หลัง "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสข้อความที่สร้าง "วาระ" อีกครั้งกับข้อความในเฟซบุค
"ผมเชื่อว่าคุณพ่อผมไม่เคยทำร้ายประเทศไทยนะครับ มีแต่พวกที่ชอบปล้นประชาธิปไตยรุมทำร้ายคุณพ่อผมมากกว่าครับ"
"ตัวผมเองในฐานะตัวแทนของ ลูกหลานที่โดนข่มขู่ อยากจะปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยวลีอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ว่า "กูไม่กลัวมึง" นะครับ แต่คุณพ่อผมเบรกไว้ บอกว่าโอ๊คต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนพ่อ"
"ไม่เป็นไรครับ...ขู่ได้ขู่ไป...อย่าให้พ่อกูกลับมาได้ก็แล้วกัน"
ขณะที่ มีการตอบโต้ทันทีจาก "มอลลี่" มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บนเฟซบุคส่วนตัวของเธอทันทีชนิดไม่เคยหลุดกระแสเก็บทุกเม็ด
"ไม่ต้องรอพ่อมึงกลับมาหรอก นะคะ พานทองแท้ เพราะที่นี่ประเทศไทย "ไม่มีใครกลัวมึง" ขอยกคำกล่าวอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เช่นกัน ที่ว่า "กูไม่กลัวมึง" นะคะ พานทองแท้ แต่แถมให้ด้วยว่า ..
"กูไม่กลัวพ่อมึง จำไว้" นะคะ
กูๆ มึงๆ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันดุเด็ดเผ็ดมัน แต่หากย้อนไปดูคต้นกำเนิด "กูไม่กลัวมึง" ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เขียนในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู" หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 15 มีนาคม 2526 กลายเป็นวาทะแห่งยุคนั้นว่า "กูไม่กลัวมึง จะบอกให้ตรง ๆ"การกล่าวถ้อยคำนี้ในขณะนั้นเพื่อต่อต้านความพยายามที่จะกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มทหารในยุคหนึ่ง
คลิกอ่าน... กูๆมึงๆ ในแวดวงการเมือง กับตำนาน "กู"ไม่กลัวมึง (ทำไมใครๆก็ชอบใช้)
กูๆมึงๆ ในแวดวงการเมือง กับตำนาน "กู"ไม่กลัวมึง (ทำไมใครๆก็ชอบใช้)
updated: 10 ก.ค. 2555 เวลา 16:10:55 น.
กลายเป็นประเด็นจากโลกออนไลน์สู่ประเด็นสื่อกระแสหลักอีกระลอกกับ กรณีการโพสข้อความของ "โอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สร้าง "วาระ" อีกครั้งกับข้อความในเฟซบุค
"ผมเชื่อว่าคุณพ่อผมไม่เคยทำร้ายประเทศไทยนะครับ มีแต่พวกที่ชอบปล้นประชาธิปไตยรุมทำร้ายคุณพ่อผมมากกว่าครับ"
"ตัวผมเองในฐานะตัวแทนของ ลูกหลานที่โดนข่มขู่ อยากจะปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยวลีอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่ว่า "กูไม่กลัวมึง" นะครับ แต่คุณพ่อผมเบรกไว้ บอกว่าโอ๊คต้องให้เกียรติผู้ใหญ่ อย่างน้อยเขาก็เคยเป็นเพื่อนพ่อ"
"ไม่เป็นไรครับ...ขู่ได้ขู่ไป...อย่าให้พ่อกูกลับมาได้ก็แล้วกัน"
ข้อความในเฟซบุคของพานทองแท้ระบุ
ขณะที่ มีการตอบโต้ทันทีจาก "มอลลี่" มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บนเฟซบุคส่วนตัวของเธอทันทีชนิดไม่เคยหลุดกระแสเก็บทุกเม็ด
"ไม่ต้องรอพ่อมึงกลับมาหรอก นะคะ พานทองแท้ เพราะที่นี่ประเทศไทย "ไม่มีใครกลัวมึง" ขอยกคำกล่าวอมตะของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เช่นกัน ที่ว่า "กูไม่กลัวมึง" นะคะ พานทองแท้ แต่แถมให้ด้วยว่า ..
