
เร่เข้ามาสำหรับคนอยากมีกิจการเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง ขอฝากร้านสเต๊กราคาถูกเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนอยากเริ่มต้นธุรกิจ SMEs ไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์ แค่มีเงินเก็บเพียงก้อนเดียวก็เปิดร้านได้แล้ว ในเมื่ออยากเปิดร้านสเต๊กก็ต้องมีสูตรสเต๊กไว้ในครอบครองกัน วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 9 วิธีทำสเต๊กสูตรโฮมเมด มีให้เลือกหลากหลายเมนู ต้นทุนต่ำ กำไรเกินครึ่ง รสชาติอร่อยถูกปากทุกเพศทุกวัย แถมหน้าตาดีเหมือนร้านดังอีกด้วยนะจ๊ะ
ก่อนที่เราจะดูสูตรสเต๊กเด็ด ๆ กระปุกดอทคอมก็ยังมีเคล็ดลับย่างสเต็กให้อร่อยตามแบบที่ต้องการมาฝากกันก่อน เป็น 3 วิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ทั้งที่ร้านอาหารและในครัวของคุณเองตามนี้เลยค่า
 1. ละลายน้ำแข็งก่อนนำเนื้อไปย่าง
 1. ละลายน้ำแข็งก่อนนำเนื้อไปย่างก่อนอื่นควรเลือกเนื้อสเต๊กที่มีความหนาของชิ้นเนื้อเท่ากันทั้งชิ้น ถ้าเป็นเนื้อแช่แข็ง ก่อนที่จะนำไปย่าง ควรจะนำออกจากตู้เย็นแล้ววางทิ้งเอาไว้ในห้องอุณหภูมิปกติจนกระทั่งน้ำแข็งละลายหมด หรือน้ำแข็งระเหยออกจากเนื้อสเต๊กหมดแล้วก่อนจะนำไปปรุงอาหารต่อไป
 2. เตรียมเตาย่างโดยใช้ไฟปานกลาง
 2. เตรียมเตาย่างโดยใช้ไฟปานกลางในระหว่างที่คุณกำลังรอให้น้ำแข็งละลายออกจากเนื้อ ให้คุณนำกระทะหรือเตาสำหรับปิ้งย่างมาตั้งไฟปานกลาง และเมื่อน้ำแข็งระเหยออกจากชิ้นเนื้อจนหมดแล้ว ให้นำน้ำมันมะกอกมาทาให้ทั่วชิ้นเนื้อสเต๊ก แต่ทั้งนี้ไม่ควรจะทาน้ำมันมะกอกมากจนเกินไป เพราะส่งผลให้ต้องใช้เวลาในการปิ้งย่างนานยิ่งขึ้น
 3. รอให้น้ำซึมออกมาก่อนจะพลิกชิ้นเนื้อสเต๊ก
 3. รอให้น้ำซึมออกมาก่อนจะพลิกชิ้นเนื้อสเต๊กในขณะที่เรากำลังย่างเนื้อสเต๊กอยู่นั้น หากต้องการสเต๊กสุกปานกลาง ควรย่างจนกว่าน้ำในเนื้อสเต๊กซึมออกมาบนผิวเนื้อก่อน จากนั้นจึงค่อยพลิกเนื้อสเต๊กเพื่อทำการย่างอีกด้านหนึ่ง แล้วรอจนกระทั่งน้ำซึมออกมาจากเนื้อเช่นเดียวกัน จากนั้นก็ให้ยกเนื้อขึ้นจากเตา ห่อเนื้อด้วยกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์แบบหลวม ๆ เสร็จแล้ววางทิ้งไว้ประมาณ 2-4 นาที เพื่อรอให้ด้านข้างสุกและน้ำที่ซึมออกมาถูกดูดซับกลับเข้าไป เพียงเท่านี้คุณก็จะได้สเต๊กแบบฉ่ำน้ำ ที่ทั้งนุ่มและอร่อยแล้ว
หมายเหตุ : สำหรับคนที่ต้องการย่างเนื้อสเต๊กด้วยเตาอบ ในระหว่างที่คุณรอให้น้ำแข็งละลายออกจากเนื้อ ก็อาจจะลองหยิบคู่มือการใช้เตาอบมาทบทวนความทรงจำกันอีกสักครั้งว่า ต้องใช้อุณหภูมิเท่าใดจึงจะเหมาะสมสำหรับการปิ้งย่างเนื้อวัวให้ได้ระดับความสุกในแบบที่คุณต้องการ

 1. สเต๊กพอร์คชอป
 1. สเต๊กพอร์คชอป เริ่มต้นเมนูแรกสำหรับคนอยากเปิดร้านสเต๊กกับสเต๊กยอดนิยมอย่างพอร์คชอป ความอร่อยอยู่ตรงเนื้อหมูติดกระดูกที่ย่างจนสุก เพิ่มความฟินด้วยน้ำซอสหอมใหญ่รสหวานหอมกลมกล่อม ตบท้ายด้วยการโรยพริกไทยเพิ่มลงไปอีกนิดพอให้มีกลิ่นหอม ถ้าได้กินกับผักสลัดด้วยก็คงดีไม่น้อย
 ส่วนผสม สเต๊กพอร์คชอป
 ส่วนผสม สเต๊กพอร์คชอป พอร์คชอป (น้ำหนัก 150-200 กรัม) จำนวน 1 ชิ้น
 พอร์คชอป (น้ำหนัก 150-200 กรัม) จำนวน 1 ชิ้น พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
 พริกไทยดำบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
 น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
 เกลือป่น 1/2 ช้อนชา น้ำมันมะกอก (สำหรับย่าง)
 น้ำมันมะกอก (สำหรับย่าง) เนยจืด 5 ช้อนโต๊ะ
 เนยจืด 5 ช้อนโต๊ะ หอมใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
 หอมใหญ่สับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ อาโรมาต 1 ช้อนชา
 อาโรมาต 1 ช้อนชา เกลือป่น (สำหรับปรุงรส)
 เกลือป่น (สำหรับปรุงรส) พริกไทยป่น (สำหรับปรุงรส)
 พริกไทยป่น (สำหรับปรุงรส) น้ำเปล่า
 น้ำเปล่า วิธีทำสเต๊กพอร์คชอป
 วิธีทำสเต๊กพอร์คชอป 1. เคล้าผสมพอร์คชอปกับพริกไทยดำและน้ำมันมะกอกให้ทั่วชิ้น นำเข้าแช่เย็นประมาณ 30 นาที จากนั้นนำออกจากตู้เย็น โรยเกลือป่นให้ทั่ว วางลงบนถาดสำหรับอบที่ทาน้ำมันมะกอกไว้แล้ว
 1. เคล้าผสมพอร์คชอปกับพริกไทยดำและน้ำมันมะกอกให้ทั่วชิ้น นำเข้าแช่เย็นประมาณ 30 นาที จากนั้นนำออกจากตู้เย็น โรยเกลือป่นให้ทั่ว วางลงบนถาดสำหรับอบที่ทาน้ำมันมะกอกไว้แล้ว 2. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที เตรียมไว้ จากนั้นนำพอร์คชอปเข้าเตาอบประมาณ 5 นาที ยกออกจากเตา เตรียมไว้
