เป็นอีกเรื่องที่คุณสิงห์นอกระบบ บล็อกโอเคเนชั่นเขียนเกี่ยวกับการก่อการร้ายครับ
Project Bojinka เป็นแผนสังหารพระสันตปาปา John Pal ที่ 2 พร้อมกับสร้างความตื่นกลัวให้ธุรกิจการบินทั่วโลกด้วยการระเบิดเครื่องบินโดยสารที่เดินทางระหว่างเอเชียและสหรัฐฯ พร้อมกัน 11 ลำ และขั้นตอนสุดท้ายของแผนนี้คือ การส่งเครื่องบินเล็กพร้อมระเบิดเต็มลำถล่มสำนักงานใหญ่ CIA ของกลุ่ม Al Qaeda ที่ Bin Laden เป็นผู้นำ
พระสันตปาปา John Pal ที่ 2 ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ ครั้งแรก เมื่อ คศ. 1981 ซึ่งขณะนั้นอดีตประธานาธิบดี Ferdinand Marcos ยังอยู่ในอำนาจ
พระสันตปาปา John Pal ที่ 2 ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ ครั้งที่สอง เมื่อ คศ. 1995 อดีตประธานาธิบดี Fidel V. Ramos (ประธานาธิบดีในขณะนั้น) นำเสด็จตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ
1. แผนสังหารพระสันตปาปา John Pal ที่ 2 ซึ่งผู้ก่อการวางแผนจะสังหารพระสันตปาปา ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ ในวันที่ 15 มกราคม 2538 (คศ. 1995)
2. ระเบิดเครื่องบินโดยสารที่เดินทางระหว่างเอเชียและสหรัฐฯ พร้อมกัน 11 ลำ เพื่อสร้างความตื่นกลัวและผลกระทบทางลบอย่างรุนแรงแก่ธุรกิจการบินทั่วโลก (ประมาณการว่า หากทำการสำเร็จยอดผู้เสียชีวิตน่าจะอยู่ที่ราว 4,000 คน) ประกอบด้วย
- เที่ยวบินจากกรุงโตเกียวไปสหรัฐฯ จำนวน 4 เที่ยวบิน
- เที่ยวบินจากกรุงโซลไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน
- เที่ยวบินจากกรุงไทเปไปสหรัฐฯ จำนวน 3 เที่ยวบิน
- เที่ยวบินจากกรุงไทเปไปกรุงเทพฯ และต่อไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน
- เที่ยวบินจากกรุงเทพฯไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน
- เที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปสหรัฐฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน
สำนักงานใหญ่ CIA Fairfax County มลรัฐ Verginia ภาพล่างมีอาคารที่สร้างขึ้นเพิ่มเติม
3. ส่งเครื่องบินพร้อมระเบิดเต็มลำถล่มสำนักงานใหญ่ CIA
Project Bojinka เป็นแผนที่ผู้ช่วยคนสำคัญของบิน ลาเดน คือ รัมซี ยูเซฟ และคาลิก ชีค โมฮัมเหม็ด ร่วมกันคิดและก่อการ แต่ผลของแผนการนี้คือ การทดสอบโดย รัมซี ยูเซฟ เอง ซึ่งทำให้เกิดไฟไหม้ในเที่ยวบิน 434 ของ Philippine Airlines Flight ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 10 ราย โดย รัมซี ยูเซฟ เดินทางโดยเที่ยวบินในประเทศจาก มะนิลา ไป เซบู ซ่อนระเบิดในกระเป๋าเครื่องใช้ส่วนตัว แบตเตอรี่ และตัวจุดชนวนในส้นรองเท้า และใช้นาฬิกาข้อมือดิจิตอลซึ่งตั้งเวลาไว้ 4 ชั่วโมงเป็นตัวจุดชนวน ก่อนจะซ่อนไว้ในเสื้อชูชีพใต้ที่นั่งหมายเลข 26K หลังจากเครื่องลงจอดที่สนามบินเซบู และ รัมซี ยูเซฟ ออกจากเครื่องบินแล้ว นักธุรกิจจักรเย็บผ้าอุตสาหกรรมชาวญี่ปุ่น ฮารุกิ อาเมกามิ อายุ 24 ปีก็เข้ามานั่งแทนที่ เครื่องบินเกิดความล่าช้าราว 38 นาทีแล้วจึงออกบินไปยังกรุงโตเกียว การระเบิดทำให้ฮารุกิบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่กี่นาที ผู้โดยสารในที่นั่งใกล้เคียงบาดเจ็บ 10 คน แต่กัปตัน Eduardo “Ed” Reyes นักบินสามารถนำเครื่องลงฉุกเฉินที่สนามบินนาฮา เกาะโอกินาวาซึ่งอยู่ห่างจากจุดระเบิดไปทางตะวันตกราว 74 กิโลเมตรได้อย่างปลอดภัย
