ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555
เตือนภัยคนกรุง โรคจิตฉีดน้ำกรด อาละวาดหนัก
เกิดเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง และมีการส่งต่อเพื่อเตือนภัยสำหรับคนกรุงเทพ เมื่อมีผู้ตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดชื่อดัง พันทิปดอทคอม ว่ามีคนถูกฉีดน้ำกรดใส่ ขณะอยู่ริมถนนใหญ่ใจกลางกรุงเทพ
โดยเหตุการณ์แรกเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านกระทู้ “เตือนภัยชาวกรุงเทพ ~~ !!! พลุกพล่านไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป จะด้วยเหตุใดเหยื่อก็ยังคือ ผู้บริสุทธิ์” ของสมาชิกพันทิปที่ใช้นามแฝงว่า bloomlion โพสเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2555 ข้อความว่า
ขอยกเรื่องราวของน้องสาวที่สนิทจากที่น้องเค้าเล่าผ่านทวิตเตอร์ @7thmonth_girl
เตือนภัยคนกทม. นะคะ ของอย่างนี้ อยู่ดีๆ ก็ซวย เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พ.ค. ตอนประมาณสี่ทุ่ม เราเดินข้ามถนนจาก CTW มาฝั่งBig C เพื่อจะเดินไปรถไฟฟ้า ปกติจะไม่เดินฝั่งนี้ จะเดินฝั่ง CTW แต่ตอนนั้นห้างปิดแล้ว ค่อนข้างมืด เลยคิดว่ามาเดินฝั่ง Big C คนเยอะกว่า เดินมาคนเดียว (แยกกับเพื่อนๆ) ผ่านโรงแรมอโนมา ใกล้ถึงลานกว้างๆ (นารายณ์ภัณฑ์เก่า) ก็รู้สึกว่าโดนฉีดน้ำ (จากไหนก็ไม่รู้) ที่น่องขวา ตอนนั้นคิดว่าโดนแกล้ง เลยไม่หันกลับไปดู ก็รีบๆ เดินต่อ ปรากฏว่าเริ่มรู้สึกแสบร้อน เหมือนเวลาโดนกรดแต้มสิว ก็รีบเดินเร็วขึ้น ระหว่างนั้นก็ดูที่น่อง ก็เห็นว่าเป็นรอยถลอก เราเลยแวะซื้อน้ำเปล่าที่รถขายผลไม้ข้างทาง เพื่อเอาน้ำมาล้าง คนขายผลไม้ก็ถามว่าเป็นอะไร เราก้บอกว่าไม่รู้โดนใครฉีดอะไรมา ล้างน้ำจนไม่แสบแล้วก็เดินต่อ ตัดสินใจว่าจะไปรพ.ตำรวจให้หมอตรวจ แล้วก็โทรบอกเพื่อนให้ไปเจอกันที่รพ.
เราก็บอกว่าไม่รู้โดนใครฉีดอะไรมา ล้างน้ำจนไม่แสบแล้วก็เดินต่อ ตัดสินใจว่าจะไปรพ.ตำรวจให้หมอตรวจ แล้วก็โทรบอกเพื่อนให้ไปเจอกันที่รพ. สัญชาตญาณทำให้เราก้มหน้า หลับตา และโชคดีที่ใส่แว่น ตอนนั้นไม่เห็นอะไร จำได้ว่ายกกระเป๋าขึ้นมาปิดหน้าด้วย จำได้รางๆ ว่าน่าจะเป็นรถตุ๊กๆ เลี้ยวผ่าน ถ้าสังหรณ์ใจเป็นจริง คนฉีดก็น่าจะอยู่บนรถตุ๊กๆ นั่นแหละ เราก็สะบัดหน้า เอาน้ำที่เหลือในขวดที่ซื้อมา ล้างหน้า พอดีกับไฟแดงตรงแยกราชประสงค์ เราเลยวิ่งข้ามถนนเข้าไปในศาลพระพรหมเอราวัณ วิ่งไปขอจนท.ที่ขายของบูชาล้างหน้า บอกเขาว่า หนูโดนใครฉีดน้ำกรดใส่ไม่รู้ ขอล้างหน้าหน่อยค่ะ พี่ที่ศาลก็ดีมาก เปิดสายยางให้เราล้างหน้า ล้างขา