 2. เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที เตรียมไว้ จากนั้นนำพอร์คชอปเข้าเตาอบประมาณ 5 นาที ยกออกจากเตา เตรียมไว้ 3. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางรอจนร้อน ใส่น้ำมันมะกอก เนยสด และหอมใหญ่ลงผัดจนสุกใส ปรุงรสด้วยอาโรมาต เกลือป่น และพริกไทยป่น เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ ผัดจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ยกลงจากเตา เทใส่ภาชนะ เตรียมไว้
 3. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลางรอจนร้อน ใส่น้ำมันมะกอก เนยสด และหอมใหญ่ลงผัดจนสุกใส ปรุงรสด้วยอาโรมาต เกลือป่น และพริกไทยป่น เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ชิมรสตามชอบ ผัดจนน้ำเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ยกลงจากเตา เทใส่ภาชนะ เตรียมไว้ 4. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่พอร์คชอปลงย่างจนสุกทั้งสองด้าน ยกลงจากเตา ตักใส่จาน ราดด้วยน้ำซอส พร้อมเสิร์ฟ
 4. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่พอร์คชอปลงย่างจนสุกทั้งสองด้าน ยกลงจากเตา ตักใส่จาน ราดด้วยน้ำซอส พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พอร์คชอปเนื้อนุ่ม สเต็กฝรั่งยอดนิยม
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ พอร์คชอปเนื้อนุ่ม สเต็กฝรั่งยอดนิยม











 2. สเต๊กพอร์คชอปราดซอสเห็ด
 2. สเต๊กพอร์คชอปราดซอสเห็ด สำหรับร้านสเต๊กที่มีเมนูสเต๊กพอร์คชอปราดซอสหอมใหญ่แล้วอาจต้องเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าด้วยสเต๊กพอร์คชอปราดซอสเห็ดสูตรจาก คุณ Fille Courageuse สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม อีกเมนูหนึ่ง เวลาตักเนื้อพอร์คชอปเข้าปากจะได้สัมผัสเนื้อนุ่ม ๆ และกลิ่นหอมของซอสเห็ด ถ้าหากได้มันฝรั่งแท่งมากินแกล้มด้วยแล้วจะเพิ่มสีสันให้มื้อนี้ครบเครื่องมากขึ้น
 ส่วนผสม สเต๊กพอร์คชอป
 ส่วนผสม สเต๊กพอร์คชอป หมูเนื้อสันติดกระดูก 2 ชิ้น
 หมูเนื้อสันติดกระดูก 2 ชิ้น   มัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ
 มัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ พริกไทย
 พริกไทย เกลือป่น
 เกลือป่น ใบไทม์ (ไม่ต้องใส่ก็ได้)
 ใบไทม์ (ไม่ต้องใส่ก็ได้) น้ำมันพืช
 น้ำมันพืช ส่วนผสม ซอสเห็ด
 ส่วนผสม ซอสเห็ด เห็ดนางฟ้าหั่นชิ้นเล็ก (หรือเห็ดอื่น) 1 แพ็ก
 เห็ดนางฟ้าหั่นชิ้นเล็ก (หรือเห็ดอื่น) 1 แพ็ก  ผักชีซอย 1 กำ
 ผักชีซอย 1 กำ น้ำมันพืช
 น้ำมันพืช นมสดคาร์เนชั่น 450 กรัม 1 กระป๋อง
 นมสดคาร์เนชั่น 450 กรัม 1 กระป๋อง  เนยจืดก้อนเล็ก 1 ก้อน
 เนยจืดก้อนเล็ก 1 ก้อน พริกไทย
 พริกไทย  เกลือป่น
 เกลือป่น ใบไทม์
 ใบไทม์  น้ำซอสหมูที่เหลือจากการทอดสเต๊ก
 น้ำซอสหมูที่เหลือจากการทอดสเต๊ก มอสซาเรลลาชีส (หรือพาร์เมซานชีส)
 มอสซาเรลลาชีส (หรือพาร์เมซานชีส) วิธีทำสเต๊กพอร์คชอป
 วิธีทำสเต๊กพอร์คชอป
 1. ทุบเนื้อหมูเบา ๆ เพื่อให้เนื้อนิ่มขึ้น (ใช้ด้ามมีดหรือสากก็ได้) เสร็จแล้วใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วชิ้น (เพื่อเวลาทอดแล้วหมูจะได้สุกทั่วถึงข้างใน) ทามัสตาร์ด โรยพริกไทย เกลือป่น และใบไทม์
 1. ทุบเนื้อหมูเบา ๆ เพื่อให้เนื้อนิ่มขึ้น (ใช้ด้ามมีดหรือสากก็ได้) เสร็จแล้วใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วชิ้น (เพื่อเวลาทอดแล้วหมูจะได้สุกทั่วถึงข้างใน) ทามัสตาร์ด โรยพริกไทย เกลือป่น และใบไทม์  2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่เนื้อหมูลงไปทั้ง 2 ชิ้น อย่าเร่งไฟเด็ดขาดเพราะเนื้อหมูจะไหม้แต่ด้านนอกและด้านในไม่สุก ค่อย ๆ ทอดจนเนื้อหมูเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นจัดใส่ภาชนะ
 2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ใส่เนื้อหมูลงไปทั้ง 2 ชิ้น อย่าเร่งไฟเด็ดขาดเพราะเนื้อหมูจะไหม้แต่ด้านนอกและด้านในไม่สุก ค่อย ๆ ทอดจนเนื้อหมูเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นจัดใส่ภาชนะ  วิธีทำซอสเห็ด
 วิธีทำซอสเห็ด
 1. นำเห็ดและผักชีไปผัดในกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อยแค่พอไม่ให้ผักติดกระทะ พอเห็ดมีลักษณะแห้งและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วให้ใส่นมสดลงไป (ถ้าชอบน้ำซอสเยอะก็ใส่มากหน่อย)
