับ จะต้องปฏิรูปการรับรู้ของประชาชนด้วย ทีนิวส์เดินเส้นทางแบบนี้ ผมก็คาดหวังว่าคุณฉัตรชัย น่าที่จะได้เข้าไปเป็นสปช.เหมือนกัน ก็คาดหวัง มีคนเล่าให้ฟังว่าเป็นความคาดหวังนะครับ เพราะฉะนั้นก็ต้องเรียนว่า เหตุผลหลักๆตอนไปเป็นเกินนำกปปส.นะครับ ก็คิดว่าเป็นการทำงานที่จะยุ่งเกี่ยวการเมืองเป็นครั้งสุดท้าย ผมยืนยันผมรักอาชีพสื่อ





การทำสื่อที่รายงานอยู่ทุกวันไม่ได้ออกความเห็น ไม่ได้ไปด่าไปว่าใคร ไม่ได้ทำความมันความสนุก ทุกเรื่องมีหลักฐานและดำเนินการเพื่อที่จะทำให้เกินของบ้านเมือง ยืนอยู่ได้นะ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าแกนบ้านเมืองต้องใช้กฎหมาย ผมบอกว่าที่เหนือกว่ากฎหมายก็คือความจริง ไม่เอาความจริงก็ไม่ได้หรอกครับ ปัญญาความจริงจะทำให้เกิดปัญญา แล้วจะทำให้นำไปสู่การตัดสินใจเพราะฉะนั้นน่าที่ที่ผมทำในฐานะสื่อ มีความสำคัญนะครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไปทำหน้าที่สปช. ไม่สำคัญ สามารถแบ่งหน้าที่กันทำได้ เพราะฉะนั้นขอเรียนนะครับ ไม่ได้สมัคร ไม่ได้มีความปรารถนาในทิศทางทางการเมือง ตัวเองก็อายุมากแล้ว ก็ควรเดินไปสู่อีกเส้นทางนี้ คุณหนุ่มๆแบบอุ๋ยแบบคุณฉัตรชัยเนี่ย ควรจะสนับสนุน ผมก็มีความมุ่งมั่นอยากสนับสนุนให้เข้าไปนั่ง มีข่าวด่วนเข้ามานะครับ





ฉัตรชัย : ข่าวด่วนมีเกิดเหตุเพลิงไหม้นะครับ ที่อาคารตลาดโรงเกลือนะครับ เกิดเหตุขึ้นเมื่อ 20 นาฬิกาที่ผ่านมานะครับ คือในส่วนตรงนี้เองเกิดเพลิงไหม้ที่ตลาดดรงเกลือ ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วนะครับ โดยเพลิงลุกไหม้บริเวณล็อค c ล็อค B ลุกลาม 5-6 ห้อง ซึ่งเป็นอาคารเสื้อผ้ามุ้งของเบ็ดเตล็ด ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว เป็นเรื่องที่เรามารายงานกัน





สนธิญาณ : เพราะเป็นภาพสดๆนะครับ





ฉัตรชัย : เราอยู่ภายใต้ทีนิวส์ สด ลึก จริง อะไรที่เข้ามานะครับ





สนธิญาณ : นี่เป็นภาพจากที่รายงานเข้ามา โรงเกลือนะครับ





ฉัตรชัย : ก็เป็นเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ขึ้น ถ้าใครเคยไปก็คงจำกันได้ เป็นบรรยากาศของการขายเสื้อผ้า เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่วนหนึ่งเองทางเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว ไหนๆพูดเรื่องสื่อแล้วพี่ต้อย พี่ต้อยไม่ได้ไปสมัครนะครับ ชัดเจน ยืนยันชัดเจน ก็มีการเรียกว่าสื่อสารในสำนักข่าวทีนิวส์เขาบอกว่า ผมก็ไปถามคนอื่นเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่ากระบวนการทำข่าวในภาคสนามนะครับ จะมาต่อๆกัน แต่ของเราก็จะมีปัญหานิดหน่อย ตรวจสอบดำเนินการแก้ไขไว้แล้ว ทีนี้กระบวนการสำคัญที่สื่อในมุมมองของพี่ต้อยคิดว่าเป็นอย่างไรทำไมต้องมีการปฏิรูปกัน จำเป็นอย่างไร