ล้างอยู่ประมาณ 10 นาที จนไม่ค่อยแสบ เราไม่กล้าเดินออกจากศาลพระพรหม กลัว เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เผอิญไฟแดงมีแท็กซี่ว่าง เราก็เลยเปิดประตูวิ่งขึ้นไปบอกว่า “ลุงๆ คะพาไปรพ.ตำรวจหน่อย หนูโดนฉีดน้ำกรด” ลุงก็ดีมาก ขับพาไปจอดที่หน้าห้องฉุกเฉิน ไม่เอาเงินด้วย เราก็หยิบบัตรประจำตัวผู้ป่วยส่งให้เคาน์เตอร์ บอกพยาบาลว่าเราโดนฉีดกรด ยังแสบอยู่ พยาบาลก็ดีมากรีบวัดความดันและส่งเราเข้าห้องฉุกเฉิน หมอกับพยาบาลก็มาดู แต่ตอนนั้นยังไม่เห็นรอยแผลอะไร มีแต่รอยแดงๆ แต่สักพักมัน burn เร็วมาก เริ่มเป็นสีน้ำตาล เหมือนเวลาโดนแต้มสิว แต่ผื่นมันกว้างประมาณ 2 cm. หมอมาตรวจแล้วก็บอกว่าน่าจะเป็นกรด แต่ไม่รู้ว่าเป็นกรดชนิดไหน น่าจะเจือจางแล้ว เพราะผิวหนังไหม้ ไม่ได้หลุดลอก ไม่ได้อักเสบ หมอให้พยาบาลล้างแผล พยาบาลใช้น้ำเกลือล้างแผลให้ และปลอบเราว่าไม่เป็นไร ให้ใจเย็นๆ ตอนนั้นเพื่อนเราก็มาถึงแล้ว พยาบาลก็ล้างแผลอยู่นาน หมอก็ถามเราว่ามันเข้าตาหรือเปล่า โชคดีที่สุดในชีวิต มันไม่เข้าตา เพราะเราใส่แว่น
หมอก็รอดูอาการเกือบๆ ครึ่งชม. ก็ให้เรากลับบ้าน สั่งยาทาซินอลให้กลับมาทาบางๆ และนัดให้เรามาพบหมอผิวหนังอีกครั้งในวันจันทร์ แผลตอนนั้นไม่เจ็บแล้ว มีแต่รู้สึกเคืองๆ เหมือนโดนกรดแต้มสิว ผิวหนังข้างนอกเรียบ แต่มัน burn เป็นสีน้ำตาล สำรวจดูมีแผลทั้งหมด 5 จุด ตรงหัวคิ้วซ้าย (เยอะสุด) ตรงจอนหูซ้าย คาง น่องขวา และเป็นจุดๆ ที่คอ แต่แผลไม่กว้างมาก
ตอนนั้นกลัวว่าแผลจะลุกลามไหม พรุ่งนี้ตื่นมาตาจะมองเห็นไหม พ่อแม่จะว่ายังไง คืนนั้นเพื่อนก็ขับรถไปส่งที่บ้าน ก็เล่าให้แม่กับน้องชายฟัง เพราะพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตรับผิดชอบของสน.ลุมพินี ตำรวจทั้งคุณจ่า ร้อยเวร ผกก. ก็ดูแลเราดี มารับแจ้งความ สอบถามเราดี เราเป็นกรณีแรกที่มาแจ้งความ ผกก.บอกว่ายังไม่เคยมีคดีในพื้นที่นี้ สันนิษฐานว่าน่าจะตั้งใจทำร้ายร่างกาย เพราะลงมือสองครั้ง จากนั้นเราก็มาหาหมอผิวหนังที่รพ.อีกแห่ง หมอสันนิษฐานตรงกันว่าเป็นกรด แต่ไม่รู้ว่ากรดชนิดไหน ส่วนแผลจะหาย แต่อาจจะช้า วันนี้ก็ไปหาหมอที่รพ.ตำรวจอีกครั้งหนึ่ง แผลแห้ง ไม่อักเสบ บางส่วนเริ่มเป็นสะเก็ด เราเริ่มคัน แต่หมอห้ามเกาเด็ดขาด