 1. นำเห็ดและผักชีไปผัดในกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อยแค่พอไม่ให้ผักติดกระทะ พอเห็ดมีลักษณะแห้งและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วให้ใส่นมสดลงไป (ถ้าชอบน้ำซอสเยอะก็ใส่มากหน่อย)  2. พอส่วนผสมเดือดเล็กน้อยให้ใส่เนยลงไปแล้วปรุงรสด้วยพริกไทยกับเกลือป่น โรยใบไทม์ลงไปเล็กน้อย
 2. พอส่วนผสมเดือดเล็กน้อยให้ใส่เนยลงไปแล้วปรุงรสด้วยพริกไทยกับเกลือป่น โรยใบไทม์ลงไปเล็กน้อย  3. นำน้ำซอสหมูที่เหลือจากการทอดสเต๊กไปใส่ลงในซอสเห็ด อาจใส่มอสซาเรลลาชีสหรือพาร์มีซานชีสเพิ่มตามชอบ จัดการราดลงไปบนสเต๊กพอร์คชอป พร้อมเสิร์ฟ
 3. นำน้ำซอสหมูที่เหลือจากการทอดสเต๊กไปใส่ลงในซอสเห็ด อาจใส่มอสซาเรลลาชีสหรือพาร์มีซานชีสเพิ่มตามชอบ จัดการราดลงไปบนสเต๊กพอร์คชอป พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กพอร์คชอปราดซอสเห็ด เมนูอาหารฝรั่งงบน้อยแค่ร้อยต้น ๆ
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กพอร์คชอปราดซอสเห็ด เมนูอาหารฝรั่งงบน้อยแค่ร้อยต้น ๆ











 3. สเต๊กหมูซอสเห็ดหอม
 3. สเต๊กหมูซอสเห็ดหอม เอาใจคนอยากได้สูตรสเต๊กหมูกันอีกเมนูกับสเต๊กหมูซอสเห็ดหอมสูตรจาก คุณพยูนบูด สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แค่เห็นภาพก็ยั่วน้ำลายแล้วค่ะ เมนูนี้ใช้เนื้อหมูล้วน ๆ เลยนะคะ ถ้าอยากมัดใจลูกค้าควรแล่เนื้อหมูชิ้นโตหน่อยเนอะ เวลาทำเสร็จแล้วจะได้เสิร์ฟในจานใหญ่ดูงามหน่อย ตบท้ายด้วยการราดซอสเห็ดหอม แหม… อยากให้เพื่อน ๆ ได้กลิ่นจริง ๆ ว่าหอมนุ่มชุ่มซอสตั้งแต่เริ่มกินคำแรกจนคำสุดท้าย
 ส่วนผสม สเต๊กหมูซอสเห็ดหอม
 ส่วนผสม สเต๊กหมูซอสเห็ดหอม เนื้อหมูส่วนสะโพก
 เนื้อหมูส่วนสะโพก           เกลือ
 เกลือ พริกไทย
 พริกไทย นมข้นจืด
 นมข้นจืด ซอสแม็กกี้
 ซอสแม็กกี้ น้ำมันพืช
 น้ำมันพืช ส่วนผสม ซอสเห็ดหอม
 ส่วนผสม ซอสเห็ดหอม เนยสด
 เนยสด เห็ดหอมสด หั่นชิ้นเล็ก
 เห็ดหอมสด หั่นชิ้นเล็ก  หอมใหญ่ (สับละเอียดและหั่นแว่น)
 หอมใหญ่ (สับละเอียดและหั่นแว่น) น้ำที่ใช้หมักหมู
 น้ำที่ใช้หมักหมู น้ำสต๊อก
 น้ำสต๊อก เกลือ
 เกลือ พริกไทย
 พริกไทย วิธีทำสเต๊กหมูซอสเห็ดหอม
 วิธีทำสเต๊กหมูซอสเห็ดหอม 
 1. เริ่มต้นจากการแล่เนื้อหมูโดยแล่ออกมาให้หนาชิ้นละประมาณ 2 เซนติเมตร (แต่ถ้าใครอยากหั่นหนากว่านี้ก็ได้ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาทอดนานหน่อย)
 1. เริ่มต้นจากการแล่เนื้อหมูโดยแล่ออกมาให้หนาชิ้นละประมาณ 2 เซนติเมตร (แต่ถ้าใครอยากหั่นหนากว่านี้ก็ได้ ซึ่งก็ต้องใช้เวลาทอดนานหน่อย)  2. ใช้ค้อนทุบเพื่อให้เนื้อนุ่มและเวลาปรุงรสจะได้เข้าเนื้อ ทอดสุกง่าย โดยให้ใช้ฝั่งหนาม ๆ ทุบหมูให้นุ่ม ตามด้วยด้านข้าง ๆ ทุบให้เนื้อแผ่กว้าง ๆ เสมอกัน
 2. ใช้ค้อนทุบเพื่อให้เนื้อนุ่มและเวลาปรุงรสจะได้เข้าเนื้อ ทอดสุกง่าย โดยให้ใช้ฝั่งหนาม ๆ ทุบหมูให้นุ่ม ตามด้วยด้านข้าง ๆ ทุบให้เนื้อแผ่กว้าง ๆ เสมอกัน  3. นำเนื้อหมูที่ทุบแล้วมาใส่ในชามหมักด้วยเกลือ พริกไทย ซอสแม็กกี้ และนมข้นจืด ประมาณ 30 นาที ใครจะหมักข้ามวันก็ได้นะคะ แต่อย่าใส่เกลือเยอะเกินไป เพราะเนื้อหมูอาจจะแข็งได้
 3. นำเนื้อหมูที่ทุบแล้วมาใส่ในชามหมักด้วยเกลือ พริกไทย ซอสแม็กกี้ และนมข้นจืด ประมาณ 30 นาที ใครจะหมักข้ามวันก็ได้นะคะ แต่อย่าใส่เกลือเยอะเกินไป เพราะเนื้อหมูอาจจะแข็งได้ 
 4. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปให้ร้อนแล้วนำหมูที่หมักไว้ลงไปทอดพลิกไปพลิกมาจนสุกตามชอบ
 4. ตั้งกระทะใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปให้ร้อนแล้วนำหมูที่หมักไว้ลงไปทอดพลิกไปพลิกมาจนสุกตามชอบ  วิธีทำซอสเห็ดหอม
 วิธีทำซอสเห็ดหอม
 1. นำกระทะที่ทอดหมู (ไม่ต้องล้าง) มาใส่เนยลงไป ตามด้วยเห็ดหอมและหอมใหญ่
 1. นำกระทะที่ทอดหมู (ไม่ต้องล้าง) มาใส่เนยลงไป ตามด้วยเห็ดหอมและหอมใหญ่ 2. หลังจากที่เห็ดนิ่มแล้วให้เติมน้ำที่ใช้หมักหมูที่เหลือไว้ พร้อมด้วยน้ำสต๊อกลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย
 2. หลังจากที่เห็ดนิ่มแล้วให้เติมน้ำที่ใช้หมักหมูที่เหลือไว้ พร้อมด้วยน้ำสต๊อกลงไป ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย  3. ใส่หอมใหญ่หั่นแว่นเข้าไปคลุกเคล้าจนเข้ากัน เสร็จแล้วราดลงไปบนสเต๊กหมู พร้อมเสิร์ฟ
