วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2558

บางเรื่องของพระอริยจริยวัตร “สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ”



paragraph_40_619

ในการเดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจต่างๆ

เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มักใช้บริการรถรับจ้างสาธารณะ

ด้วยไม่โปรดที่จะรบกวนผู้อื่น หากเดินไปเองได้ ก็จะเดิน

บ่อยครั้งที่มีผู้มาอาราธนาไปบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดมากนัก

เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ก็จะตรัสแก่เจ้าภาพว่า

“ไม่ต้องเอารถมารับนะ แล้วจะเดินไปเอง”

………………………………..

aa51

เมื่อคราวที่ต้องไปปฏิบัติหน้าที่พระอุปัชฌาย์

ประทานบรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตร ณ วัดพุทธบูชา บางมด

เป็นประจำทุกปีก่อนเข้าพรรษา ก็โปรดที่จะเดินทางโดยรถแท็กซี่

จากวัดบวรนิเวศวิหารต่อหนึ่ง แล้วไปลงเรือหางยาวอีกต่อหนึ่ง

ลัดเลาะเรื่อยไปตามคลอง จนถึงวัดพุทธบูชา

ด้วยเหตุนี้ผู้เคารพนับถือหลายคนจึงพยายามที่จะถวายรถยนต์

สำหรับทรงใช้ส่วนพระองค์ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ

ด้วยเหตุผลง่ายๆ “ไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ที่ไหน”

………………………………..

aa50

อีกครั้งหนึ่ง คราวเกิดเหตุระเบิดขึ้นข้างพระตำหนัก

ในช่วงบ่ายขณะที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ กำลังสนทนาธรรมอยู่กับ

นางโยเซฟีน สแตนตัน ภรรยาอดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย

ซึ่งโชคดีว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

แต่เหตุระเบิดในครั้งนั้นทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถวายอารักขา วันละ ๑ นาย

และโปรดให้รถยนต์หลวง (รยล.) มาประจำไว้ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร

เพื่อถวายความสะดวกในการเสด็จไปปฏิบัติศาสนกิจยังสถานที่ต่างๆ

สำหรับกรณีของรถยนต์หลวงนั้น เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้รับสั่ง

กับเจ้าหน้าที่ผู้รับคำสั่งสั้นๆ เพียงว่า “ไม่สมควร”

เป็นอันว่าไม่ทรงรับไว้ เพียงแต่ขอรับพระราชทานใช้เป็นครั้งคราวเท่านั้น ……………

(เนื้อหาบางตอนจาก : หนังสือบวรธรรมบพิตร ฉบับประมวลพระรูป)

……………………………………………

_15_640

วินัยกรรม ชีวิตก เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวรฯ

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

เมื่อครั้งทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ พระโศภณคณาภรณ์

ทรงเป็นผู้ดำรงอยู่ในความไม่ประมาท

ด้วยทรงมีพระลิขิต “วินัยกรรม” หรือพระพินัยกรรม

ไว้ด้วยลายพระหัตถ์ของพระองค์เองลงบนกระดาษ ๑ แผ่น

จัดแจกบริขารทั้งปวงให้แก่สงฆ์ในอารามต่างๆ ดังปรากฏความว่า

…บริกขารทั้งปวงก็ดี สิทธิเพื่อบริกขารทั้งปวงก็ดี ของข้าพเจ้า :

อยู่วัดบวรนิเวศ ถวายแด่ท่านเจ้าอาวาส

(ภายหลังเมื่อทรงครองวัด จึงขีดฆ่าออกแล้วลงพระนามกำกับไว้

ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ)

และพระกรรมการวัดบวรนิเวศ

อยู่ที่วัดเทวสังฆาราม จังหวัดกาญจนบุรี

ถวายแด่ท่านเจ้าอาวาส

และพระเถระผู้รองลงมาอีก ๓ รูป วัดเทวสังฆาราม

นอกจากนี้ อยู่ที่ผู้ใดที่ไหน ให้แก่ผู้นั้นที่นั้น

ข้าพเจ้ามีความประสงค์แจ้งอยู่ในแบบวินัยกรรมชีวิตกนี้

พระโศภณคณาภรณ์

เขียนที่กุฏิคอยท่า วัดบวรนิเวศวิหาร

๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๒

เวลา ๒๓.๒๐ น.