สนธิญาณ : ผมคิดว่าเป็นเรื่องของความเพ้อฝันจริงๆนะครับท่านผู้ชมใครที่คิดปฏิรูปสื่อเป็นความเพ้อฝัน คสช.เองยังไม่กล้าแตะเลย ทำไมไม่กล้าแตะ ผมยกตัวอย่างคือเรื่องของสื่อทุกวันเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้ท้าทายพล.อ.ประยุทธ์นะครับ ตอนนี้ เฟซบุ๊ค มี 24 ล้านบัญชีผู้ใช้ในประเทศไทยนะครับ อินเตอร์เน็ตดับไป ครึ่ง ชม. คสช. รีบออกมาแถลงเลยว่าไม่ได้ปิดเฟซบุ๊คไม่ได้ดำเนินการโน่นนี่ ทีนี้ 24 ล้านบัญชีผู้ใช้แสดงว่า 24 คน เป็นผู้สื่อข่าวเองหมดแล้วออกข้าวบ้านเมืองข้าวนู่นข้าวนี่แชร์กันระเบิดระเบ้อ แล้วคนใช้ 24 ล้านคน มาแชร์กันนะครับ ต้องกลับมาเรียนว่า สื่อหนังสือพิมพ์ สื่อดทรทัศน์วันนี้ ก็ต้องไปเอาไป 24 ล้านรายจากเฟซบุ๊คมาเป็นแหล่งข่าวด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นวันนี้นะครับ คือประชาชนเป็นผู้สื่อข่าวเอง และเป็นผู้รับข่าวเอง ไม่จำเป็นต้องมีสื่อกลาง เพราะสื่อกลางจะทำหน้าที่ คือจะทำหน้าที่ที่จะต้องเอาแง่มุมที่ลึกเหมือนกับที่ทีนิวส์ทำ ผมโม้หน่อยนะครับ แต่ไม่ใช่ไปด่า ไปออกความเห็น ไปทิ่มแทง ไม่ได้เอามาเคลื่อนไหวทางการเมือง ทีนิวส์ไม่เคยเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่มีทิศทางชัดเจนที่เอาความจริงที่มาพูดมีหลักฐานประกอบ เพราะฉะนั้นนะครับ ปฏิรูปสื่อ ผมไม่ได้ท้าทายแล้วเพื่อนสื่อคนอื่นๆอาจจะไม่พอใจด้วยซ้ำ ปฏิรูปสื่อต้องแบบเดียวกันครับ จะต้องมีกฎหมายหมิ่นประมาทที่แรงยิ่งกว่าคนปกติ





ฉัตรชัย : หมายความว่าถ้าเป็นสื่อแล้วรัดกุมมากกว่าคนปกติ





สนธิญาณ : ถูกต้อง คือสื่อธรรมดาไปหมิ่นประมาท คือคนจำนวนน้อย สื่อหมิ่นประมาททีไปเป็นแสนเป็นล้าน แต่คิดว่าไม่มีอะไรเดี๋ยวก็กลับมา เดี๋ยวก็ใช้คำว่านิดๆหน่อยๆ ขึ้นศาลก็เรียบร้อยเดี๋ยวก็ยอมความกัน เพราะว่าคนเกรงใจสื่อ ซึ่งผมคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องถูกต้องนะครับ ผมก็เคยถกเถียงเคยพูดกัน หลายคนในวงการสื่อไม่เห็นด้วยกับผม ผมว่าต้องจดทะเบียนวิชาชีพ ทนายความก็ต้องจดทะเบียนวิชาชีพ หมอก็จดทะเบียนวิชาชีพ ทนายความทรยศวิชาชีพ ถอนออกจากอาชีพ หมอทรยศอาชีพ ถอนออกจากวิชาชีพ ผมยกตัวอย่างแบบนี้





ฉัตรชัย : มีองค์กรที่จะเข้ามาจัดการเป็นระเบียบเรียบร้อย





สนธิญาณ : ถูกต้องต้องมีจัดการเรียบร้อย แต่เพื่อนฝูงในวงการบอกว่า จะไปปิดกั้นเสรีภาพจะไปปิดกั้นไม่เหมือนทนายความ ผมถามว่าเพื่อฝูงในวงการเหมือนกัน เอาวันนี้คุณ ณัฐวุฒิ คนอย่างจตุพร ผมไม่ได้นั่น คนอย่างฟากฝั่งพรรคปชช. ที่เป็น ส.ส. มาจัดรายการในสื่อเนี่ย เขาจัดเพราะเขาทำอาชีพสื่อ หรือว่าจัดเพื่อที่จะส่งตัวเองไปเป็นนักการเมืองที่เจริญเติบโตขึ้น เพราะคนที่เป็นนักการเมืองจะต้องพูดและคิดแบบนักการเมือง ไม่ใช่ทำแบบสื่อ เพราะฉะนั้นผมก็บอกว่าผมจะปฏิรูปอะไร





ฉัตรชัย : เอาง่ายๆ แค่ช่อง 3 ที่เกิดขึ้น





สนธิญาณ : นั่นไง ช่อง 3 ยังเกรงใจเลย ไม่กล้าดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด กสทช. ได้ กับทีนิวส์ได้ สื่อเล็กๆ ไม่มีอำนาจไม่มีอิทธิพล นะครับ นี่พูดเรื่องจริง กสทช. กทช. กับช่อง 3 กล้าไหม มีเงินหมื่นล้านกับเงินหนี้สินล้านสองร้อยล้าน มันต่างกัน เพราะฉะนั้นผมก็เรียนแบบนี้ผมก็จะทำหน้าที่สื่อนะครับ อาชีพสื่อก็จะทำไปจนวันตาย เว้นแต่ว่าวันหนึ่งอยากจะแบบคือ ไม่อยากจะมีแรงกระทบให้ก่อเหตุก่อบาป เพราะบางทีเราก็พลาดพลั้งนะครับ พลาดพลั้งติดคุกไม่กลัว เรื่องจริงครับ กลัวที่สุดคือบาป กลัวที่สุดพอหลับตาตายออกจากร่างเดินออกไปยมบาลมากวักมือมา ว่าคนอื่นดีนักนะครับ ว่าไม่ไปใส่ร้ายไปเท็จไปใส่ร้ายป้ายสีนะ ทำให้คนทั้งประเทศเขาปั่นป่วนวุ่นวาย นี่ตกนรกแน่นอนนะครับ