สภาพห้องโดยสารหลังเกิดเหตุระเบิดในเหตุการณ์ดังกล่าว
เครื่องบิน Boeing 747-200 ลำดังกล่าวของ Philippine Airlines
กัปตัน Eduardo “Ed” Reyes นักบินผู้สามารถนำเครื่องลงได้อย่างปลอดภัย
แผนการของยูซุฟคือ ทำระเบิดด้วยการบรรจุ Nitroglycerin ลงในขวดน้ำยาล้าง Contact Len จำนวน 14 ขวด (ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งให้ทุกสายการบินห้ามนำขวดบรรจุน้ำหรือของเหลวขึ้นเครื่องจนทุกวันนี้) ส่วนผสมอื่นอื่นได้แก่ nitrate, sulfuric acid, และ nitrobenzene, silver azide (silver trinitride), และ acetone เหลว 9-volt batteries 2ก้อนในระเบิดแต่ละลูกเพื่อเป็นแหล่งพลังงาน ใช้นาฬิกาดิจิตอลเป็นตัวตั้งเวลาจุดระเบิด
สำหรับการลอบสังหารพระสันตปาปา John Pal ที่ 2 ขณะเสด็จเยือนกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปินส์ ครั้งที่สอง แผนคือ ให้มือระเบิดฆ่าตัวตายแต่งตัวเป็นพระคาทอลิก เมื่อสบโอกาสอยู่ใกล้พระสันตปาปาก็กดระเบิดทันที โดยยูซุฟฝึกมือระเบิดไว้ราว 20 คน
ส่วนการการส่งเครื่องบินเล็กพร้อมระเบิดเต็มลำถล่มสำนักงานใหญ่ CIA นั้นมีแผนที่จะซื้อหรือจี้เครื่องบินเล็กโดยเฉพาะแบบ Cessna เพื่อบรรทุกระเบิดเต็มลำโจมตีสำนักงานใหญ่ CIA ด้วยนักบินพลีชีพที่ได้รับการฝึกในมลรัฐ North Carolina
เครื่องบินเล็กแบบ Cessna
อาคารที่ทำการสรรพกร สหรัฐฯ เมือง Austin มลรัฐ Texas ถูก Andrew Joseph Stack III ใช้เครื่งบินเล็กแบบ Piper PA-28 Cherokee พุ่งชน (ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเรื่องเล่า) เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2010
เครื่องบินเล็กแบบ Piper PA-28 Cherokee
แผนล้มเหลวเพราะเหตุเพลิงไหม้ และความมุ่งมั่นตั้งใจของนายตำรวจหญิง Aida Fariscal
อพาทเม้นท์ Doña Josefa
อับดุล การีม มูราด
นายตำรวจหญิง Aida Fariscal อยู่ที่อพาทเม้นท์ Doña Josefa ที่เกิดเหตุ
นายตำรวจหญิง Aida Fariscal ขณะตรวจสอบขวดบรรจุสารประกอบระเบิดในห้อง 603 อพาทเม้นท์ Doña Josefa
นายตำรวจหญิง Aida Fariscal ขณะให้สัมภาษณ์ในปี 2002