อยากจะเตือนทุกๆ คน ไม่ใช่ว่าสถานที่พลุกพล่านแล้วจะไม่อันตราย ทุกที่อันตรายหมด ขนาดกลางเมืองหลวงยังเกิดเหตุการณ์นี้กับเรา ผู้หญิงพกน้ำเปล่าติดตัวไว้ก็เป็นเรื่องดี เกิดไรขึ้นจะได้มีน้ำล้างทัน ของแบบนี้ผิดตัวหรือเปล่าเราไม่รู้ ส่วนแผล ถ้าใครเจอแบบเรา ให้รีบล้างแผลแบบเร่งด่วน ล้างน้ำเยอะๆ แล้วไปหาหมอเร็วที่สุด เมื่อล้างแผลแล้ว อย่าออกแดด ระวังติดเชื้อ และคอยสังเกตแผลตลอด ห้ามใช้มือแคะแกะเกาถูลูบคลำ สังเกตสีของแผลและจดบันทึกไว้ปรึกษาแพทย์
ส่วนเรื่องคดี ตอนแรกไม่อยากจะแจ้งความ แต่คนรอบตัวก็บอกว่าให้แจ้ง เพราะตำรวจจะได้กวดขัน และให้บอกต่อ คนอื่นๆ จะได้ระวังตัว ส่วนคุณผู้หญิงคะ ถ้าคุณเจอเหตุการณ์แบบเรา ให้มีสติ อย่าเพิ่งร้องไห้ อย่าเพิ่งโวยวาย คิดหาทางไปรพ.โดยเร็วที่สุด
>>> แชร์ต่อ ให้ได้รับทราบโดยทั่วกันด้วยนะคะ น้องเค้าอาจจะไม่ใช่ราบแรกก็เป็นได้ค่ะ
ส่วนกรณีที่สอง เป็นเรื่องราวของคุณ หมูกรอบพริกเผา สมาชิกในพันทิปเช่นกัน โพสเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2555 โดยตั้งกระทู้ว่า “[[[เตือนภัย]]] ยิงน้ำกรดใส่ แถวสี่แยกสะพานควาย “
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. ของวันที่ 31 พฤษภาคม 2555 บริเวณสี่แยกสะพานควาย ฝั่งเดียวกับบิ๊กซี ขณะที่เดินลงสะพานลอยมาถึงพื้นด้านล่าง ทันทีก็รู้สึกว่ามีน้ำกระเด็นมาโดนที่คอ และต้นแขนด้านซ้าย ฝั่งเดียวกับถนน ก็รู้สึกแสบร้อนมากที่บริเวณคอ และต้นแขน จึงรีบหาน้ำล้าง ก็โชคดีที่แถวนั้นมีแผงขายของเป็นร้านข้าวเหนียวมะม่วง ก็เลยไปขอน้ำจากป้าที่ขายข้าวเหนียวมะม่วง ตอนแรกป้าก็งง ว่ามาขอน้ำทำไม ก็เลยบอกป้าไปว่าโดนน้ำอะไรไม่รู้กระเด็นใส่ตรงคอ ปวดแสบปวดร้อนมาก ๆ เลย ป้าบอกมีถังน้ำสีเหลืองวางอยู่บนรถเข็นหน้าร้าน คิดว่าน่าจะเป็นน้ำฝนเพราะก่อนหน้านี้มีฝนตก และเพิ่งหยุดได้ซักพัก
ระหว่างที่กำลังล้างที่คอ และแขนอยู่ ป้าก็ตะโกนว่า หนู ระวังกระเป๋าเปียก แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจเสียงตะโกนของป้าเลยเอามือควักน้ำล้างอย่างเดียว เพราะแสบร้อนมาก พอล้างน้ำหมดไปครึ่งถัง เริ่มรู้สึกดีขึ้นหน่อย ก็ไปให้ป้าช่วยดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ป้าบอกว่า แดงมากเลยทั้งคอและแขน น่าจะแพ้อะไรสักอย่าง ให้รีบไปซื้อสบู่อ่อน ๆ มาล้างอีกรอบ แต่เราคิดว่าควรรีบไปโรงพยาบาลจะดีกว่า ระหว่างทางแวะที่ห้องน้ำที่บิ๊กซีก่อนเพื่อล้างน้ำและทำความสะอาดด้วยสบู่อีกรอบ และดูรอยที่คอ