เพราะทำให้เกิดความเสียหายกับคนจำนวนมาก ต้องเรียนแบบนี้ เพราะฉะนั้นก็ทำกันไปเรื่องการปฏิรูปสื่อก็ต้องหวังให้คุณฉัตรชัยไปนะครับ ผมเรียนตรงไปตรงมา จริงๆเราส่งคุณฉัตรชัยไปสมัครก็ไม่ได้เป็นข่าวเป็นอะไรนะครับ แต่ว่าคุณฉัตรชัยกับทีนิวส์เราทำงานเรื่องแนวคิดในเรื่องปฏิรูปการรับรู้สื่อประชาชน 24 ล้าน ทำยังไงล่ะครับ ที่คสช. เอางบประมาณมาและช่วยส่งเสริมว่า ทำให้คนไทยทั้งประเทศมีปัญญาขึ้น การมีปัญญาคืออะไรครับ คือให้เขาเข้าเช็คเข้ากันได้ ให้เขาติดต่อเชื่อมโยงกันได้ทั้งประเทศ ผ่านชุมชนผ่านหน่วยย่อยต่างๆ มีวิทธิการต่างๆที่เราทำการบ้านมาเป็น 10 ปี ถ้าประชาชนในชุมชนต่างๆเขาตรวจสอบเปรียบเทียบข่าวสารกันได้ นักการเมืองนะครับ จะมาจัดมาพูดจะมาออกทีวี จะมาเป่าหูเขายังไงเขาก็ไม่ได้ลุกตาม ไม่ได้เคลื่อนไหวตาม แต่ในข้อเท็จจริง ผมไม่ได้มีปัญหานะครับ





ในการที่คสช.เปิดฟ้าวันใหม่ คือเปิดบลูสกายขึ้นมานะครับ หรือไปเปิดเอเชียอัพเดทเปิดคนเสื้อแดง คือพีชทีวีออกมา ผมไม่ได้มีปัญหาเพราะคนละพวกกัน คนละทางกัน ที่นี่คือทำข่าว ไม่ใช่ไปคิดว่าต้องไปแข่งขันอะไรกัน ทำข่าวแต่นะครับผมเรียนเหมือนเมื่อซักครู่ คนที่เข้าไปจัดรายการหรือดำเนินการอยู่ในช่องนั้น ไม่ได้เป็นสื่อ เขาเป็นนัการเมืองเป็นคนที่ทำงานทางการเมืองเพื่อคาดหวังอนาคตทางการเมือง ไม่ว่าเพื่อส่วนตัวหรือรับใช้เจ้านาย หรือรับใช้พรรคของตัวเอง อันนี้คือความแตกต่างทีวีที่ทำงานทางการเมือง สิ่งที่คสช. นะ ตอนไปปิดเนี่ย คุณจะทำก็ไปตรวจสอบรายรับรายจ่าย ว่าไปเอาเงินเอาทองมาจากไหน นะครับ ไปตรวจสอบทีนิวส์มา มาเลย จะได้รู้





ฉัตรชัย : ถ้าเป็นสื่อก็ต้องมีกระบวนการในการจัดการในการจัดทำ ก็ต้องมีเงินมาลงทุนมาทำกัน





สนธิญาณ : ถูกต้อง ต้องมีรายได้จากการขายโฆษณา ทีวีเสื้อแดงเขาก็มีโฆษณาเยอะนะ ราชการเซ็น บางช่องนะ เซ็นนะ องค์การกองสลากเนี่ย เซ็นล่วงหน้าไปเป็นร้อยสองร้อยล้าน ผอ. อยู่ในสัญา 4ปี เซ้นข้ามสัญญา 5 ปี ไปอยู่ไปทำมาหากินเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นนะครับ เปิดเกิ่นประเด็นเรื่องสื่อขึ้นมา คสช. เดินหน้าคืนความสุขจนสุดทางหรือแค่กรรมการห้ามมวยนะครับ ผมเชื่อมั่นพล.อ.ประยุทธ์ พูดแต่ไหนแต่ไรมา แต่สถานการณ์วันนี้นะครับ ต้องจับตานะครับ ว่าไฟมันเริ่มคลุกรุ่นมาอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นหลังเลือกตั้ง มันจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ เดี๋ยวเราต้องกลับมาติดตาม







ฉัตรชัย : ช่วงหน้านะครับ เรากลับไปตรวจสอบอุณหภูมิ หลังจากสิ่งที่เราบอก สื่อเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำพาสังคมไป ประสบการณ์ที่ผ่านมา 6-7 ปีเห็นกันมาแล้ว มาเป็นตัวสำคัญอย่างไรนะครับ เดี๋ยวช่วงหน้าเรากลับมาตรวจสอบกันครับ (พักช่วง) เอาล่ะครับพี่ต้อยครับ ไหนๆวันนี้เราพูดถึงเรื่องของสื่อ พูดถึงเรื่องของการปฏิรูปสื่อนะครับ เราต้องมาตรวจสอบอุณหภูมิทางการเมืองในขณะนี้ก่อน หลังจากที่สื่อทางการเมือง ต้องใช้คำแบบนี้ เปิดอย่างเป็นรูปแบบแล้ว ทั้งสองฝั่ง ทั้งในส่วนของพรรคปชช. ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็ดี ตอนนี้ชัดเจนในส่วนพรรคปชช. เขาก็มีรายการที่รวบรวมขนคนตั้งแต่ในพรรคเอง มาจัดรายการกัน ขุนพลในช่วงขับเคลื่อนเวลากปปส.เนี่ยก็มาจัดรายการกัน อันนี้ก็ต้องจัดตากัน ประการสำคัญของการจัดรายการกัน เป็นไปเพื่อการนำเสนอเนื้อหาสาระให้กับท่านผู้ชม ใช่หรือไม่อย่างไร


แต่อันนี้ผมต้องนำมาฝากจริงๆ ในส่วนของ พีชทีวี ล่ะครับ ล่าสุดมีการสัมภาษณ์นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีจแกนนำ นปช. อดีตรัฐมนตรีช่วย มาออกรายการ พีช ทอล์ก ณัฐวุฒิออกมาพูดในหลากรายประเด็นครับ พูดในประเด็นที่หนึ่งนะครับ คือเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เขาโดนควบคุมไป นั่นไม่ใช่สาระสำคัญอะไร แต่ประการสำคัญนะครับ ท่าทีของตัวผู้ดำเนินรายการเองก็ดี ท่าทีของคุณณัฐวุฒิก็ดี พูดถึงทิศทางการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. หลังจากนี้ไป สำหรับผมนะครับ คิดว่าจะเป็นการส่งสัญญาอะไร ใช่หรือไม่ เราจะเปิดรวดเดียวเลยนะครับ จะได้กลับมาคุยกับพี่ต้อยว่า ได้ฟังเรื่องพวกนี้แล้ว คิดอย่างไรกับอุณหภูมิที่จะเกิดขึ้น ทีมงานแบบทั้งหมดเลยนะครับ



(คลิปเสียง คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในรายการ พีชทอล์ก ช่องพีชทีวี วันที่ 5 ก.ย. 2557)



ฉัตรชัย : เอาล่ะครับก็ประมวลเรื่องราวที่เกิดขึ้นพี่ต้อยในวันศุกร์ที่ผ่านมา มาให้ดูกันสาระสำคัญในความรู้สึกผม ผมค่อนข้างที่จะเป็นห่วงสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในข้างหน้านะครับ เพราะว่าเราสรุปบทเรียนกันมานะครับ ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดกระบวนการเคลื่อนไหว ของพี่น้องประชาชนนะครับ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเสื้อแดงก็ดี ฝ่ายกปปส.ก็ดีนะครับ ประการสำคัญคือการมีสื่อเป็นตัวเชื่อมโยง พี่ต้อยรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้



สนธิญาณ : ต้องเรียนแบบนี้ครับ การเคลื่อนไหวทางการเมืองนะครับ อาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่จะทำให้เดินไปสู่เป้าหมายคือสื่อต้องเรียนแบบนี้นะครับ ในการต่อสู้ในการเลือกตั้งในสหรัฐฯนะครับ เขาจะมีการวรรคผลการเลือกตั้งนะครับ ด้วยการใช้โพล วัดคะแนนนิยมกันตลอดเวลา แล้วคะแนนนิยมจะมีความพลิกผันนะครับ ในประเทศที่แบบอเมริกา เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งออกสื่อถึงจะเกิดผลนะครับ การออกสื่อนั้นจะประกอบไปด้วย หนึ่งการแถลงข่าว การสปอตโฆษณา หรือการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อที่จะทำให้สื่อได้สื่อสารความคิดของเขา ไปถึงประชาชนที่กำลังจะเลือกตั้งให้ลงคะแนน เพราะฉะนั้นอาวุธคือสื่อครับ ที่จะนำพาไปสู่เป้าหมาย กลับมาดูสถานการณ์บ้านเมืองของเรานะครับ พล.อ.ประยุทธ์ท่านอาจจะเป็นนักรบอันชาญฉลาดนะครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าท่านต้องเรียนรู้ ไม่ได้บังอาจมาสั่งสอนท่านหรอกครับ แต่ผมจะทบทวนการเจริญเติบโตในการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนทั้งสองฝั่งสองฝ่ายให้เห็นภาพนะครับ สิ่งที่ทักษิณระบอบทักษิณและคนเสื้อแดงทำชุดแรก ปั้บ เขาตั้งสื่อเลย สื่อชุดแรกนะ คือมีทีวี หมดไปร้อยกว่าล้าน ไปไม่ได้ ยังจับทางไม่ถูก