ยูซุฟและอับดุล การีม มูราด คู่หูได้เช่าห้องหมายเลข 603 ของอพาทเม้นท์ 6 ชั้น ชื่อ Doña Josefa ในกรุงมะนิลา ในวันที่ 6 มกกราคม 1995 ก่อนการเสด็จฟิลิปปินส์ของพระสันตปาปา ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในห้องดังกล่าว เริ่มจากห้องข้างเคียงแจ้งให้ผู้ดูแลทราบถึงกลิ่นแปลกแปลกที่เกิดขึ้นในห้อง 603 ผู้ดูแลจึงได้แจ้งหน่วยดับเพลิง ก่อนที่ยูซุฟจะหลบหนีไป และทิ้งหลักฐานที่น่าสงสัยหลายอย่างไว้ในห้องดังกล่าว Aida Fariscal นายตำรวจหญิงผู้ทำการตรวจสอบสถานที่สงสัยว่า ทั้งสองคนน่าจะมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในกรุงมะนิลา และเที่ยวบิน 434 เธอสามารถควบคุมตัวมูราดได้ โดยมูราดพยายามติดสินบนเธอด้วยเงิน 2,000 เหรียญสหรัฐ แต่เธอปฏิเสธ และเธอต้องร้องขอผู้พิพากษา 11 คนเพื่อให้ได้หมายค้น ซึ่งนำเธอไปสู่การค้นพบหลักฐานอันประกอบด้วยสารประกอบระเบิดต่างต่าง น้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์จุดชนวน สายไฟ นาฬิกาข้อมือ ดิจิตอล พาสปอร์ตปลอมอีก 12 เล่ม และความเชื่อมโยงไปสู่การวางแผนลอบสังหารพระสันตปาปา การลอบวางระเบิดในอีกหลายเหตุการณ์ รวมทั้งทั้งแผนการวางระเบิดเครื่องบินดังกล่าวอีกด้วย เธอได้รับเงินรางวัลจากรัฐบาล 700เหรียญพร้อมทั้งทัวร์ท่องเที่ยวไต้หวัน และต่อมาเธอก็ได้รับรางวัล Laminated จาก CIA และรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้จัดทีมอารักขาเธอเป็นเวลา 5 ปี ปัจจุบันเธอเกษียณและยังคงอยู่ในฟิลิปปินส์
ผู้ก่อการเหล่านี้สามารถหนีรอดได้หลายครั้งหลายหนในหลายประเทศ แต่ที่สุดก็ถูกจำกุมทุกคน
อับดุล การีม มูราด
อับดุล การีม มูราด ถูกนายตำรวจหญิง Aida Fariscal ควบคุมตัว และรัฐบาลฟิลิปปินส์ส่งตัวไปสหรัฐฯ เมื่อ 12 เมษายน 1995 และเมื่อ 5 กันยายน 1996 ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ปัจจุบันถูกจำขังที่เรือนจำรัฐบาลกลาง Terre Haute ในมลรัฐ Indiana
รัมซี ยูเซฟ
ยูซุฟเกือบถูกจับในประเทศไทย แต่เมื่อเดินทางออกจากไทยไปยังปากีสถาน และถูกจับที่ห้องหมายเลข 16 the Su-Casa Guest House กรุงอิสลามบัด โดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองปากีสถานและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ โดยมีการจ่ายรางวัลนำจับแก่ผู้ชี้เบาะแสสองล้านเหรียญ หลังจากยูซุฟถูกจับวันต่อมามีการวางระเบิดตลาดขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในปากีสถานจนเสียหายหมด
the Su-Casa Guest House กรุงอิสลามบัด
ปัจจุบันยูซุฟถูกตัดสินจำคุก 240 ปีในจจุบันถูกจำขังที่เรือนจำความมั่นคงสูงรัฐบาลกลางสหรัฐ Fremont County มลรัฐ Colorado ฐานลอบวางระเบิดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ครั้งแรก และตลอดชีวิตในคดีวางระเบิด Philippine Airlines เที่ยวบิน 434
คาลิก ชีค โมฮัมเหม็ด
คาลิก ชีค โมฮัมเหม็ด ถูกจับเมื่อ 1 มีนาคม 2003 โดยโดยเจ้าหน้าที่ข่าวกรองปากีสถานและเจ้าหน้าที่ CIA ที่เมืองราวัลปินดี ปากีสถาน ถูกควบคุมตัวอยู่ในคุกลับ CIA ที่โปแลนด์และโรมาเนีย จนปี 2006 จึงถูกย้ายมาที่เรือนจำกวนตานาโม เพื่อดำเนินคดี ปัจจุบันยังคงถูกควบคุมตัวระหว่างดำเนินคดีที่เรือนจำกวนตานาโม
ขอบคุณที่มาข้อมูล วิกิพีเดีย ไทยวิกิพีเดีย และ Google
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น