 3. ใส่หอมใหญ่หั่นแว่นเข้าไปคลุกเคล้าจนเข้ากัน เสร็จแล้วราดลงไปบนสเต๊กหมู พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กหมูซอสเห็ดหอมและหัวหอม อร่อยนุ่ม ละมุนลิ้น
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กหมูซอสเห็ดหอมและหัวหอม อร่อยนุ่ม ละมุนลิ้น











 4. สเต๊กไก่สับ
 4. สเต๊กไก่สับ ผ่านพ้นเมนูสเต๊กหมูมาถึง 3 สูตรแล้ว คราวนี้มาเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าด้วยเมนูเนื้อไก่กันหน่อยดีกว่ากับเมนูสเต๊กไก่สับสูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2228164 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม (#maekwansri) ทำง่าย ๆ เอาเนื้อไก่มาสับกับกระเทียม ปรุงรสสักหน่อยแล้วหมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือข้ามคืน เสร็จแล้วก็นำไปทอดจนสุกหอม ราดด้วยซอสพริกไทยดำพอฉ่ำ กินกับสลัดผัก หรือมันอบก็เก๋แล้วค่ะ
 ส่วนผสม สเต๊กไก่สับ
 ส่วนผสม สเต๊กไก่สับ สะโพกไก่
 สะโพกไก่ กระเทียม
 กระเทียม ซอสหอยนางรม
 ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว
 ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายเล็กน้อย
 น้ำตาลทรายเล็กน้อย พริกไทยป่น
 พริกไทยป่น ใบไทม์
 ใบไทม์ น้ำมันมะกอก
 น้ำมันมะกอก ส่วนผสม ซอสพริกไทยดำ
 ส่วนผสม ซอสพริกไทยดำ เนยสด
 เนยสด หอมใหญ่สับละเอียด
 หอมใหญ่สับละเอียด ซอสพริกไทยดำสำเร็จรูป
 ซอสพริกไทยดำสำเร็จรูป น้ำเปล่า
 น้ำเปล่า วิธีทำสเต๊กไก่สับ
 วิธีทำสเต๊กไก่สับ 1. นำเนื้อไก่มาสับ พอใกล้จะละเอียดใส่กระเทียมลงไปสับให้เข้ากัน
 1. นำเนื้อไก่มาสับ พอใกล้จะละเอียดใส่กระเทียมลงไปสับให้เข้ากัน 2. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น และใบไทม์ นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อน หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือทั้งคืน
 2. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น และใบไทม์ นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อน หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือทั้งคืน 3. ตั้งกระทะเทฟลอนใส่น้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย รอจนกระทะร้อน นำเนื้อไก่ลงไปทอดแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที นำออกมาจัดใส่จาน
 3. ตั้งกระทะเทฟลอนใส่น้ำมันมะกอกลงไปเล็กน้อย รอจนกระทะร้อน นำเนื้อไก่ลงไปทอดแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10 นาที นำออกมาจัดใส่จาน  วิธีทำซอสพริกไทยดำ
 วิธีทำซอสพริกไทยดำ 1. ตั้งกระทะ ใส่เนยลงไปรอจนละลายแล้วใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้สุก
 1. ตั้งกระทะ ใส่เนยลงไปรอจนละลายแล้วใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้สุก 2. ใส่ซอสพริกไทยดำ เติมน้ำเปล่าลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนได้ที่ นำไปราดบนสเต๊กไก่สับ
 2. ใส่ซอสพริกไทยดำ เติมน้ำเปล่าลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนได้ที่ นำไปราดบนสเต๊กไก่สับ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กไก่สับ อาหารฝรั่งแบบบ้าน ๆ เลอค่าทำง่าย อิสลามทานได้
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กไก่สับ อาหารฝรั่งแบบบ้าน ๆ เลอค่าทำง่าย อิสลามทานได้











 5. สเต๊กปลาแซลมอน
 5. สเต๊กปลาแซลมอน หากอยากเปิดร้านสเต๊กมีแค่เมนูสเต๊กหมูและสเต๊กไก่คงไม่พอ ต้องเพิ่มเมนูสเต๊กปลาสำหรับคนรักสุขภาพกันหน่อย ขอแนะนำสเต๊กปลาแซลมอนสูตรจาก เฟซบุ๊ก iCook by KuCook นอกจากมีเนื้อปลาแซลมอนแล้วยังราดซอส 3 รสลงไปอีกด้วย ถ้าหากกลัวลูกค้าไม่อิ่มก็เพิ่มข้าวกระเทียมลงไปสักถ้วย อิ่มเพลินพุงเลยล่ะ
 ส่วนผสม สเต๊กปลาแซลมอน
 ส่วนผสม สเต๊กปลาแซลมอน ปลาแซลมอน 1 ชิ้น
 ปลาแซลมอน 1 ชิ้น เกลือทะเล
 เกลือทะเล พริกไทยดำ
 พริกไทยดำ  น้ำเปล่า (สำหรับลวกผัก)
 น้ำเปล่า (สำหรับลวกผัก) หน่อไม้ฝรั่ง 4 ต้น (หรือผักอื่นตามชอบ)
 หน่อไม้ฝรั่ง 4 ต้น (หรือผักอื่นตามชอบ) น้ำจิ้มบ๊วย 2 ช้อนโต๊ะ
 น้ำจิ้มบ๊วย 2 ช้อนโต๊ะ ซอสคิคโคแมน 1 ช้อนโต๊ะ (หรือซอสถั่วเหลืองสูตรโซเดียมต่ำ)
 ซอสคิคโคแมน 1 ช้อนโต๊ะ (หรือซอสถั่วเหลืองสูตรโซเดียมต่ำ) น้ำมันมะกอก