คืออะไร คือมานำเสนอข่าวเนี่ย แบบทีนิวส์เนี่ย แต่ไม่สามารถที่จะหารายได้ได้ ตอนนั้นไปตั้งบริษัทกันนะครับ คือจตุพร ณัฐวุฒิ แล้วก็วีระกานต์ ต้องเลิกแล้วก็กลายมาเป็นทีวีสีแดง ทีวีสีแดงเจริญเติบโตขึ้นเพราะอะไร เพราะก่อนก่อขึ้นในคนเสื้อแดงในปี 52 และดำเนินการถ่ายทอด ไม่มีประเทศไหนในโลกหรอกครับ ที่ให้ทีวีเนี่ย มาถ่ายกันชุมนุมนะครับ 24 ชม. แต่ประเทศไทย มันอยู่ในช่วงในการปรับตัวและการต่อสู้ ก็เกิดเหตุขึ้น เสื้อแดงเอาบทเรียนมาจากไหน เอามาจากพันธมิตร ก่อรูปเลียนแบบเดิมไป เพราะในนั้นมีนักยุทธศาสตร์เยอะ ก็เลยทำให้การเจริญเติบโตของมวลชนคนเสื้อแดงเกิดขึ้น มาจากสื่อนะครับ เป็นอาวุธสำคัญ



คือไม่ได้มีช่องเดียวนะครับ มี 4-5 ช่อง ภายใต้ 4-5 ช่องนะครับ ผมต้องเรียนแบบนี้อีกนะครับว่า นักการเมือง ในแต่ละจำหวัด มีหน้าที่สนับสนุนให้แกนนำเอาจานไปติดตามบ้านของประชาชน โดยไม่ต้องซื้อ กล่อง-จาน นะครับ ยิ่งกล่อมทุกวัน 500 - 700 ทำแจกกล่องขายเอง พัฒนามาเป็นขายกล่องเอง หมายถึงพัฒนามาเป็นฐานคนดูนะครับ ครอบคลุมอย่างมากมายมหาศาลสื่อเสื้อแดงเดินมานะครับ ก็ต้องกลับไปถามว่าเขาเอาตังค์มาจากไหน ใครถือหุ้นบัญชีแต่ละเดินแต่ละปีเป็นยังไง ได้กำไรขาดทุนอย่างไร ขายโฆษณาเป็นยังไง ขายของได้เท่าไหร่ ขาดทุนเอาเงินมาจากไหน



ฉัตรชัย : พอพี่ต้อยพูดอย่างนี้ทำให้เรารู้สึกย้อนกลับไปเหมือนกันนะพี่ คือกระบวนในกสทช. กับ กสท. นะ ก่อนให้ไปทำกินอยู่ เขาน่าจะเอาบัญชีมาตรวจสอบก่อน



สนธิญาณ : เพราะนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง คือมาตรการทางการเงิน การตรวจสอบทางการเงิน เป็นเรื่องสำคัญ ผมพูดแบบนี้ ก็อยากให้มาตรวจที่ทีนิวส์นะครับว่า มีรายได้มาจากไหน อย่างไร มาจากขายโฆษณาเท่าไหร่ มาจากการขายสินค้าเท่าไหร่นะครับ แล้วที่ขาดอยู่ไปกู้ไปยืมเอาอะไรไปค้ำประกัน ผมคิดว่ามันชัดเจนนะครับ เพราะฉะนั้นนะครับ เมื่อมาถึงสถานการณ์ในวันนี้นะครับ ผมเรียนว่าคสช. จะเดินหน้าคืนความสุขจนสุดทาง หรือกรรมการห้ามมวยนะครับ นัยยะของความหมายนี้ ประเทศไทยจะคืนกลับมาสู่วิถีแห่งความพอเพียงนะครับ ปฏิเสธด้วยความเข้าใจร่วมมือด้วยความเข้าใจในแนวทางของทุนสามานย์ที่ตะวันตกเดินเข้ามามีผู้คนจำนวนหนึ่ง คือระบอบทักษิณ ชินวัตร ที่ฝังตัวอยู่ในระบบทุน