เมื่อดูรอยที่คอ และแขน มันแดงมาก และยังปวดแสบปวดร้อนอยู่ตลอดเวลา หลังจากนั้นก็รีบไปที่โรงพยาบาลพอไปถึง เจ้าหน้าที่ก็เอารถมาเข็น พาเข้าแผนกฉุกเฉินทันที พยาบาลก็ซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดเหตุตอนกี่โมง เป็นคดีหรือมีเรื่องกับใครหรือเปล่า เรางงจริง ๆ แต่ก็ตอบไปว่าไม่มี ไม่เคยมีคดีความหรือทะเลาะกับใคร หลังจากนั้นพยาบาลก็วัดความดัน และให้รอคุณหมอมาดูอาการ
ระยะเวลาที่รอไม่นาน แต่เหมือนว่ารอนานมาก เพราะความปวดแสบปวดร้อนยิ่งทวีคูณมากขึ้น พอคุณหมอมาถึงดูบาดแผลวินิจฉัยว่า Chemical burn ผิวหนังชั้นหนังกำพร้าถูกทำลาย แล้วก็สั่งให้พยาบาลล้างแผล ทายา และก็พันแผลให้มิดชิดเนื่องจากไม่ต้องการให้แผลถูกแสง แล้วบอกให้กลับมาดูอาการภายใน 24 ชั่วโมง ว่าผิวหนังถูกทำลายเพิ่มขึ้นหรือไม่
จุดที่เกิดเหตุ ลงจากสะพานลอย ตรงตำแหน่งประมาณผู้หญิง เสื้อเขียวพอดี (เอาภาพมาจาก google streetview) ตอนนี้ยังไม่กล้าเดินผ่านไปแถวสถานที่เกิดเหตุเลย
…………………………………………………………………………..
ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ของ คุณพชรปพน พุ่มประพันธ์ (@Pacharapapon) นักข่าวของ Rawangpai TV รายงานว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.- มิ.ย. พบผู้เสียหายถูกโรคจิตฉีดน้ำกรดแล้วถึง 5 ราย เหยื่อเป็นผู้หญิงทั้งหมด โดยคนร้ายมักเลือกลงมือหลังเวลา 19.00 น. ริมถนนใหญ่ที่มีคนเดินพลุกพล่าน ใช้พาหนะเป็นจักรยานยนต์และปืนฉีดน้ำใส่น้ำกรดออกอาละวาด ซึ่งน้ำกรดที่นำมาฉีดคาดว่าเป็นน้ำกรดชนิดไม่รุนแรง และมักฉีดมาจากด้านข้างและด้านหลังของเหยื่อ
5 พื้นที่เสี่ยงถูกโรคจิตฉีดน้ำกรด มีดังต่อไปนี้
1.แยกราชประสงค์ จากบิ๊กซีราชดำริ ถึงโรงแรมอโนมา และเกษรพลาซ่า
2.แยกประตูน้ำ ถ.เพชรบุรี
3.อนุสาวรีย์ชัยฯ (เซ็นเตอร์วัน) ถ.ราชวิถี – ซอยเลิศปัญญา
4.สะพานควาย (ฝั่งบิ๊กซี) ถ.พหลโยธิน
5.เซ็นทรัลลาดพร้าว ถ.พหลโยธิน
ขอบคุณข้อมูลจาก
- คุณ bloomlion (http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q12092425/Q12092425.html)
- คุณ หมูกรอบพริกเผา (http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q12196932/Q12196932.html)
- ทวิตเตอร์ @7thmonth_girl / @Pacharapapon (พชรปพน พุ่มประพันธ์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น