วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แรง! "มัลลิกา"โพสต์เฟซบุคโต้พานทองแท้ "กู​ไม่กลัวพ่อมึง จำ​ไว้" คลิกอ่าน "กูๆมึงๆ ในแวดวงการเมือง"



หลัง "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสข้อความที่สร้าง "วาระ" อีกครั้งกับข้อความในเฟซบุค




"ผม​เชื่อว่าคุณพ่อผม​ไม่​เคย​ทำร้ายประ​เทศ​ไทยนะครับ มี​แต่พวกที่ชอบปล้นประชาธิป​ไตยรุม​ทำร้ายคุณพ่อผมมากกว่าครับ"

"ตัวผม​เอง​ในฐานะตัว​แทนของ ลูกหลานที่​โดนข่มขู่ อยากจะปิดท้าย​โพสต์นี้ด้วยวลีอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปรา​โมช ที่ว่า "กู​ไม่กลัวมึง" นะครับ ​แต่คุณพ่อผม​เบรก​ไว้ บอกว่า​โอ๊คต้อง​ให้​เกียรติ​ผู้​ใหญ่ อย่างน้อย​เขา​ก็​เคย​เป็น​เพื่อนพ่อ"

"​ไม่​เป็น​ไรครับ...ขู่​ได้ขู่​ไป...อย่า​ให้พ่อกูกลับมา​ได้​ก็​แล้วกัน"


ขณะที่ มีการตอบโต้ทันทีจาก "มอลลี่" มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บนเฟซบุคส่วนตัวของเธอทันทีชนิดไม่เคยหลุดกระแสเก็บทุกเม็ด



"​ไม่ต้องรอพ่อมึงกลับมาหรอก นะคะ พานทอง​แท้ ​เพราะที่นี่ประ​เทศ​ไทย "​ไม่มี​ใครกลัวมึง" ขอยกคำกล่าวอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปรา​โมช ​เช่นกัน ที่ว่า "กู​ไม่กลัวมึง" นะคะ พานทอง​แท้ ​แต่​แถม​ให้ด้วยว่า ..
"กู​ไม่กลัวพ่อมึง จำ​ไว้" นะคะ

กูๆ มึงๆ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันดุเด็ดเผ็ดมัน แต่หากย้อนไปดูคต้นกำเนิด "กูไม่กลัวมึง" ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เขียนในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู" หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 15 มีนาคม 2526 กลายเป็นวาทะแห่งยุคนั้นว่า "กูไม่กลัวมึง จะบอกให้ตรง ๆ"การกล่าวถ้อยคำนี้ในขณะนั้นเพื่อต่อต้านความพยายามที่จะกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มทหารในยุคหนึ่ง





คลิกอ่าน... กูๆมึงๆ ในแวดวงการเมือง กับตำนาน "กู"ไม่กลัวมึง (ทำไมใครๆก็ชอบใช้)








กูๆมึงๆ ในแวดวงการเมือง กับตำนาน "กู"ไม่กลัวมึง (ทำไมใครๆก็ชอบใช้)


Prev
1 of 7
Next

updated: 10 ก.ค. 2555 เวลา 16:10:55 น.

โดย มิสนอราห์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


กลายเป็นประเด็นจากโลกออนไลน์สู่ประเด็นสื่อกระแสหลักอีกระลอกกับ กรณีการโพสข้อความของ "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สร้าง "วาระ" อีกครั้งกับข้อความในเฟซบุค



"ผม​เชื่อว่าคุณพ่อผม​ไม่​เคย​ทำร้ายประ​เทศ​ไทยนะครับ มี​แต่พวกที่ชอบปล้นประชาธิป​ไตยรุม​ทำร้ายคุณพ่อผมมากกว่าครับ"

"ตัวผม​เอง​ในฐานะตัว​แทนของ ลูกหลานที่​โดนข่มขู่ อยากจะปิดท้าย​โพสต์นี้ด้วยวลีอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปรา​โมช ที่ว่า "กู​ไม่กลัวมึง" นะครับ ​แต่คุณพ่อผม​เบรก​ไว้ บอกว่า​โอ๊คต้อง​ให้​เกียรติ​ผู้​ใหญ่ อย่างน้อย​เขา​ก็​เคย​เป็น​เพื่อนพ่อ"

"​ไม่​เป็น​ไรครับ...ขู่​ได้ขู่​ไป...อย่า​ให้พ่อกูกลับมา​ได้​ก็​แล้วกัน"

ข้อความในเฟซบุคของพานทองแท้ระบุ

ขณะที่ มีการตอบโต้ทันทีจาก "มอลลี่" มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บนเฟซบุคส่วนตัวของเธอทันทีชนิดไม่เคยหลุดกระแสเก็บทุกเม็ด



"​ไม่ต้องรอพ่อมึงกลับมาหรอก นะคะ พานทอง​แท้ ​เพราะที่นี่ประ​เทศ​ไทย "​ไม่มี​ใครกลัวมึง" ขอยกคำกล่าวอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปรา​โมช ​เช่นกัน ที่ว่า "กู​ไม่กลัวมึง" นะคะ พานทอง​แท้ ​แต่​แถม​ให้ด้วยว่า ..
"กู​ไม่กลัวพ่อมึง จำ​ไว้" นะคะ