กลายเป็นทุนสามานย์ปั่นเงิน ตั้งแต่ในประเทศจนไปถึงต่างประเทศเชื่อมโยงทางการเงิน จนมีเงินเป็นแสนล้าน สามารถที่จะซื้อประเทศไทย เมื่อไหร่ก็ได้ ยังคงดำเนินการต่อไปนะครับ ไปดูนะครับ ว่าสิ่งที่คนเสื้อแดงคึกคักตอนที่ชุมนุมเวทีนี้คือเทวีปราบกบฏ คำว่าปราบกบฏคืออะไรครับ ก็คือการไว้ดำเนินการต่อต้านต่อสู้กับกองทัพเมื่อจะมีการรัฐประหาร ผมไม่ได้พูดเองนะ ผมไม่ได้พูดเองนะครับ เมื่อซักครู่เนี่ย พิธีกรถามนัฐวุฒิว่า นปช. ตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร วันนี้จะมาพูดยังไงณัฐวุฒิบอกว่ารายการชื่อเข้าใจตรงกันไหม ผมจะพูดเรื่องยาขอบ เรื่องไกรทอง พูดเรื่องนู่นเรื่องนี่แล้วก็มาดูว่าจะสัมพันธ์อะไรกับสถานการณ์ในปัจจุบันและเรามาทำความเข้าใจ เพราะต้องเข้าใจตรงกันนะ



เพราะในฐานะณัฐวุฒิ เป็นนักการเมืองไม่ใช่เป็นคนทำสื่อนะครับ เขาจะมาพูดกับใครเพื่อให้เข้าให้ใจตรงกันเรื่องอะไร ผมไม่ได้กระตุ้นเตือน ว่าทีนิวส์เอาแล้ว พอเขาเปิดแล้วจะมาปิด คุณไม่ใช่คู่แข้งผมในการขายโฆษณา จำนวนของคนดูผมอยู่ในจำนวนโฆษณา แต่สิ่งที่กำลังกระทำแบบนี้กลับไปดูนี่ว่าวันนี้ขบวนการเสรีไทย ขึ้นเฟซบุ๊คขึ้นมาในแต่ละครั้ง เขาจะใช้ชื่อว่าอะไร เสรีไทยปราบกบฏครับ ใช้ชื่อไทยเสรีไทยปราบกบฏ กับความคิดที่พิธีกรมาถาม กับความคิดที่ปราบกบฏตั้งขึ้นมาเพื่อที่จะกบฏเพื่อที่จะต่อสู้กับรัฐประหาร ความคิดที่มีอยู่ไหม ณัฐวุฒิก็อาจจะบอกว่า วันนี้ก็ค่อยๆก้าวเดินขึ้นมา หลังๆวิ่งไม่ไหว แต่ถ้าเสียงท่อนสุดท้ายที่อุ๋ยเปิดขึ้นมา



ณัฐวุฒิบอกว่า ในยามนี้ภูมิประเทศแห้งแล้ง ต้นไม้ทุกต้นต้องยืนอยู่ให้ได้ ค่อยๆคายน้ำมา รักษาความชุ่มชื้น รอฝนฤดูใหม่มา เมื่อฝนที่ฉ่ำเย็นมา ต้นไม้ก็จะเตริญเติบโตขึ้น ต้นไม้ตอนนี้อย่ายืนตายซะก่อน เข้าใจตรงกันนะ เข้าใจตรงกันว่ายังไง ว่าเราเป็นต้นไม้ต้องรอคอย แล้วฝนที่จะมาคืออะไร การเลือกตั้งประชาธิปไตย หรือสิ่งที่เราจะบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะถ้าการเคลื่อนไหวนะครับ ยังเคลื่อนต่อไปจะให้แบบนี้นะครับ สิ่งที่จะเกิดกระบวนการทางอากาศที่จะลงไปสู่ กระบวนการของมวลชน ผมเรียนนะครับว่า กระบวนการของมวลชนนะครับ มีความแตกต่างกัน ระหว่างกปปส.กับนปช. กระบวนการของมวลชนของนปช. เขาเดินลงสู่หมู่บ้าน ลงสู่กระบวนการการจัดตั้ง ในหลากหลายระดับ ทหารรู้ไหม รู้ ทหารรู้นะครับ จึงส่งทหารลงไป ในพื้นที่ของหมู่บ้านภายใต้การประกาศกฎอัยการศึก ส.ส.เพื่อไทยหลายคน เลิกกฎอัยการศึกเถอะ



ฉัตรชัย : ชาวบ้านไปไหนไม่ได้



สนธิญาณ : ชาวบ้านทำอะไรไม่ได้ ทหารลงไปอยู่ในหมู่บ้าน ก็เลิกสิ ผมไม่ได้ว่าอะไร ต้องดุว่ากองทัพหรือกระบวนการคสช.นะครับ ภายใต้การผ่อนคลายปัจจุบันนะครับ จะทำยังไง สิ่งเหล่านี้สอดประสานกันในขณะที่กปปส.นะครับ ผมเรียนว่า ส่ิงที่ทำมาลุงกำนันทำมาเนี่ย ทำในแง่ความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับประชาชนที่ไม่สามารถทนทานกับระบบทุนสามานย์ไม่ทนทานกับสิ่งที่พรรคเพื่อไทยแก้ไขรธน. กระทำการทุจริตคอรัปชั่น จำนำข้าว และสิ่งอื่นๆ จนคนไทยทนไม่ไหว เดินไปถนนไหนในประเทศ หรือเดินไปถนนในกทม. มีแต่คนออกมา