"กูไม่กลัวพ่อมึง จำไว้" นะคะ
กูๆ มึงๆ กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันดุเด็ดเผ็ดมัน แต่หากย้อนไปดูต้นกำเนิด "กูไม่กลัวมึง" ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ที่เขียนในคอลัมน์ "ซอยสวนพลู" หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ฉบับวันที่ 15 มีนาคม 2526 กลายเป็นวาทะแห่งยุคนั้นว่า "กูไม่กลัวมึง จะบอกให้ตรง ๆ"การกล่าวถ้อยคำนี้ในขณะนั้นเพื่อต่อต้านความพยายามที่จะกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มทหารในยุคหนึ่ง
ถ้อยคำกูไม่กลัวมึงที่ติพิมพ์ในบทความซอยสวนพลูหน้า2ของหนังสือพิมพ์สยามรัฐ ได้หยุดการแทรกแซงทางการเมืองของทหารในครั้งนั้นได้สำเร็จ
มาสู่ยุคหลังการเมืองยุคก่อนรัฐประหาร พ.ศ. 2549 คำว่า "กูไม่กลัวมึง" ได้ยินครั้งแรกมาจาก "สนธิ ลิ้มทองกุล" แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาประกาศลั่น ในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลืองบนเวทีพันธมิตรเมื่อ 30 ตุลาคม 2551
"เวลานี้มีวิชามารบอกว่า ผมของจริงของแท้ อ้างว่า ถ้ารักในหลวงให้อยู่ที่บ้าน เราอยู่ที่บ้านไม่ได้หรอก เพราะชาติกำลังถูกกลืน ผมไม่อยากพูดว่าบางคนที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทที่รับเงินของระบอบทักษิณ เดือนละ 5 แสนบาทมานานหลายปีแล้ว เพื่อเป็นสปาย อย่าให้เอ่ยชื่อว่าใคร แต่ถ้าติดตามมาตลอดจะรู้ว่าเป็นใคร บางคนเวลาขึ้นเครื่องบินก็ไปเบ่งกับการบินไทยขอเอาไวน์ที่กินเหลือเพื่อจะ เอากลับบ้าน อย่าให้ผมเปิดโปงมากกว่านี้ ทำแอ็กว่าเป็นของจริง ตัวผมเองไม่มีเครื่องราชฯ เป็นแค่ลูกเจ๊กธรรมดา แต่กูไม่กลัวมึงหรอก"
หรือในช่วงที่แกนนำเสื้อแดงอย่างขวัญชัย ไพรพนา ถูกจองจำติดคุกหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ีราชประสงค์เคยเขียนจดหมายถึงคนเสื้อแดงเมื่อช่วงเดือนธันวาคมพ.ศ.2553จากในเรือนจำมีข้อความหนึ่งระบุว่า"เมื่อเรามั่นใจว่า เราบริสุทธิ์อย่าไปกลัว ต้องยืมคำพูดอาจารย์หม่อม มาใช้ กูไม่กลัวมึง"
กระทั่งไม่นานมานี้ช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2555 สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฝ่ายความมั่นคง จากพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยออกมาลั่นว่า "กูไม่กลัวมึง"ด้วยเหมือนกัน ระหว่างมีการสอบสวนเหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2553
"ทั้งนี้ ทหาร ตำรวจที่ออกปฏิบัติการ ผมเป็นคนออกคำสั่ง ผมพร้อมจะสู้คดี ผมจะไม่หนีไปไหน เหมือนคนขี้ขลาดบางคน ผมอยู่ป่าช้าแล้ว ไม่กลัวผีและ กูไม่กลัวมึง หากดีเอสไอจะเล่นงาน"
เป็นวาทะ "กูไม่กลัวมึง" ที่นิยมกันมาเป็นระยะในวงการเมือง แม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เคยวิดีโอลิงก์ประกาศคล้ายๆทำนองนี้ช่วงเหตุการณ์เดือนเมษายน 2552
"ระหว่างที่ผมอยู่ก่อนจะถูกปฏิวัติก็ถูกลอบสังหาร แล้ววันนี้ก็ได้ข่าวว่าเขาจะออกหมายจับผม และจะส่งคนเอาตัวผมไป แล้วก็ส่งอีกชุดหนึ่งมาฆ่าผมด้วย คนที่มาถึงขนาดนี้ไม่มีใครกลัวใครหรอกครับ"
นัยยะของคำว่า "กูไม่กลัวมึง" ที่ออกมาแพร่หลาย และกลับมาก้องอีกครั้ง ได้สะท้อนย้อนไปถึงบรรยากาศการเมืองในห้วงก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร 2549 ที่สังคมขณะนั้น เป็นลักษณะของแต่ละฝ่ายต่างก็ประกาศ "กูไม่กลัวมึง"เช่นกัน
เป็นบรรยากาศเตรียมพร้อม และเข้มข้นในที่ตั้งของแต่ละฝ่าย ชนิดที่ไม่มีใครกลัวใคร...
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1341912828&grpid=03&catid=no
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น