วันที่ 28 เมษายน นับเป็นอีกวันหนึ่งที่สำคัญยิ่ง หากนับถอยหลังไปในวันนี้เมื่อปี พ.ศ. 2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเข้าพิธีราชาภิเษกสมรสกับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งมีพระนามเดิมว่า ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร พระธิดาพระองค์ใหญ่ ใน พล.อ.พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ (ม.จ.นักขัตรมงคล กิติยากร) และ ม.ล.บัว กิติยากร
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในครั้งนั้นนับว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกสำหรับพระมหากษัตริย์ไทยในยุคประชาธิปไตย ที่ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่นเดียวกับประชาชนชาวไทยทั่วไป
เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ราชาภิเษกสมรส” ได้มีพระบรมราชโองการสถาปนาพระอัครมเหสี โดยประกาศวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493
ความตอนหนึ่งว่า “..มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ได้ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร ถูกต้องตามกฎหมายและราชประเพณีโดยสมบูรณ์ทุกประการแล้ว..”
พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกำหนดจัดให้มีขึ้นที่พระตำหนักของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ในวังสระปทุม
ตามหมายกำหนดการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับ ณ ห้องรับแขกตำหนักสมเด็จพระพันวัสสาฯ ในวังสมเด็จพระราชบิดา
โอกาสนั้น ม.จ.นักขัตรมงคล กิติยากร และ ม.ล.บัว กิติยากร ทรงพา ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร มายังวังสระปทุม ประทับในห้องรับแขกอีกห้องหนึ่ง รอคอยการพระราชพิธี ม.ร.ว.สิริกิติ์ อยู่ในชุดสีงาช้าง ผ้านุ่งเป็นผ้าทอง สวมสายสะพายปฐมจุลจอมเกล้า สวมสร้อยคอเพชร สร้อยข้อมือเพชร ของเก่าของสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ตุ้มหูเพชรของเก่าฝีมือทำขึ้นใหม่
เมื่อได้เวลาพระฤกษ์ ม.จ.นักขัตรมงคล ทรงพา ม.ร.ว.สิริกิติ์ ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ที่นั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ทูลเกล้าฯ ถวายสมุดทะเบียนสมรส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงลงพระปรมาภิไธย
จากนั้น ม.ร.ว.สิริกิติ์ลงนาม ซึ่งขณะนั้นมีพระชนมายุเพียง 17 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ม.จ.นักขัตรมงคล จึงทรงลงพระนามในฐานะพระบิดา และ ม.ล.บัว ลงนามในฐานะพระมารดา จากนั้นทรงโปรดให้ราชสักขีลงนามเป็นลำดับต่อมา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงร่วมทุกข์ร่วมสุข ทรงเคียงคู่ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประชาชนชาวไทยมาด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยความรักและความเมตตาและทรงไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ความลำบาก
นับจากวันนั้นถึงวันที่ 28 เมษายน 2558 เป็นเวลา 65 ปีเต็ม และในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ ขอทั้งสองพระองค์ทรงพระเจริญ เสด็จอยู่เป็นคู่พระมิ่งขวัญร่มโพธิ์ทองของปวงประชาชาวไทยตลอดชั่วกาลนาน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น