ฉัตรชัย : คือเกิดจากปรากฏการณ์ความกดดันที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้มาจากการจัดตั้ง



สนธิญาณ : พอสถานการณ์กลับไป กลับไปสู่กลไกของการแต่ละฝ่ายสามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนเดิม เมื่อสื่อออกมาทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในทางเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไปนะครับ เขาบอกว่ายึดอยู่ปีนี้ ผมเรียนยิ่งลักษณ์บอกว่า ก็อวยพร ขอให้ยิ่งลักษณ์เชื่อมั่นความสามารถความสามารถของพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ทำตาม RoadMap ที่สัญญาประชาชน แต่ให้แค่ หนึ่งปีเท่านั้นนะ แต่เขาทวงท่านนะ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าอย่าอยู่เกินหนึ่งปีนะ ท่านสัญญาประชาชน กันเอาไว้เนี่ย ทีนี้ในระหว่งหนึ่งปีนี้ครับ คำถามที่ผมจะถามคสช.กลับบ้าง ว่ากองกำลังติดอาวุธที่ท่านไปจับกุมมาเยอะแยะ เวลาเคลื่อนไหวสัมพันธ์เชื่อมดยงกัน เป็นแนวระนาบการจัดตั้งทั้งหมดไหม สัมพันธ์กับนักการเมืองบางคนในพรรคการเมืองที่บริหารประเทศอยู่หรือไม่ สัมพันธ์กับแกนนำ กับนปช. หรือไม่ จัดกระบวนการเหล่านี้นะครับ เป็นแผงเพื่อจะเรียงหน้าเดิมหรือไม่ วันนี้ท่านอาจจะจับกุมควบคุมตัวที่ติดกำลังติดอาวุธไว้นะครับ ท่านอาจจะคุมกับเขมรรู้เรื่อง แม้เขาไปฝึกกำลังในกำลังในเขมรได้แล้ว แต่ถามว่าวันที่ Road Map จบ นะครับ แล้วการเลือกตั้งเกิดขึ้นเหมือนเดิม สภาวะการที่ท่านบอกว่าท่านจะทำนะครับ ให้เรียกบ้านเมือง ทำมาสิบปีแก้ไม่ได้ซักที ค่อยมาพูดแบบนี้ วันนี้ท่านเข้ามาแก้ สองเดือนสามเดือนจะเรียกร้องอะไรนักหนา ผมไม่ได้เรียกร้อยอะไร ผมเชียร์ท่านมาตลอด



ผมพูดแบบนี้นะครับ แต่ ณ วันนี้นะครับ สถานการณ์แบบนี้น่าเป็นห่วง แต่ภายใต้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ท่านผุ้ชมแล้วแฟนๆทีนิวส์นะครับว่า คสช. เขาจำเป็นนะครับ ในเรื่องของการต้องมีรธน.ชั่วคราว มีแม่น้ำห้าสาย ที่อาจารย์วิษณุว่า เพราะต้องการให้เกิดการยอมรับ จากต่างประเทศมากขึ้นเพื่อให้เกิดการผ่อนคลายในการผ่อนคลายครั้งนี้นะครับ จะเดินไปสู่ทิศทางเดิม เขาจะจัดรายการเพื่อเข้าใจตรงกันนะ เรื่อยๆ เพราะความเข้าใจตรงกันนะ ยังมีการเคลื่อนไหวในทางลับ อีกสายหนึ่งที่คเลื่อนอยู่ตลอดเวลา ผมยกตัวอย่างแบบนี้นะครับ ณัฐวุฒินะครับ พูดสองมาตรฐาน ใครสั่งฆ่าประชาชน วันนี้คอรัปชั่น ความยุติธรรม สองมาตราฐานพูดกันจนพี่น้องประชาชนที่รักทิกษิณ อินไปหมด ใครสั่งฆ่าประชาชน เขาไม่ได้พูดแค่อำมาตย์เแยๆนะ เขาโยงใยไปถึงไหน ท่านรู้ มาต่อนะครับ วันนี้คอรัปชั่น ณัฐวุฒิ พูดว่าไงนะครับ



ฉัตรชัย : เขาบอกว่า เป็นเรื่องที่คุณณัฐวุฒิเขาโพสต์ในเฟซบุ๊คบอกว่า พูดถึงกรณีการเร่งรัดโครงการจำนำข้าว แล้วก็พูดถึงที่อัยการสูงสุดออกมาให้รวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมนะครับ แล้วก็ตำหนิ่ปปช. สาระสำคัญนะครับ ปปช.หลังจากที่อัยการสูงสุดให้ทำตามกระบวนการยุติธรรม ปปช. อาจารย์วิชา มหาคุณ ออกมาวิพากษ์วิจาร์อัยการสูงสุด



