หลายทศวรรษที่ผ่านมา แม้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงงานหนัก ทรงทุ่มเทพระองค์เพื่อประเทศชาติ และพสกนิกรชาวไทยจนแทบหาเวลาส่วนพระองค์ไม่ได้ แต่ก็มิได้หมายความว่าจะทรงละเลยบทบาทสำคัญในฐานะพระราชบิดาของพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้ง ๔ พระองค์
“ทูลกระหม่อมพ่อ” ตอนที่ ๑
ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงสะท้อนถึงภาพความเป็นกษัตริย์ผู้ทรงงานหนักที่สุดในโลกของทูลกระหม่อมพ่อว่า..
“..ท่านทำงานหนักมาก ทรงเสียสละมาก เป็นตัวอย่างที่ดีของลูกๆ ท่านไม่เคยคิดถึงความสุขของตัวเอง ท่านไม่เสด็จฯ ออกนอกประเทศนานแล้ว เพราะทรงห่วงประเทศมาก ท่านจะทรงคิดถึงแต่ประชาชนของท่าน และจะทรงสอนลูกๆ เสมอว่า ให้นึกถึงคนอื่นก่อนตัวเอง ก่อนจะไปสอนคนอื่นได้ เราต้องทำตัวให้เป็นที่น่าเชื่อถือ …ปกติจะไม่ได้สอนกันตรงๆ แต่จะทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างให้ลูกๆ ได้เรียนรู้จากการตามเสด็จฯ…”
“ทูลกระหม่อมพ่อ” ตอนที่ ๒
พระราชดำรัสที่สั้น แต่ชัดเจนของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ที่หน้ากุฏิสมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๐๘ ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือเทิดพระเกียรติ “ในหลวงของเรา” จัดทำโดย นายอัครวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ คงพอจะเปิดเผยให้เห็นถึงความรู้สึกเบื้องลึกในพระราชหฤทัย ที่พระราชโอรสองค์นี้มีต่อทูลกระหม่อมพ่อ..
“ข้าพเจ้าก็เป็นข้าพระบาทคนหนึ่งของพระเจ้าอยู่หัวฯ มีหน้าที่ต้องเคารพบูชาพระองค์เช่นเดียวกับท่านทั้งหลาย ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่งสุดจะพรรณนา ก็ตอบได้แต่เพียงเท่านี้”
“ทูลกระหม่อมพ่อ” ตอนที่ ๓
จากการตามเสด็จถวายการรับใช้อย่างใกล้ชิดที่สุด ในฐานะที่ทรงเป็นราชเลขาส่วนพระองค์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงทราบดีถึงพระราชหฤทัยลึกๆ ของทูลกระหม่อมพ่อ ได้พระราชทานสัมภาษณ์ไว้ในหนังสือเทิดพระเกียรติ “ในหลวงของเรา” ว่า..
“…ทูลกระหม่อมพ่อจะพระราชทานคำแนะนำในทุกด้านที่ไปทูลถาม เพราะทรงทราบทุกเรื่อง นอกจากนั้นยังทรงสนับสนุนในการค้นคว้าหาความรู้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทรงสนับสนุนให้ใช้ความคิดในทุกด้าน
..ไม่เคยทรงเบื่อที่จะฟังการออกความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ จะทรงช่วยวิจารณ์ความคิดนั้นๆ และพระราชทานพระราชดำริเพิ่มเติมด้วย…
ทูลกระหม่อมพ่อจะทรงใช้ในงานจิปาถะต่างๆ ไม่ได้มีหน้าที่แน่นอน นอกจากได้สนองพระเดชพระคุณในการคอยดูแลสอดส่องทุกข์สุข และให้กำลังใจประชาชน คอยดูแลในด้านงานอาชีพ
…สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่โปรด คือ การกระทำที่ผิดทำนองคลองธรรม ไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ต่อประชาชนชาวไทย
…เวลาที่ทรงพระสำราญ คือ เวลาที่เสด็จฯ ออกวางโครงการพัฒนาประเทศ และเห็นว่าพระราชดำริคงจะมีประโยชน์ต่อประชาชนในเวลาที่เห็นผลจากโครงการต่างๆ
อีกประการหนึ่งคือ การที่ได้ทอดพระเนตรเห็นประชาชนมีน้ำใจต่อท่านและประชาชนด้วยกัน ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินจะมีส่วนช่วยพระองค์ท่านได้ โดยการช่วยตัวเอง ช่วยเพื่อนร่วมชาติคนอื่นๆ มีความรักความสามัคคีกัน ทำตนเป็นพลเมืองดี เห็นแก่ชาติบ้านเมือง..”
และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงเล่าไว้ในหนังสือสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ด้วยว่า เมื่อทรงพระเยาว์ ทุกพระองค์ทรงปฏิบัติตามตารางเวลาที่พระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงวางไว้โดยเคร่งครัด เช่น “…เช้าต้องดูหนังสือ กินข้าวแล้วเดินไปโรงเรียน ตอนบ่ายกลับมาขึ้นเฝ้าฯ ให้ท่านเห็นหน้าเห็นตา บ่ายสองสามโมง ออกอากาศ(เดินเล่น) ห้าโมงขึ้นมากินข้าวเย็น ทุ่มหนึ่งก็เข้านอน…”
“ทูลกระหม่อมพ่อ” ตอนที่ ๔
ในฐานะที่ทรงเป็นสายพระโลหิตแห่งพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งทรงถือว่ามีหน้าที่ผูกพันกับประชาชนยิ่งกว่าพระมหากษัตริย์ของชาติใด แม้จะอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน ก็ทรงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติเพื่อบ้านเมือง ในขณะที่พระสหายอื่นๆ มีหน้าที่เรียนเพียงอย่างเดียว
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงมีรับสั่งเล่าถึงทูลกระหม่อมพ่อว่า..
”ปกติแล้ว ทูลกระหม่อมพ่อทรงให้คำแนะนำทางด้านเทคนิคเสียส่วนใหญ่ งานของพระองค์ท่านกับงานของฉันนั้นก็โยงกันบ้าง ไม่โยงกันบ้าง
อย่างกรณีฝนหลวง ท่านก็ทรงมีรับสั่งถามมาว่า ใช้สารเคมีอย่างนี้แล้วดีหรือยัง หรือสารเคมีอย่างนี้ ถ้าจะหามากๆ หาได้ที่ไหน..”
…………………………………
ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น
พ่อของแผ่นดินผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ปวงข้าพระพุทธเจ้าสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระสิริสวัสดิ์ ทรงพระเกษมสำราญ ปราศจากโรคาพยาธิพิบัติภัยใดมาแผ้วพาน ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นธงชัยแห่งประเทศชาติ และสถิตเป็นมิ่งขวัญแห่งอาณาประชาราษฎร์สืบไปชั่วจิรัฐติกาล กราบแทบพระบาท…
………………………………………
ที่มา : เพจตามรอยพ่อ , หนังสือในหลวงของเรา และหนังสือสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น