ตอนสายวันที่ 6 ต.ค.57 ผมเขียนเรื่องราวของ วินัย สวัสดิ์วิเชียร์ เกษตรกรที่ปลูกยางพารา 5 ไร่ที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง แล้วไปหาความรู้จากศูนย์บริการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ เผยแพร่ในเฟซบุ๊ก
ด้วยเจตนาที่จะให้เรื่องนี้เป็นเหมือนเทียนเล่มเล็ก ๆ ที่ช่วยส่องทางให้ชาวนาที่กำลังประสบปัญหาภัยแล้ง ทำนาไม่ได้ ได้นำไปพิจารณาว่า ควรจะหาทางช่วยตัวเอง หรือจะรอคอยความช่วยเหลือจากผู้มีอำนาจ
ปรากฏว่ามีหลายท่านเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นและตั้งเป็นคำถามที่น่าสนใจหลายข้อ และผมก็ได้ตอบไปตามประสบการณ์และสติปัญญาที่มีอยู่ – อ่านดูแล้วน่าจะนำมาบอกเล่าต่อจึงขอคัดมาดังนี้
ผู้ใช้นามว่า บุษยศรี ธงชัย เริ่มว่า – เชื่อเช่นเดียวกันค่ะ แนวเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ทุกคนอยู่ได้แบบยั่งยืน
ผมตอบไปว่า – แต่ก็น่าเสียดายนะครับที่เกษตรหลายคนยังไม่รู้ และที่น่าเจ็บใจไม่มีรัฐบาลไหนกระตุ้นให้เกษตรกรตื่นตัวในเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ต้องกู้เงินใครมาแจกชาวนา !
ผู้ใช้นามว่า บุษยศรี ธงชัย ให้ความเห็นว่า – นักการเมือง ก็กลัวชาวนาจะพึ่งตนเองได้ไงคะ …เด๋วจะหาเรื่องกู้ไม่ได้ ฮาาาา
ผมตอบไปว่า – เสียดายผมไม่ได้เป็นชาวนา ไม่งั้นผมจะชวนเพื่อนชาวนาหันมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริง ๆ จัง ๆ หันหลังให้เศษเงินเหมือนขอทานครับ
ผู้ใช้นามว่า Chawalin Kanjanasiriroj ให้ความเห็นว่า – ตอนนี้ชาวนาเสพติดการช่วยเหลือโดยการแจกเงิน มากกว่าการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงตามทฤษฎีขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวตามเหตุผลของอาจารย์ภาณุมาศนั่นแหละค่ะ
ผมตอบว่า – ผมรู้ว่านักการเมืองสารเลวมันมอมเมาชาวนามานานแล้ว และร่วมกับข้าราชการบางกลุ่มทำนาบนหลังชาวนามานานแล้ว / พอมี คสช.ผมจึงดีใจ แต่ ที่ไหนได้ 555 – ครบ 1 ปีเมื่อไหร่มาว่ากันครับ (ผมไม่อยากเสียสัจจะ)
ผู้ใช้นามว่า กฤษณา กุลทรัพย์ศักดิ์ แสดงความเห็นว่า – ชาวนาส่วนใหญ่ทำตามทฤษฎีไม่ค่อยได้เพราะมีงานให้ทำตลอด ไม่มีว่างงานหรือตกงาน ซึ่งพื้นฐานเดิมชาวนาบางส่วนมีความขี้เกียจ มีหนี้ค่ะ
ผมตอบผู้ใช้นามว่า กฤษณา ว่า – รับทราบครับ ผมก็มีหน้าที่แค่ผู้บอกเล่า เหมือนบอกเล่าผู้บริหารประเทศนั่นแหละครับ เห็นเรื่องนี้เหมาะกับชาวนาก็เอามาบอก – ส่วนใครจะเห็นอย่างไรก็ว่ากันไปครับ แหะ แหะ (ผมมิได้เดือดร้อนด้วยน่ะ อิอิ)
ผู้ใช้นามว่า Chawalin Kanjanasiriroj บอกว่า - ดิฉันว่าเราทุกคนเดือดร้อนแน่ค่ะถ้าบริโภคข้าวที่มีแต่ยาค่าแมลงเต็มไปหมด และ ต้องเป็นเกษตรอินทรีย์อย่างเดียวถึงจะปลอดภัยค่ะ
ผมตอบไปว่า – รอหน่อย นะครับ ผมทราบว่าที่ สปป.ลาว กำลังเร่งปลูกครับ 555 ส่วนจะนำมาขายคนไทยหรือเปล่าไม่แน่นะครับ – ส่วนของเราตอนนี้รัฐบาลจะกู้แสนล้านมาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอยู่ครับ – ฮา