สนธิญาณ : เขาว่าคสช. ด้วย ผมจะบอกในเนื้อหาเนี่ย เขาบอกว่าผู้มีอำนาจเนี่ย ที่มีอยู่ในปัจุจบัน เขาเห็นด้วยกับการกำจัดคอรัปชั่น แต่ต้องไม่มีการรัปชั่นอความยุติธรรม นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าผู้มีอำนาจทั้งหลายพบเห็นการคอรัปชั่นความยุติธรรมเหมือนกันหรือไม่ ถ้าผมไม่ทักท้วงยับยั้งจะเกิดข้อละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือเปล่า พล.อ.ประยุทธ์ ระวังนะครับ ท่านผมดอำนาจเนี่ย ท่านไม่ยับยั้งการทุจริตคอรัปชั่นเนี่ย ณัฐวุฒิจะเล่นงานท่านตาม 157 คือพูดแบบนี้ ไม่ใช่เป็นการรายงานข่าว นี่เป็นทิศทางของการเคลื่อนไหว เพื่อสร้างวาทะกรรมระหว่างบ้านเมืองได้ ผมก็เตือนนะณัฐวุฒินะ อาจจะรู้จักพล.อ.ประยุทธ์น้อยไป อันนี้ให้กำลังใจกับคนที่ไม่พอใจระบบทุนสามานย์ การที่ออกมาปะทะกันกลางอากาศแบบนี้ออกมาเคลื่อนกันแบบนี้นะครับ แทนที่เขาจะอยู่ตาม Road Map ปีเดียว อาจจะเป็นหมอดูว่าก็ได้ พบ.อ.ประยุทธ์อาจจะต้องอยู่ไปอีก 4-5 ปี กองทัพจะอยู่ดูแลประเทศอีก 4 -5 ปี ถ้าเริ่มต้นกันแบบนี้นะครับ รายงานข่าว สื่อต้องทำข่าว



ฉัตรชัย : ตกลงว่า เอาจากเนื้อหาที่เห็นเนี่ย ที่คิดว่าในส่วนของกลุ่มคุณณัฐวุฒิกลุ่มแกนนำนปช. เขาจะสมานฉันท์จริงไหม เขาจะเลิกพฤติกรรมต่างๆนาๆที่เคยผ่านมาจริงไหม



สนธิญาณ : ผมไม่ตอบ ผมให้พล.อ.ประยุทธ์ คสช. ไปตอบ กองทัพต้องไปตอบนะครับ ว่าสิ่งที่ท่านพยายามเรียกร้องให้ปรองดองนะครับ เขาคิดเหมือนท่านหรือเปล่า ก็วันนี้ท่านมีอำนาจนะครับ ก็ไปพิจารณากัน ผมเอาเรื่องนี้มาถือเป็นข่าวสารมารายงานให้ทราบเตือนสติมีหลักฐาน มีสิ่งที่เขาคิดเขาเห็นเขาพูด ก็มาเล่าให้ฟังว่าเป็นแบบนี้ ส่วนอย่างอื่นก็ไปคิด



ฉัตรชัย : คำถามสุดท้าย สถานการณ์หลังการเมืองจากนี้ไป สื่อทีวีเต็มรูปแบบแบบนี้ จะร้อนแรงกว่าเดิมไหมครับ



สนธิญาณ : ยังเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่ความร้อนแรงที่อุ๋ยถาม พี่จะตอบแบบนี้ ต้นไม้รักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ รอเวลาฝนมา เวลาฝนมาคือเวลาไหน ยิ่งลักษณ์บอกว่าเชื่อมั่นพล.อ.ประยุทธ์ อย่าลืม Road Map นะ รอไปอีกปีนึงฝนมา ไม่ร้อนแรงภายในปีนี้หรอกครับ เพราะกระบวนการการจัดตั้งที่ลึกลับซับซ้อน เขาก็ทำงานไป ไม่จำเป็นซุ่มซ่อนยาวนาน รอคอยโอกาสนี่เป็นกลยุทธ์ในการต่อสู้ทางการเมืองนะครับ ผมเชื่อว่ากองทัพก็รู้ก็เข้าใจนะครับ ก็ต้องไปดูต่อไป



ฉัตรชัย : เอาล่ะครับ ก็วันนี้หมดเวลาแล้วครับพี่ต้อยครับ ท่านผู้ชมครับก็จับตาดูวันนี้นะครับ จากเดิมเขาเคยใช้สื่อเสื้อแดง เรียกว่าบัญชาการรบนะ ภายใต้สถานการณ์ ณ ตอนนี้เอง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในตอนนี้ สำหรับผมคิดว่าเค้าเนี่ย กำลังส่งสัญญาโค้ดลับเนี่ยนะ ไปถึงแฟนข่าวเขา พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงที่อยู่ทั่วประเทศนี้ สามารถรับชมของเขาได้ ก็จะรับรู้รับทราบไปด้วยกัน อันนี้ก็ต้องจับตาดูสถานการณ์หลังจากนี้ไป จะร้อนแรงขึ้นขนาดไหนอย่างไรนะครับ วันนี้หมดเวลาแล้วครับ พี่ต้อยครับ สวัสดีครับ



สนธิญาณ : สวัสดีครับ





http://www.tnews.co.th/html/content/105632/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น