ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
สัมผัสเรื่องราวดี ๆ จากภาพถ่ายมหานคร...เมืองบาดาล
ภาพแรก เป็นภาพสะท้อนของความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่อีกจุดหนึ่ง ที่ทำให้ชาวต่างชาติต้องจับตามอง "สนามบินดอนเมือง"
เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ 13maysa
"กรุงเทพเมืองฟ้าอมร" ณ วันนี้ กำลังถูกกองทัพใหญ่รุกราน หลายคนต้องจากบ้านจากเมือง อพยพไปยังที่ไกลแสนไกล หลายคนเดือดร้อน บาดเจ็บ สูญเสีย กับการทำศึกสงครามครั้งนี้ แต่ก็ยังยิ้มสู้ และตั้งมั่นจะลุกขึ้นสู้ใหม่ เพราะกำลังใจที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จากผู้คนมากมาย...ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกัน
อย่างเช่น คุณ 13maysa ที่วันนี้มีภาพถ่ายสวย ๆ ผ่านการเล่าเรื่องด้วยมุมมองดี ๆ ที่ให้แง่คิดมาฝากกันอีกครั้ง สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานของ คุณ 13maysa จากกระทู้ "กรุงเทพ...วันฟ้า (ยังไม่) หม่น เมื่อผู้คนต้องผจญน้ำท่วม" คงจะได้สัมผัสกับเรื่องราวสุดแสนจะกินใจ ที่ถ่ายทอดออกมาผ่านภาพถ่ายในกระทู้นี้อย่างแน่นอน
มีเครื่องบินโดยสารของ บมจ.การบินไทย (THAI) จอดไว้ที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง บริเวณนอกโรงซ่อมอากาศยาน (Hangar) จำนวน 2 ลำ เป็นเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ 300-600 อายุการใช้งานเกิน 20 ปี ซึ่งปลดประจำการ รอการจำหน่ายตามสภาพ
สายการบินโอเรียนไทย แอร์ไลน์ จอดอยู่ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เป็นเครื่องบินปลดระวาง 4 ลำและเครื่องบินที่ใช้งานได้จำนวน 3 ลำ
หลังน้ำลด นอกจากเราจะหันมาดูเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วมในปีถัดไป อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้คนเสียชีวิตมากที่สุดคือ ไฟฟ้า กรุงเทพฯ มีทั้งสายไฟเก่า การจัดการระบบสายไฟในบ้าน เราต้องปรับตัวและปรับปรุงกันใหม่
กรุงเทพฯ สายไฟเยอะมาก
เบรกเรื่องราวหนัก ๆ มาชมภาพแสงเช้า ณ หน้าท่าอากาศยานดอนเมืองสักภาพ... ในความเศร้า น้ำสะท้อนความสวยงามจิตใจของคนมีจิตใจดีได้มากมาย น้ำทำให้คนที่อยู่บ้านติดกันได้หันมาคุยกันและอาทรต่อกัน น้ำทำให้อยู่ครบหน้ากันทั้งครอบครัว น้ำทำให้เกินการปฏิรูปครั้งยิ่งใหญ่
น้ำมาเพื่อสอนเรา เราอย่ายอมแพ้ เดี๋ยวน้ำก็ผ่านไป เราก็ต้องผ่านมันไปให้ได้เช่นกัน หันมามองโลกบวกกันดีกว่า
