ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ DuangAesthetic สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม , ครอบครัวข่าว 3
ทหาร 2 รายที่รอดชีวิตจากเหตุโจรใต้ยิงทหารที่ปัตตานี เปิดใจถึงนาทีชีวิต ที่ถูกประกบยิงอย่างอุกอาจ จนต้องสูญเสียเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายไปถึง 4 ราย
หลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2555 ที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ ขนอาวุธสงครามและตามประกบยิงทหารชุดลาดตระเวนสังกัด ร้อย.ร.15321 ฉก.ปัตตานี 25 จนเป็นเหตุให้มีทหารเสียชีวิต 4 นาย คือ ส.อ.ลือชัย จุลทอง อายุ 26 ปี พลทหารเอกลักษณ์ สีดอกไม้ อายุ 22 ปี พลทหารภาคิน หงส์มาก อายุ 22 ปี และพลทหารเบญจรงค์ ศรีแก้ว อายุ 22 ปี และบาดเจ็บอีก 2 นาย คือ สิบเอกปรีดา นพคุณ อายุ 30 ปี และพลทหารอาคม ชูกล่อม อายุ 22 ปี โดยมีภาพวงจรปิดเผยให้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างชัดเจน และคลิปดังกล่าวก็ถูกเผยแพร่ต่อกันทางอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว สร้างความสลดใจต่อประชาชนที่ได้เห็นภาพดังกล่าวเป็นอย่างมากนั้น
พลทหารอาคม ชูกล่อม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พลทหารอาคม ชูกล่อม อายุ 22 ปี หนึ่งในทหารผู้รอดชีวิต ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี มีอาการปลอดภัยแล้ว และได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ถูกลอบยิงอย่างอุกอาจดังกล่าวว่า ตนและเพื่อนทหารรวม 6 นาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คันลาดตระเวนไปตามถนน ซึ่งคันที่ตนขับขี่และมีสิบเอกปรีดาซ้อนท้ายนั้นเป็นคันสุดท้ายในจำนวน 3 คัน จากนั้นก็สังเกตเห็นรถกระบะ 2 คันขับแซงขึ้นไปและประกบรถจักรยานยนต์ 2 คันข้างหน้า ของเพื่อนทหาร 4 นายที่ขี่ตามกันไป ก่อนที่จะรถกระบะคันดังกล่าวจะสาดกระสุนใส่รถจักรยานยนต์ของเพื่อนทหารทั้ง 2 คัน จนทหารทั้ง 4 นายล้มลง ซึ่งตนได้หักรถหลบลงข้างทางทันทีโดยยังไม่รู้ตัวว่าโดนกระสุนยิงใส่บ้างหรือไม่
เมื่อพลทหารอาคมและสิบเอกปรีดาหักรถจักรยานยนต์หลบลงข้างทางแล้ว ก็เห็นภาพเพื่อนทหารถูกกลุ่มโจรใต้ลงจากรถมาสาดกระสุนใส่ซ้ำอย่างไม่ยั้ง ทำให้ตนตัดสินใจยิงต่อสู้ คิดเพียงแต่ว่า "ตายเป็นตาย เพราะไม่สู้ก็ตาย" โดยยิงต่อสู้กันอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะขับรถหนีไป ตนและเพื่อนจึงรอดชีวิตมาได้โดยต่างก็ได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่สิบเอกปรีดา นพคุณ อายุ 30 ปี ซึ่งกำลังรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี ก็ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ระทึกดังกล่าวว่า ตนเองซ้อนท้ายจักรยานยนต์มาเป็นคันที่ 3 โดนมีพลทหารอาคมเป็นผู้ขับขี่ พอถึงจุดเกิดเหตุก็เอะใจเมื่อเห็นคนร้ายขับรถเข้ามาประชิด ทั้งที่ถนนมีพื้นที่กว้าง จากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น โดยมีกระสุนเฉียดผ่านมายังรถจักรยานยนต์คันที่ตนนั่งอยู่ โดยกระสุนเฉียดหน้าอกของตนไปถูกแขนซ้ายจนทะลุ ขณะที่พลทหารอาคมก็หักรถหลบลงพุ่มไม้ข้างทางและเริ่มต้นยิงตอบโต้ ทำให้คนร้ายไม่เข้ามาใกล้ ตนเองซึ่งถนัดซ้ายกลับต้องมาบาดเจ็บที่แขนซ้าย จึงได้แต่ยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่และคิดเสมอว่าตนเองคงไม่รอดแล้ว แต่อีกใจก็ยังหวังให้คนร้ายเดินเข้ามาใกล้ ๆ เนื่องจากตนและพลทหารอาคมอยู่ในพื้นที่ปิดแต่คนร้ายอยู่ในที่โล่ง จะได้มีโอกาสยิงคนร้ายได้ โดยตนคิดในใจแต่เพียงว่า "ถ้าหากจะต้องตาย ก็ขอยิงคนร้ายได้บ้าง"
จากนั้นคนร้ายก็วนรถกลับมา โดยที่ตนเองและพลทหารอาคมก็ยังยิงปืนใส่คนร้ายไม่ยั้ง ซึ่งเป็นการยิงปืนปะทะกันตลอดจนกระทั่งคนร้ายขับรถผ่านตนและพลทหารอาคมไปโดยที่ไม่ได้จอดรถลงมาแต่อย่างใด ทำให้ตนเองและพลทหารอาคมซึ่งได้รับบาดเจ็บทั้งคู่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (30 กรกฎาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนแล้ว โดยได้แยกผู้ต้องสงสัยเพื่อทำการซักถาม และไม่สร้างความกดดัน ทั้งนี้ในเบื้องต้นพบว่า 3 คนนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจอาวุธปืนขนาด 9 มม. และดีเอ็นเอ จากหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนทั้ง 3 คนนั้น เป็นเพียงแค่ผู้ต้องสงสัยเท่านั้น จึงยังไม่มีการเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดนั้น ล่าสุดได้ขยายภาพให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นจากการตรวจภาพบุคคล โดยให้สายข่าวในแต่ละหน่วยตรวจสอบ พบว่า มีบุคคลที่มีรูปพรรณตามแฟ้มประวัติ ทั้งมีหมายจับ และ หมาย พ.ร.ก. ทราบชื่อ คือ
นายบาฮารี เปาะสลาเมาะ
นายอับดุลาดี ดาหาเล็ง
นายอานาฟี ดาเม็ง
นายมาน สุกรี
ส่วนผู้ร้ายอีก 3 คน ยังไม่มีการยืนยันชื่อ ซึ่งทั้งหมดรวมตัวจากหลายพื้นที่ คือ อำเภอบันนังสตา รามัน จังหวัดยะลา และ อำเภอมายอ ทุ่งยางแดง และ ยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (30 กรกฎาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คนแล้ว โดยได้แยกผู้ต้องสงสัยเพื่อทำการซักถาม และไม่สร้างความกดดัน ทั้งนี้ในเบื้องต้นพบว่า 3 คนนี้ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจอาวุธปืนขนาด 9 มม. และดีเอ็นเอ จากหลักฐานต่าง ๆ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนทั้ง 3 คนนั้น เป็นเพียงแค่ผู้ต้องสงสัยเท่านั้น จึงยังไม่มีการเปิดเผยชื่อแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาตามมา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดนั้น ล่าสุดได้ขยายภาพให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นจากการตรวจภาพบุคคล โดยให้สายข่าวในแต่ละหน่วยตรวจสอบ พบว่า มีบุคคลที่มีรูปพรรณตามแฟ้มประวัติ ทั้งมีหมายจับ และ หมาย พ.ร.ก. ทราบชื่อ คือ
นายบาฮารี เปาะสลาเมาะ
นายอับดุลาดี ดาหาเล็ง
นายอานาฟี ดาเม็ง
นายมาน สุกรี
ส่วนผู้ร้ายอีก 3 คน ยังไม่มีการยืนยันชื่อ ซึ่งทั้งหมดรวมตัวจากหลายพื้นที่ คือ อำเภอบันนังสตา รามัน จังหวัดยะลา และ อำเภอมายอ ทุ่งยางแดง และ ยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น