วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ระทึก! มือปืนยิงทหารเจ็บ ก่อนบุกยิงในรัฐสภาแคนาดา

ไทยรัฐออนไลน์- เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ยิงปืนทั้งภายในและภายนอกอาคารรัฐสภาแห่งชาติในกรุงออตตาวา ทำให้มีทหารได้รับบาดเจ็บ 1 นาย มือปืนเสียชีวิต…

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เหตุยิงกันเริ่มขึ้นที่ อนุสรณ์สถานสงครามแห่งชาติ (National War Memorial) เมื่อเวลาประมาณ 9:52น. วันพุธ (22 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมือปืนคนหนึ่งซึ่งมีปืนไรเฟิลเป็นอาวุธ ยิงปืนใส่ทหารซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อนุสรณ์สถานแห่งนี้จนบาดเจ็บ 1 นาย




รถตำรวจคันหนึ่งจอดอยู่หน้าอาคารรัฐสภาแคนาดา

จากนั้นมือปืนจึงวิ่งเข้าไปในอาคารรัฐสภาแห่งชาติที่อยู่ใกล้ๆ ในขณะที่เหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมทั้งนายกรัฐมนตรี สตีเฟน ฮาร์เปอร์ กำลังเตรียมตัวเข้าร่วมการประชุม ทำให้ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือนำกำลังเข้าปิดล้อมอาคารัฐสภา และที่ทำการนายกฯทันที

มือปืนยิงปืนภายในอาคารรัฐสภาหลายนัด โดยระลอกแรกเกิดขึ้นบริเวณห้องโถง ตามด้วยบริเวณโถงทางเดินใกล้ทางเข้าห้องสมุดของรัฐสภา ด้านตำรวจกรุงออตตาวาประกาศเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้พื้นที่อาคารรัฐสภา และแนะนำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารใกล้เคียงหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้หน้าต่างหรือขึ้นไปบนดาดฟ้า

ขณะเกิดเหตุ นาย มาร์ก ชตราห์ล ส.ส.คนหนึ่งทวีตข้อความจากภายในรัฐสภาว่า เช้านี้สถานการณ์ในออตตาวาตึงเครียดอย่างมาก มีการยิงปืนหลายนัดภายนอกห้องประชุมของพวกเขา ขณะที่ส.ส.โทนี คลีเมนต์ ทวีตข้อความว่า เขาได้ยินเสียงปืนอย่างน้อย 30 นัด และนายกฯฮาร์เปอร์ได้รับการช่วยเหลือออกไปได้อย่างปลอดภัย




ตำรวจกำลังจะเข้าไปในอาคารรัฐสภาแคนาดา หลังคนร้ายอย่างน้อย 1 คนบุกเข้าไปและยิงปืนหลายนัด

ต่อมา ส.ส. บ็อบ ซิมเมอร์ ทวีตข้อความอ้างว่า มือปืนที่ก่อเหตุอย่างน้อย 1 คนเสียชีวิตแล้ว แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ยังไม่แน่ชัดว่าผู้ก่อเหตุมีมากกว่า 1 คนหรือไม่แต่มีรายงานด้วยว่าเกิดเหตุยิงกันที่ศูนย์การค้า ‘รีดู เซ็นเตอร์’ ใกล้ๆอาคารรัฐสภาด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานพบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต

อนึ่ง เหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากแคนาดาประกาศเพิ่มระดับการรับมือภัยคุกคามจากการก่อการร้าย หลังเกิดเหตุชายผู้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามยิงทหารเสียชีวิต 1 นายและบาดเจ็บอีก 1 นายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา




http://www.chaoprayanews.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น