พื้นที่แห้งที่เราคุ้นเคย มันน่าคิดถึงมากสำหรับคนที่ติดอยู่กลางน้ำนาน ๆ หลายคนสูญเสียอิสรภาพอย่างไม่เคยเป็นมากก่อน จนซึมเศร้า ขอให้เข้มแข็งนะครับผม
การเดินทางลำบากเพียงไร หากใจเราสู้เราจะร่วมฝ่าไปด้วยกัน...ภาพถ่าย ณ สี่แยกหลักสี่ รถเมล์สายแข็ง 150 ปากเกร็ด-รามคำแหง ทุกอย่างอยู่ที่ใจครับ คันนี้บรรทุกผู้โดยสารมาเกือบเต็มคัน
รักแม่ที่สุด
ผมเปิดคลิปวิดีโอดูกระแสปลาวาฬ แรงมาก รวดเร็ว และส่งผลให้คนออกมาปลดปล่อยปลาวาฬให้ลงทะเลกันมากมาย จนทำให้แผนการคุมน้ำเข้าเมืองต้องพังทลาย แต่ในเมืองต่างจากที่ไหน ๆ เพาะที่นี่ มีชุมชนแออัดและผู้คนต่อพื้นที่มากมาย
และที่สำคัญ ไม่มีใครออกมาพูดเรื่อง ขี้ปลาวาฬ กันเลย ปลาวาฬมันกินจุ ขี้มันเยอะ ขยะถูกที่ถูกทางปลาวาฬก็พาไปอยู่ในทางไม่ถูกที่ ส่งผลคนกรุงเทพฯ จะเป็นโรคติดต่อ เพราะเลี่ยงไม่ได้ที่จะลุยน้ำไปหาของกิน ไม่ว่าหน่วยงานไหน มากเท่าไหร่ก็แจกได้ไม่หมดและไม่ทั่วถึงแน่นอน การลุยน้ำกับขี้ปลาวาฬ เป็นเรื่องที่เราไม่ได้พูดและกล่าวถึงกันเลย
เหม็นมาก เรามีอาหารพอ น้ำดื่มพอ เราช่วยตัวเองไม่ได้เพราะเราต้องแพ้กลิ่นของมัน
ภายในวัด มีพระอยู่เต็มวัด และเดือดร้อนมาก เรื่องการเดินทางไปไหนมาไหน ต้องช่วยตัวเอง ไม่มีเรือก็ต้องอาศัยภูมิปัญญาพระไทย ณ วัดอมรคีรี เชิงสะพานพระราม 8
ดูเหมือนเย็นดี มีเตียงน้ำให้นอน แต่น้ำเหม็นมาก ต้องทนนอนและอยู่กับมันแบบนี้ เดินไปไหนไม่ได้ เพราะต้องไปล้างเท้าอีก น้ำสะอาดมีไม่พอ เก็บไว้อาบ บ้านนี้เห็นคุณตากับคุณยายนอนอยู่ 2 คน เห็นเปิดทีวีไว้ นอนหลับ น้ำขึ้นสูงเรื่อย ๆ อดใจไม่ได้ที่จะต้องแจ้งให้คุณตาระวังไฟฟ้า เพราะน้ำจะถึงปลั๊กไฟแล้ว...ชุมชนบ้านปูน แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
นี่แหละที่เรียกว่า บ้าน ทำอาหารท่ามกลางน้ำที่ดำเหม็น จะกลืนลงไปได้อย่างไร...คุณพี่ ชุมชนบ้านปูน แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
แต่ก่อนเราสบายใจ บ้านอยู่ข้างคลอง มีประตูน้ำป้องกันน้ำท่วม แต่ตอนนี้หันไปดู ประตูน้ำก็น้ำท่วม ออฟฟิศก็จม คนดูแลไม่มานานมาก กลายเป็นที่กักขยะ จนเน่าเหม็น...ชุมชนบ้านปูน แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด
ช่วงน้ำท่วม เราจะเห็นว่าเรามีที่พึ่ง จิตใจเรารู้สึกปลอดภัยขึ้นบ้าง เพราะมีพี่ ๆ ทหารมาช่วยเหลือ ผมเดินทางไปที่พักทหาร ที่สนามกีฬากองทัพบก เพื่อสอบถามและนำอาหารไปแจก และอยากนำข่าวเล็ก ๆ มาฝากประชาชนว่า กองกำลังสำคัญของเรากำลังป่วย จากน้ำสกปรก แต่ก็ยังคงสู้ พวกเขาผลัดกันมานอนรักษาตัวจากการลุยน้ำทั้งวัน เดินทางมาไกลจากทุกมุมของไทย