ยืนยันตามนี้ พระโศภณคณาภรณ์

ยืนยันตามนี้ พระโศภณคณาภรณ์ ๒๒ เม.ย. ๒๔๙๖

,,______,, พระสาสนโสภณ ๒๕ ก.ค. ๒๕๐๙ ………………………….

aa48

พระวินัยกรรมนี้นอกจากจะแสดงความไม่ประมาทในการใช้ชีวิต

เนื่องด้วยทรงมีพระลิขิตตั้งแต่มีพระชนมายุได้ ๓๖ ปี

แล้วยังคงดำรงมั่นในเจตนารมณ์นี้ด้วยการลงพระนามกำกับอีก ๒ ครั้ง

ทั้งในปีพุทธศักราช ๒๔๙๖ เมื่อมีพระชนมายุได้ ๔๐ ปี

และในปีพุทธศักราช ๒๕๐๙ เมื่อมีพระชนมายุได้ ๕๓ ปี

ในครั้งหลังนี้พระองค์ได้ทรงขีดทับข้อความในพระวินัยกรรม

ที่ยกบริขารในส่วนของวัดบวรนิเวศวิหารออก

เนื่องด้วยพระองค์ท่านดำรงสถานะเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารแล้ว

จึงไม่จำเป็นต้องยกบริขารใดๆ ให้เจ้าอาวาสอีก

พระวินัยกรรมนี้ยังสะท้อนถึงหลักอนุสสติ ๑๐

ที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงพิจารณามรณานุสสติอยู่เนืองๆ

นับเป็นการเตรียมความพร้อมในการใช้ชีวิต

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับคนรอบข้างหากต้องจากโลกนี้ไป

…………………………………….

paragraphparagraphae_2520_aeparagraph_paragraphparagraph_793

พระเมตตาของพระองค์ไม่มีประมาณ

ราวปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ เสด็จไปปฏิบัติศาสนกิจทางภาคอีสาน

ทรงแวะตามหมู่บ้านประทานของแจกแก่ชาวบ้าน

ในยามที่ประชาชนประสบภัยพิบัติต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ไฟไหม้ โรคระบาด ภัยร้อน ภัยแล้ง ภัยหนาวต่างๆ

ก็จะทรงขวนขวายในทันทีทั้งด้านปัจจัยสี่ ทั้งการเยียวยาจิตใจ

และบำรุงขวัญด้วยธรรมะ เพื่อเกื้อกูล ผ่อนหนักให้บรรเทาเบาลง

ทั้งที่พระองค์เองก็ใช่ว่าจะมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์นัก

แต่ละวันถูกรุมเร้าด้วยพระศาสนกิจตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

บางคราวต้องเสด็จไปกิจนิมนต์ไกลโพ้นข้ามจังหวัด

ทว่าก็ไม่เคยแสดงอาการอ่อนล้า

ครั้นผู้ถวายงานใกล้ชิดกราบทูลให้ทรงผ่อนคลายหรือละเว้นเสียบ้าง

ก็จะทรงพระสรวลแต่เบาๆ พลางรับสั่งว่า

“เออ ! จะทำอย่างไรได้…ที่นี่เป็นพระของประชาชน”

(เนื้อหาบางตอนจาก : หนังสือบวรธรรมบพิตร ฉบับประมวลพระรูป)

ae__15_157

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ทรงถวายพวงมาลัยสักการะ “พระไพรีพินาศ”

พระพุทธรูปศิลาปิดทอง ศิลปะศรีวิชัย ปางประทานพร

ในโอกาสที่เสด็จขึ้นคำบูชาและวางเครื่องสักการะพระเจดีย์ วัดบวรนิเวศวิหาร

เนื่องในวันมาฆบูชา วันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๕

“พิธีมาฆบูชา” เป็นธรรมเนียมที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

รัชกาลที่ ๔ ทรงตั้งขึ้นนับแต่ยังทรงครองวัดบวรนิเวศวิหาร

ด้วยเป็นพิธีบูชาที่ทรงพระราชดำริขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก

ซึ่งหลังจากพระองค์ทรงนำทำวัตรสวดมนต์แล้ว

จักเสด็จไปยังลานประทักษิณชั้นบนของพระเจดีย์

ทรงกล่าวคำบูชาพระเจดีย์แล้ววางเครื่องสักการะ

(โดยไม่มีการเวียนเทียนแต่อย่างใด)

……………………………………..

ที่มา www.dhammajak.net

สำนักข่าวเจ้าพระยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น