กูๆ มึงๆ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันดุเด็ดเผ็ดมัน แต่หากย้อนไปดูต้นกำเนิด "กูไม่กลัวมึง" ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เขียนในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู" หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 15 มีนาคม 2526 กลายเป็นวาทะแห่งยุคนั้นว่า "กูไม่กลัวมึง จะบอกให้ตรง ๆ"การกล่าวถ้อยคำนี้ในขณะนั้นเพื่อต่อต้านความพยายามที่จะกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มทหารในยุคหนึ่ง



ถ้อยคำกูไม่กลัวมึงที่ติพิมพ์ในบทความซอยสวนพลูหน้า2ของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ได้หยุดการแทรกแซงทางการเมืองของทหารในครั้งนั้นได้สำเร็จ

มาสู่ยุคหลังการเมืองยุคก่อนรัฐประหาร พ.ศ. 2549 คำว่า "กูไม่กลัวมึง" ได้ยินครั้งแรกมาจาก "สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาประกาศลั่น ในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลืองบนเวทีพันธมิตรเมื่อ 30 ตุลาคม 2551

"เวลานี้มีวิชามารบอกว่า ผมของจริงของแท้ อ้างว่า ถ้ารักในหลวงให้อยู่ที่บ้าน เราอยู่ที่บ้านไม่ได้หรอก เพราะชาติกำลังถูกกลืน ผมไม่อยากพูดว่าบางคนที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทที่รับเงินของระบอบทักษิณ เดือนละ 5 แสนบาทมานานหลายปีแล้ว เพื่อเป็นสปาย อย่าให้เอ่ยชื่อว่าใคร แต่ถ้าติดตามมาตลอดจะรู้ว่าเป็นใคร บางคนเวลาขึ้นเครื่องบินก็ไปเบ่งกับการบินไทยขอเอาไวน์ที่กินเหลือเพื่อจะ เอากลับบ้าน อย่าให้ผมเปิดโปงมากกว่านี้ ทำแอ็กว่าเป็นของจริง ตัวผมเองไม่มีเครื่องราชฯ เป็นแค่ลูกเจ๊กธรรมดา แต่กูไม่กลัวมึงหรอก"




หรือในช่วงที่แกนนำเสื้อแดงอย่างขวัญชัย ไพรพนา ถูกจองจำติดคุกหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ีราชประสงค์เคยเขียนจดหมายถึงคนเสื้อแดงเมื่อช่วงเดือนธันวาคมพ.ศ.2553จากในเรือนจำมีข้อความหนึ่งระบุว่า"เมื่อเรามั่นใจว่า เราบริสุทธิ์อย่าไปกลัว ต้องยืมคำพูดอาจารย์หม่อม มาใช้ กูไม่กลัวมึง"

กระทั่งไม่นานมานี้ช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2555 สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฝ่ายความมั่นคง จากพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยออกมาลั่นว่า "กูไม่กลัวมึง"ด้วยเหมือนกัน ระหว่างมีการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2553



"ทั้งนี้ ทหาร ตำรวจที่ออกปฏิบัติการ ผมเป็นคนออกคำสั่ง ผมพร้อมจะสู้คดี ผมจะไม่หนีไปไหน เหมือนคนขี้ขลาดบางคน ผมอยู่ป่าช้าแล้ว ไม่กลัวผีและ กูไม่กลัวมึง หากดีเอสไอจะเล่นงาน"

เป็นวาทะ "กูไม่กลัวมึง" ที่นิยมกันมาเป็นระยะในวงการเมือง แม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยวิดีโอลิงก์ประกาศคล้ายๆทำนองนี้ช่วงเหตุการณ์เดือนเมษายน 2552



"ระหว่างที่ผมอยู่ก่อนจะถูกปฏิวัติก็ถูกลอบสังหาร แล้ววันนี้ก็ได้ข่าวว่าเขาจะออกหมายจับผม และจะส่งคนเอาตัวผมไป แล้วก็ส่งอีกชุดหนึ่งมาฆ่าผมด้วย คนที่มาถึงขนาดนี้ไม่มีใครกลัวใครหรอกครับ"

นัยยะของคำว่า "กูไม่กลัวมึง" ที่ออกมาแพร่หลาย และกลับมาก้องอีกครั้ง ได้สะท้อนย้อนไปถึงบรรยากาศการเมืองในห้วงก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 ที่สังคมขณะนั้น เป็นลักษณะของแต่ละฝ่ายต่างก็ประกาศ "กูไม่กลัวมึง"เช่นกัน

เป็นบรรยากาศเตรียมพร้อม และเข้มข้นในที่ตั้งของแต่ละฝ่าย ชนิดที่ไม่มีใครกลัวใคร...






http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1341912828&grpid=03&catid=no

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น