 น้ำมันมะกอก  ข้าวกล้องหุงสุก 1 ถ้วย
 ข้าวกล้องหุงสุก 1 ถ้วย แครอท (ฝานเป็นเส้นใหญ่ ๆ)
 แครอท (ฝานเป็นเส้นใหญ่ ๆ) มะเขือเทศเชอร์รีผ่าครึ่ง (สำหรับตกแต่ง)
 มะเขือเทศเชอร์รีผ่าครึ่ง (สำหรับตกแต่ง) วิธีทำสเต๊กปลาแซลมอน
 วิธีทำสเต๊กปลาแซลมอน 1. ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อยลงในกระทะ พอร้อนใส่เนื้อปลาแซลมอนลงไปย่าง
 1. ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อยลงในกระทะ พอร้อนใส่เนื้อปลาแซลมอนลงไปย่าง  2. โรยเกลือและพริกไทยดำบดเล็กน้อยลงบนเนื้อปลาแซลมอน ย่างจนเนื้อปลาสุกแล้วพลิกเนื้อปลาอีกด้านขึ้นแล้วโรยด้วยพริกไทยดำและเกลืออีกครั้ง พอเนื้อปลาสุกแล้วตักใส่จาน เตรียมไว้
 2. โรยเกลือและพริกไทยดำบดเล็กน้อยลงบนเนื้อปลาแซลมอน ย่างจนเนื้อปลาสุกแล้วพลิกเนื้อปลาอีกด้านขึ้นแล้วโรยด้วยพริกไทยดำและเกลืออีกครั้ง พอเนื้อปลาสุกแล้วตักใส่จาน เตรียมไว้ 3. ใช้กระทะใบเดิมเติมน้ำเปล่าลงไปพอประมาณ รอจนเดือดแล้วใส่หน่อไม้ฝรั่งลงไปลวกพอสุก จากนั้นเทน้ำลวกผักทิ้ง นำไปผัดแล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำบดเล็กน้อย ตักขึ้นใส่จาน พักทิ้งไว้
 3. ใช้กระทะใบเดิมเติมน้ำเปล่าลงไปพอประมาณ รอจนเดือดแล้วใส่หน่อไม้ฝรั่งลงไปลวกพอสุก จากนั้นเทน้ำลวกผักทิ้ง นำไปผัดแล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยดำบดเล็กน้อย ตักขึ้นใส่จาน พักทิ้งไว้ 4. ใส่น้ำจิ้มบ๊วยและซอสคิคโคแมน นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวพอเข้ากันและเริ่มเหนียวข้น ปิดไฟ พักทิ้งไว้
 4. ใส่น้ำจิ้มบ๊วยและซอสคิคโคแมน นำขึ้นตั้งไฟอ่อน เคี่ยวพอเข้ากันและเริ่มเหนียวข้น ปิดไฟ พักทิ้งไว้  5. นำปลาแซลมอนมาจัดใส่จาน ราดซอสที่เคี่ยวไว้ลงไปบนเนื้อปลา ตกแต่งด้วยหน่อไม้ฝรั่ง แครอท มะเขือเทศเชอร์รี เพิ่มข้าวกล้องหุงสุกลงไป พร้อมเสิร์ฟ
 5. นำปลาแซลมอนมาจัดใส่จาน ราดซอสที่เคี่ยวไว้ลงไปบนเนื้อปลา ตกแต่งด้วยหน่อไม้ฝรั่ง แครอท มะเขือเทศเชอร์รี เพิ่มข้าวกล้องหุงสุกลงไป พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กปลาแซลมอน เมนูอาหารคลีนหน้าตาดีมีประโยชน์
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กปลาแซลมอน เมนูอาหารคลีนหน้าตาดีมีประโยชน์











 6. สเต๊กปลาดอรี่ซอสกระเทียมพริกไทย
 6. สเต๊กปลาดอรี่ซอสกระเทียมพริกไทย เมนูนี้ก็นำเสนอสเต๊กปลาอีกเช่นเคยแต่เป็นปลาดอรี่สุดฮิต ทุกร้านที่ขายสเต๊กต่างมีสเต๊กปลาดอรี่ทั้งนั้น ถ้าไม่เอาไปทอดก็เอาไปย่างแล้วราดซอสอะไรก็ตามแต่ สำหรับสูตรนี้แนะนำสเต๊กปลาดอรี่ซอสกระเทียมพริกไทยสูตรจาก เฟซบุ๊ก เมนูดีที่บ้าน "บ.บวม" เมนูนี้น่าจะถูกปากคนไทยเพราะมีกลิ่นอายของกระเทียมและพริกไทย
 ส่วนผสม สเต๊กปลาดอรี่
 ส่วนผสม สเต๊กปลาดอรี่ ปลาดอรี่ 150 กรัม
 ปลาดอรี่ 150 กรัม เกลือและพริกไทยดำ (สำหรับหมักปลาดอรี่)
 เกลือและพริกไทยดำ (สำหรับหมักปลาดอรี่) หน่อไม้ฝรั่ง
 หน่อไม้ฝรั่ง  แครอท
 แครอท             เห็ดเข็มทอง
 เห็ดเข็มทอง ส่วนผสม ซอสกระเทียมพริกไทย
 ส่วนผสม ซอสกระเทียมพริกไทย น้ำมันมะกอก หรือเนย 1 ช้อนโต๊ะ
 น้ำมันมะกอก หรือเนย 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมจีนสับ 4-5 กลีบ
 กระเทียมจีนสับ 4-5 กลีบ เห็ดหอมหั่นแว่น 1 ดอก
 เห็ดหอมหั่นแว่น 1 ดอก น้ำซุป หรือน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง
 น้ำซุป หรือน้ำเปล่า 1/2 ถ้วยตวง ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
 ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา
 ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
 น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา เหล้าจีน 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
 เหล้าจีน 1 ช้อนชา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
 วิธีทำสเต๊กปลาดอรี่
 วิธีทำสเต๊กปลาดอรี่ 1. หมักปลาดอรี่กับเกลือและพริกไทยดำ เตรียมไว้
 1. หมักปลาดอรี่กับเกลือและพริกไทยดำ เตรียมไว้ 2. ใส่ปลาดอรี่ลงย่างในกระทะให้สุกทั้ง 2 ด้าน ด้านละประมาณ 3 นาที โดยใช้ไฟปานกลาง ตามด้วยหน่อไม้ฝรั่งและเห็ดเข็มทอง ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย จัดใส่จาน
 2. ใส่ปลาดอรี่ลงย่างในกระทะให้สุกทั้ง 2 ด้าน ด้านละประมาณ 3 นาที โดยใช้ไฟปานกลาง ตามด้วยหน่อไม้ฝรั่งและเห็ดเข็มทอง ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย จัดใส่จาน 