วอนขอให้ขอความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นจริง ๆ ช่วยเหลือตนเองได้ก็ทำบ้าง อย่าไปตะโกนต่อว่าเขาหากบางครั้งกฎที่เขาทำเขาก็ตัดสินใจเองไม่ได้ คุณต้องการอาศัยเดินทางผ่านน้ำ ไปตลาด นอกจากคำขอบคุณ ขอน้ำสักขวด ขนมสักชิ้น ก็ยังดี
คุณทหารท่านนี้ป่วย ตัวร้อน นอนทานยา อากาศร้อน เหนื่อยเพลียก็หลับได้ อดทน คือทหาร
อาหารการกินมื้อเที่ยงสำหรับวันนี้สำหรับรั้วของชาติ หากใครต้องการช่วยเหลือเรื่องอาหาร รบกวนติดต่อไปที่สนามกีฬาแห่งชาติ เบอร์ตรง 02-278-3051 มอบอาหารได้ครับ
และที่สำคัญ ไม่ต้องอายกัน ทหารเราต้องการกางเกงในเป็นอย่างมาก ใครพอจัดซื้อได้เป็นจำนวนมาก จัดส่งไปให้จะเป็นการดีครับ ชุดที่ใส่มีแบบฟอร์ม แต่กางเกงในวันละตัวไม่พอ ลุยน้ำทีก็ไม่อยากใส่แล้ว
ทหารที่เข้มแข็ง ที่เราเรียกใช้ยามเดือดร้อน เขาก็มีจิตใจ มีครอบครัว นายทหารท่านนี้ผมสังเกตเห็นนอนดูโทรศัพท์นานมาก แต่ไม่โทร เลยขอเข้าไปคุย ขณะพูดไปมองโทรศัพท์ไป ผมเลยสอบถามว่า ทำไมเอาแต่มองโทรศัพท์ นายทหารยื่นโทรศัพท์ให้ผมดู
"ผมคิดถึงลูกและภรรยาครับ ตอนนี้น้ำท่วมหนักเหมือนกัน"
กรมทหาร มีทหารหมอ ใคร ๆ จะเรียกว่า เสนารักษ์สนาม ท่านใจดีมาก ได้ข้อมูลจากท่านมากมาย
ประชาชนป่วยส่วนใหญ่เป็นโรคเท้าเปื่อย ไข้สูง ตาอักเสบ ติดเชื้อ ตอนนี้ต้องรักษาทหารด้วย ประชาชนด้วย ที่กองทัพบกเลยมีเสนารักษ์สนามไม่กี่คน
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผม
ทหารที่กลับจากลงพื้นที่ก็กลับมานอนพัก สลับการทำงาน
ผมอยู่ในเต้นท์กองอำนวยการย่อยเล็ก ๆ ที่คอยรับข่าวสาร มีโทรเข้ามา จุดนั้นต้องการถุงทรายกี่กระสอบ มีสองพัน ห้าพัน หมื่นสอง เรียกได้ว่า ทหารของเรากรอกกระสอบทรายกันทั้งวันทั้งคืนไม่หยุดกันเลยทีเดียว
รถใหญ่เล็กทยอยมารับจัดส่งกระสอบทรายถึงที่ ตามออเดอร์ บางคันน้ำยังเต็มกระบะ เปิดทีน้ำส่งกลิ่นเหม็นออกมากันเลยทีเดียว
สาเหตุที่ผมออกไปถ่ายภาพ ผมเห็นว่า น้ำเสมือนกระจก มันสะท้อนสิ่งต่าง ๆ ได้ ไม่อยากให้รู้สึกเศร้าไปกับภาพ แต่ขอให้นำมาคิดให้เป็นกำลังใจ และพึ่งพา ช่วยเหลือต่อกันให้มาก อย่าเอาเปรียบ อย่าทิ้งขยะเพียงคิดว่ามันจะลอยไปที่อื่นไม่ติดบ้านเรา อย่าเอาเปรียบกักตุนสินค้าโดยไม่เผื่อคนอื่น
อยากเห็นคนไทยรักตัวเอง รักชาติ รักส่วนรวม ครับผม
สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่า สามัคคี
สงกรานต์
13maysa
http://hilight.kapook.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น