Chawalin Kanjanasiriroj ถามว่า – แล้วเมื่อไหร่ไทย จะพึ่งตนเองให้ได้ล่ะคะ ในเมื่อเราต้องรับประทานทุกวัน เราไม่ได้ทำนาเอง คงต้องรอชาวนาที่ฉลาดๆถึงจะมีข้าวปลอดสารพิษกิน เห็นหลายที่หลายแห่งก็เริ่มตื่นตัวกันมากขึ้น และข้าวปลอดสารพิษจะมีราคาแพงกว่า
ผมตอบว่า – จนปัญญาที่จะตอบครับ – เรื่องนี้เป็นหน้าที่ผู้บริหารประเทศน่ะ ข่าวว่ามีแผนจะลดพื้นที่สำหรับปลูกข้าวเพื่อแก้ปัญหาข้าวล้นตลาด ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแบบโง่ ๆ (ฮา) เห็นข่าวนี้แล้วอยากร้องไห้ครับ
จำได้ว่าในหลวงทรงให้ความสำคัญกับการปลูก ข้าวมาก ทรงสร้างแปลงสาธิตการปลูกข้าวในพระราชวังสวนจิตร มีโรงสี มีทุกอย่าง หากผมจำไม่ผิดพระองค์เคยทรงมีพระราชดำรัสถึงข้าวด้วย(ไว้จะค้นมาให้อ่าน)
ที่่ผมบอกว่าเป็นการแก้ปัญหาโง่ ๆ เพราะลองคิดกันเล่น ๆ นะครับ พอเราลดการปลูกข้าวตามคำสั่งผู้มีอำนาจ(ฮา) แล้วปีหน้า 2558 เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิดในประเทศที่ปลูกข้าวกินเหมือนเรา
เราก็คงไม่มีข้าวขายประเทศเหล่านั้น หรือหากเราโชคร้ายปลูกข้าวตามที่ผู้มีอำนาจจำกัดพื้นที่ให้แล้วปีหน้าน้ำ ท่วมทั้งประเทศเหมือนปี 53 อะไรจะตามมานึกเอาเองครับ 555
ผู้ใช้นามว่า บุษยศรี ธงชัย เข้ามาอีกครั้ง – พ่อ หนูก็เป็นชาวนาค่ะ…ชาวนาส่วนใหญ่ทำนาแล้วส่งลูกไปเรียนสาขาอื่นหมด อยากให้ลูกเป็นเจ้าคนนายคน ทำงานสบายๆ ไม่ต้องมาตากแดด…นี่คือค่านิยมของคนสมัยก่อน…และคนส่วนใหญ่ก็มักจะดูถูก อาชีพชาวนา….
ผมตอบไปว่า – ที่คุณว่ามาก็มีส่วนถูกนะครับ แต่ส่วนสำคัญคือผู้บริหารประเทศ ต้องให้การสนับสนุนชาวนาอย่างจริงใจ – ไม่ใช่เห็นชาวนาเป็นคนไร้การศึกษาจึงหลอกใช้เป็นเครื่องมือก้าวไปสู่การมี อำนาจ
ผู้บริหารประเทศต้องให้เกียรติชาวนา ทำให้ชาวนาภาคภูมิใจในงานอาชีพ ให้ลูกหลานชาวนาเห็นว่าอาชีพเกษตรกรเป็นอาชีพที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี
แต่ที่ผ่านมาผู้บริหารประเทศที่มาจากนักการเมืองมันเลว มันร่วมมือกับข้าราชการเลว และพ่อค้าชั่ว อาศัยความไร้การศึกษาของชาวนาเป็นเหยื่อของพวกมันครับ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยชาวไร่ชาวนาและเกษตรกร พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อค้นหาสาเหตุว่าเพราะอะไรการทำไร่ทำนาจึงมีปัญหา
แล้วพระองค์ก็ทรงพบว่า ดิน น้ำ ลม มีส่วนสำคัญในการเกษตร พระองค์ทรงมีพระราชดำริในเรื่องเหล่านั้นมากมายเพื่อหาทางช่วยเหลือพสกนิกร ของพระองค์ หลังจากทรงประสบความสำเร็จ พระองค์ก็ทรงพระราชทานสิ่งเหล่านั้นลงมา
แต่อนิจจาผู้บริหารประเทศแต่ละคนแต่ละค่ายเหมือนไก่ได้พลอย ปล่อยปละละเลยเหมือนเกรงว่า ชาวนาจะลืมตาอ้าปากและฉลาดขึ้นจนพวกมันหลอกลวงไม่ได้อย่างนั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น