 วิธีทำซอสกระเทียมพริกไทย
 วิธีทำซอสกระเทียมพริกไทย  1. โขลกรากผักชีกับพริกไทยขาวเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
 1. โขลกรากผักชีกับพริกไทยขาวเข้าด้วยกัน เตรียมไว้ 2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่เนยหรือน้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยกระเทียม รากผักชี พริกไทยขาว และเห็ดหอม ผัดจนหอม แล้วเติมน้ำซุปลงไป ลดเป็นไฟปานกลาง
 2. นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใส่เนยหรือน้ำมันมะกอกลงไป ตามด้วยกระเทียม รากผักชี พริกไทยขาว และเห็ดหอม ผัดจนหอม แล้วเติมน้ำซุปลงไป ลดเป็นไฟปานกลาง  3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย เคี่ยวให้ซอสงวดลง จากนั้นเร่งไฟแรงแล้วเติมเหล้าจีนลงไปพอให้แอลกอฮอล์ระเหยหมด ปิดไฟยกลงจากเตา นำไปราดบนสเต๊กปลาดอรี่
 3. ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย เคี่ยวให้ซอสงวดลง จากนั้นเร่งไฟแรงแล้วเติมเหล้าจีนลงไปพอให้แอลกอฮอล์ระเหยหมด ปิดไฟยกลงจากเตา นำไปราดบนสเต๊กปลาดอรี่ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กปลาดอรี่ซอสกระเทียมพริกไทย อาหารฝรั่งง่าย ๆ ราคาถูก
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กปลาดอรี่ซอสกระเทียมพริกไทย อาหารฝรั่งง่าย ๆ ราคาถูก











 7. สเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์
 7. สเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์ สเต๊กปลานอกจากเอาไปย่างแล้วยังเอาไปทอดได้อีกนะคะ สำหรับร้านสเต๊กต้องหาเมนูดักไว้ทุกทางเนอะ มาพบกับสูตรสเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์จาก คุณ bangbuatong60d สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ปลาทอดชิ้นโตสุดกรอบราดซอสทาร์ทาร์หอมละมุน ทานกับผักลวกตัดเลี่ยนหน่อย หน้าตาดีขนาดนี้ลูกค้าคนไหนเห็นก็ต้องอยากลิ้มลอง
 ส่วนผสม สเต๊กปลาทอด (สำหรับ 6-8 ที่)
 ส่วนผสม สเต๊กปลาทอด (สำหรับ 6-8 ที่) ปลาดอรี่ชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น
 ปลาดอรี่ชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น เกลือป่นและพริกไทยป่น (สำหรับหมักปลาดอรี่)
 เกลือป่นและพริกไทยป่น (สำหรับหมักปลาดอรี่) แป้งทอดกรอบ (สำหรับชุบปลา)
 แป้งทอดกรอบ (สำหรับชุบปลา) ไข่ไก่ตีพอแตก (สำหรับชุบปลา)
 ไข่ไก่ตีพอแตก (สำหรับชุบปลา) เกล็ดขนมปัง
 เกล็ดขนมปัง ชีส
 ชีส ส่วนผสม ซอสทาร์ทาร์
 ส่วนผสม ซอสทาร์ทาร์ หอมใหญ่ซอยละเอียด
 หอมใหญ่ซอยละเอียด เกลือป่น
 เกลือป่น ครีมสลัด
 ครีมสลัด พาร์สลีย์สับ
 พาร์สลีย์สับ แตงกวาดองซอยละเอียด
 แตงกวาดองซอยละเอียด ไข่แดงต้มสุก 2 ฟอง
 ไข่แดงต้มสุก 2 ฟอง มะนาว
 มะนาว แครอทลวก หั่นเป็นแท่ง ๆ 2 หัว
 แครอทลวก หั่นเป็นแท่ง ๆ 2 หัว บรอกโคลีลวก 300 กรัม
 บรอกโคลีลวก 300 กรัม ผักกาดแก้ว
 ผักกาดแก้ว
 วิธีทำสเต๊กปลาทอด
 วิธีทำสเต๊กปลาทอด  1. ล้างปลาดอรี่ให้สะอาด นำไปซับน้ำและผึ่งลมให้แห้ง จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น หมักทิ้งไว้สักครู่
 1. ล้างปลาดอรี่ให้สะอาด นำไปซับน้ำและผึ่งลมให้แห้ง จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือป่นและพริกไทยป่น หมักทิ้งไว้สักครู่ 2. นำเนื้อปลาที่หมักไว้ไปชุบลงในแป้งทอดกรอบ ตามด้วยชุบไข่ไก่ให้ทั่ว สุดท้ายนำไปคลุกในเกล็ดขนมปัง
 2. นำเนื้อปลาที่หมักไว้ไปชุบลงในแป้งทอดกรอบ ตามด้วยชุบไข่ไก่ให้ทั่ว สุดท้ายนำไปคลุกในเกล็ดขนมปัง  3. นำลงทอดในน้ำมันใช้ไฟไม่ต้องแรงมากทอดจนเหลืองอ่อน ๆ ตักขึ้นแล้วนำเข้าเตาอบประมาณ 5 นาที เพื่อไล่น้ำมันจากนั้นโรยชีส เอาไปอบต่อจนสุก เตรียมไว้
 3. นำลงทอดในน้ำมันใช้ไฟไม่ต้องแรงมากทอดจนเหลืองอ่อน ๆ ตักขึ้นแล้วนำเข้าเตาอบประมาณ 5 นาที เพื่อไล่น้ำมันจากนั้นโรยชีส เอาไปอบต่อจนสุก เตรียมไว้ วิธีทำ ซอสทาร์ทาร์
 วิธีทำ ซอสทาร์ทาร์ 1. ขยำหอมใหญ่กับเกลือเข้าด้วยกัน พักทิ้งไว้ให้น้ำหอมใหญ่ออกมาแล้วบีบให้แห้ง
 1. ขยำหอมใหญ่กับเกลือเข้าด้วยกัน พักทิ้งไว้ให้น้ำหอมใหญ่ออกมาแล้วบีบให้แห้ง 2. เทครีมสลัดใส่ลงโถผสมอาหาร ตามด้วยหอมใหญ่ ใบพาร์สลีย์สับ แตงกวาดอง และไข่แดงต้มสุก บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
 2. เทครีมสลัดใส่ลงโถผสมอาหาร ตามด้วยหอมใหญ่ ใบพาร์สลีย์สับ แตงกวาดอง และไข่แดงต้มสุก บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย คนผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้  3. ต้มแครอทและบรอกโคลีให้สุก จัดเรียงในจาน ตามด้วยผักกาดแก้วให้สวยงาม ใส่ปลาทอดลงไป ราดซอสทาร์ทาร์ พร้อมเสิร์ฟ
 3. ต้มแครอทและบรอกโคลีให้สุก จัดเรียงในจาน ตามด้วยผักกาดแก้วให้สวยงาม ใส่ปลาทอดลงไป ราดซอสทาร์ทาร์ พร้อมเสิร์ฟ ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์ เมนูหรูหราในราคาประหยัด
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กปลาทอดกับซอสทาร์ทาร์ เมนูหรูหราในราคาประหยัด











 8. สเต๊กเนื้อโคขุนจิ้มแจ่ว
 8. สเต๊กเนื้อโคขุนจิ้มแจ่ว สำหรับร้านสเต๊กจะขาดเมนูสเต๊กเนื้อไปได้อย่างไร เอาใจคนชอบทานเนื้อกันหน่อยกับวิธีทำสเต๊กเนื้อโคขุนจิ้มแจ่วสูตรจาก เฟซบุ๊ก เมนูดีที่บ้าน "บ.บวม" ถ้าหากได้จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วด้วยแล้วอร่อยลืมอ้วนเลยล่ะ
 ส่วนผสม สเต๊กเนื้อโคขุน
 ส่วนผสม สเต๊กเนื้อโคขุน เนื้อโคขุน (หั่นเต๋า) 200 กรัม (ใช้ค้อนสำหรับทุบเนื้อ ทุบเพื่อช่วยให้เนื้อนุ่มขึ้น)
 เนื้อโคขุน (หั่นเต๋า) 200 กรัม (ใช้ค้อนสำหรับทุบเนื้อ ทุบเพื่อช่วยให้เนื้อนุ่มขึ้น) ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
 ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
 ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
 เกลือป่น 1/4 ช้อนชา น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันพืช) 2 ช้อนโต๊ะ
 น้ำมันมะกอก (หรือน้ำมันพืช) 2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
 น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
 ข้าวคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
 พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ เนยสด (สำหรับย่าง)
 เนยสด (สำหรับย่าง) เห็ดเข็มทองผัดเนย
 เห็ดเข็มทองผัดเนย  ผักสลัด
 ผักสลัด  ขนมปังโฮลวีท
 ขนมปังโฮลวีท  วิธีทำสเต๊กเนื้อโคขุน
 วิธีทำสเต๊กเนื้อโคขุน
 1. หมักเนื้อกับซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส เกลือป่น น้ำมันมะกอก น้ำตาลทราย ข้าวคั่วป่น และพริกป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้เนื้อนุ่มและรสชาติเข้าเนื้อสุด ๆ
 1. หมักเนื้อกับซอสหอยนางรม ซอสปรุงรส เกลือป่น น้ำมันมะกอก น้ำตาลทราย ข้าวคั่วป่น และพริกป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้เนื้อนุ่มและรสชาติเข้าเนื้อสุด ๆ 
 2. นำเนื้อที่หมักไว้ลงย่างในกระทะ ใส่เนยนิดหน่อย ย่างให้สุกปานกลาง จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมเห็ดเข็มทองผัดเนย ผักสลัด และขนมปังโฮลวีท
 2. นำเนื้อที่หมักไว้ลงย่างในกระทะ ใส่เนยนิดหน่อย ย่างให้สุกปานกลาง จัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมเห็ดเข็มทองผัดเนย ผักสลัด และขนมปังโฮลวีท ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว
 ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่ว น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ
 น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
 น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
 น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
 น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
 ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดได้ตามชอบ)
 พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ (เพิ่ม-ลดได้ตามชอบ) ต้นหอมซอย
 ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย
 ผักชีฝรั่งซอย วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว
 วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ชิมรสแล้วปรุงเพิ่มตามรสชาติที่ชอบ เสิร์ฟพร้อมสเต๊กเนื้อ
 คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ชิมรสแล้วปรุงเพิ่มตามรสชาติที่ชอบ เสิร์ฟพร้อมสเต๊กเนื้อ  ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กเนื้อโคขุนจิ้มแจ่ว เนื้อนุ่ม น้ำจิ้มแซ่บ แบบฉบับทำง่าย
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ สเต๊กเนื้อโคขุนจิ้มแจ่ว เนื้อนุ่ม น้ำจิ้มแซ่บ แบบฉบับทำง่าย











 9. ซี่โครงหมูบาร์บีคิว
 9. ซี่โครงหมูบาร์บีคิว เมนูสุดท้ายแม้ไม่ใช่สเต๊กแต่ก็เป็นอีกเมนูยอดฮิตที่ร้านสเต๊กมักใส่ลงไปในเมนูอาหารเพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่อยากสั่งอาหารเพิ่มแต่ไม่อยากกินสเต๊กแล้ว ขอแนะนำซี่โครงหมูบาร์บีคิวสูตรจาก คุณ isweet สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ซี่โครงหมูทาซอสบาร์บีคิวจนชุ่มนำไปอบจนแทรกซึมเข้าทุกอณู ก่อนเสิร์ฟก็ราดซอสบาร์บีคิวอีกครั้งหนึ่งเพื่อความสวยงามและเพื่อความน่าทาน
 ส่วนผสม ซี่โครงหมูบาร์บีคิว
 ส่วนผสม ซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซอสมะเขือเทศ 3 ถ้วย
 ซอสมะเขือเทศ 3 ถ้วย ซอสพริก 2 ถ้วย
 ซอสพริก 2 ถ้วย  ขิงอ่อนสับละเอียด 1/3 ถ้วย
 ขิงอ่อนสับละเอียด 1/3 ถ้วย  กระเทียมสับละเอียด 1/3 ถ้วย
 กระเทียมสับละเอียด 1/3 ถ้วย ออริกาโน่ 2 ช้อนโต๊ะ
 ออริกาโน่ 2 ช้อนโต๊ะ  โรสแมรี 1 ช้อนโต๊ะ
 โรสแมรี 1 ช้อนโต๊ะ อบเชยป่น 2 ช้อนโต๊ะ
 อบเชยป่น 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1/2 ช้อนชา
 เกลือ 1/2 ช้อนชา พริกไทยขาวป่น ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
 พริกไทยขาวป่น ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ  น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย (ถ้าไม่มีให้ใช้น้ำตาลทราย)
 น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย (ถ้าไม่มีให้ใช้น้ำตาลทราย) ซี่โครงหมูแบบแผ่น 2 กิโลกรัม
 ซี่โครงหมูแบบแผ่น 2 กิโลกรัม  น้ำเปล่า 4 ถ้วย
 น้ำเปล่า 4 ถ้วยหมายเหตุ : ขิงและกระเทียมหากไม่ชอบเป็นชิ้น ๆ ให้นำไปปั่นจนละเอียดก่อนนำมาทำซอสนะคะ
 วิธีทำซี่โครงหมูบาร์บีคิว
 วิธีทำซี่โครงหมูบาร์บีคิว
 1. ทำซอสบาร์บีคิวโดยผสมซอสมะเขือเทศกับซอสพริกเข้าด้วยกัน ตามด้วยขิงอ่อนสับ กระเทียมสับ ออริกาโน่ โรสแมรี อบเชย เกลือ พริกไทยขาวป่น และน้ำผึ้ง คนผสมให้เข้ากันเป็นซอสบาร์บีคิว พักไว้
 1. ทำซอสบาร์บีคิวโดยผสมซอสมะเขือเทศกับซอสพริกเข้าด้วยกัน ตามด้วยขิงอ่อนสับ กระเทียมสับ ออริกาโน่ โรสแมรี อบเชย เกลือ พริกไทยขาวป่น และน้ำผึ้ง คนผสมให้เข้ากันเป็นซอสบาร์บีคิว พักไว้
 2. ตัดซี่โครงให้เป็นชิ้นตามที่ชอบ (เพื่อให้ใส่หม้อหรือกระทะได้ง่าย ใครมีหม้อใหญ่ ๆ จะใส่ทั้งแผ่นก็ได้ตามสะดวกค่ะ)
 2. ตัดซี่โครงให้เป็นชิ้นตามที่ชอบ (เพื่อให้ใส่หม้อหรือกระทะได้ง่าย ใครมีหม้อใหญ่ ๆ จะใส่ทั้งแผ่นก็ได้ตามสะดวกค่ะ)
 3. ใส่ซอสบาร์บีคิวลงในกระทะ (หรือหม้อ) เติมน้ำเปล่าลงไปคนผสมให้ซอสละลายเข้ากัน จากนั้นนำซี่โครงใส่ลงไปในหม้อ ต้มพอเดือดแล้วเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง
 3. ใส่ซอสบาร์บีคิวลงในกระทะ (หรือหม้อ) เติมน้ำเปล่าลงไปคนผสมให้ซอสละลายเข้ากัน จากนั้นนำซี่โครงใส่ลงไปในหม้อ ต้มพอเดือดแล้วเคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 1.30-2 ชั่วโมง หมายเหตุ : บางสูตรก็นำซี่โครงไปต้มในน้ำเปล่าจนนุ่ม จากนั้นนำมาทาซอสก่อนย่าง ขณะย่างก็ทาซอสเรื่อย ๆ จนเข้าเนื้อ แต่ไม่ว่าจะทำวิธีไหนก็ได้เหมือนกันนะคะ ตามความสะดวกของเราค่ะ

 4. นำซี่โครงที่เราเคี่ยวจนเนื้อนุ่มและซอสซึมเข้าเนื้อแล้วมาทาซอสบาร์บีคิวให้ชุ่ม
 4. นำซี่โครงที่เราเคี่ยวจนเนื้อนุ่มและซอสซึมเข้าเนื้อแล้วมาทาซอสบาร์บีคิวให้ชุ่ม 
 5. จากนั้นนำไปอบ (หรือย่างตามสะดวก) ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-13 นาที ส่วนซอสที่เหลือเก็บไว้ราดอีกทีก่อนเสิร์ฟ
 5. จากนั้นนำไปอบ (หรือย่างตามสะดวก) ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 10-13 นาที ส่วนซอสที่เหลือเก็บไว้ราดอีกทีก่อนเสิร์ฟ 
  ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซี่โครงหมูบาร์บีคิว อาหารฝรั่งเลอค่า แบบโฮมเมดที่ใครก็ทำได้
 ดูวิธีทำเพิ่มเติมได้ที่ ซี่โครงหมูบาร์บีคิว อาหารฝรั่งเลอค่า แบบโฮมเมดที่ใครก็ทำได้
    สำหรับคนอยากเปิดร้านสเต๊กคงจะถูกอกถูกใจกับ 9 วิธีทำสเต๊กกันนะคะ ทุกสูตรทำได้เป๊ะ ถ้าหากอยากดัดแปลง หรือเพิ่มเครื่องเคียงอะไรก็จัดได้ตามใจปรารถนาเลยค่ะ เวลาไม่เคยรอใครนะคะ ถ้าพร้อมแล้วลงมือทำกินกันเองภายในครอบครัวก่อนก็ได้ค่ะ และเมื่อมั่นใจแล้วก็พร้อมออกสู่สนามค้าขายกันเลย
http://cooking.kapook.com/view132412.html
 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น