ร้อนนี้ หนีความวุ่นวาย ไปพักกายกัน ณ เกาะช้าง
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่า เกาะช้าง อยู่ในจังหวัดตราดซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนภาคตะวันออกของประเทศ เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ในทะเลอ่าวไทย และเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับ 2 ในประเทศรองจากเกาะภูเก็ตนั่นเอง จากลักษณะการเรียงตัวกันของเกาะน้อยใหญ่กว่า 52 เกาะ เหมือนรูปโขลงช้างเดินเรียงกันทำให้หมู่เกาะนี้มีชื่อว่า “เกาะช้าง” เราสามารถเดินทางมายังเกาะช้างได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ถือว่าเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของที่นี่ ก็คงไม่พ้นช่วงนี้ที่อากาศค่อนข้างร้อน
และสำหรับที่ เกาะช้าง ถึงแม้จะเข้าช่วงฤดูร้อน แต่อากาศก็จะไม่ร้อนมาก เพราะที่นี่มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้นส่วนมากเป็นภูเขาสูง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารและน้ำตกต่างๆ บนเกาะ ส่วนพื้นที่ราบบริเวณเชิงเขาก็จะเป็นพื้นที่สำหรับการปลูกสวนผลไม้ของชาวบ้าน เช่น สับปะรด แตงโม ทุเรียน เป็นต้น รวมไปถึงสถานที่พักแรม ร้านอาหารและสถานบันเทิงต่างๆ สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย
การมาเที่ยวที่ เกาะช้าง มีกิจกรรมให้เลือกหลากหลายแล้วแต่ความชอบจะเป็นว่ายน้ำเล่นที่ชายหาด เที่ยวน้ำตก ปีนเขา เดินป่า ขี่ช้าง ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ล่องเรือ ตกปลา ไดหมึก หรือจะไปดำน้ำดูปะการังท่ามกลางฝูงปลาน้อยใหญ่สีสันสวยงามแปลกตาตามหมู่เกาะรังหรือเกาะหวาย ที่นี่น้ำทะเลสวยใสมากทำให้เห็นปลาและปะการังได้อย่างชัดเจน เพียงแค่นำเรือมาจอดตรงจุดดำน้ำเหล่าปลาสลิดหินลายก็ออกมาต้อนรับกันอย่างคับคั่งสามารถมองเห็นได้แม้อยู่บนเรือเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้สำหรับแขกผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก และเมื่อได้ดำน้ำลงไปก็สามารถเห็นปลาอีกหลากหลายชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาปักเป้าลูกไก่ ปลาการ์ตูนอินเดียแดง ดอกไม้ทะเล หอยเม่น ปลิงทะเล ฯลฯ ดูเหมือนว่าเรากำลังว่ายน้ำอยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่
ระยะทางจากกรุงเทพฯ มาที่จังหวัดตราดนั้นประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางพอสมควร ระหว่างทางนักท่องเที่ยวสามารถแวะพักดื่มกาแฟที่ร้านหลวงปู่กาแฟสด L.P Coffee ร้านสวยบรรยากาศดี มีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายเมนู อยู่ระหว่างทางจากระยองมุ่งสู่จังหวัดจันทบุรี ร้านอยู่ติดทางหลวงหมายเลข 3 ฝั่งตรงข้ามทางแยกเข้าร้านตำนานป่า มีป้ายบอกชื่อร้านอย่างเด่นชัด เมื่อพักหายเหนื่อยแล้วก็ขับรถมุ่งตรงมายังจังหวัดตราด มาที่แหลมงอบ ที่นี่มีท่าเรือเฟอร์รี่ให้ลงได้ 2 จุด คือ ท่าเรือเกาะช้างเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติและท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์เฟอร์รี่ สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามไปได้ ถนนบนเกาะลาดยางสะดวกสบาย แต่มีเพียงบางช่วงที่ทางค่อนข้างลาดชันจึงควรขับรถด้วยความระมัดระวัง ที่สำคัญบนเกาะนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
Tips ข้อมูลการเดินทาง
+ การเดินทางโดยรถยนต์
จากกรุงเทพฯ ไปสู่จังหวัดตราดสามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ
1. ใช้เส้นทางสายบางนา – ตราด (ทางหลวงหมายเลข 3) ผ่าน ชลบุรี – ระยอง – จันทบุรี ไปจนถึงจังหวัดตราด ระยะทางประมาณ 385 กม.
2. ใช้เส้นทางหลวงมอเตอร์เวย์ สู่บ้านบึงแล้วใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 344 (บ้านบึง – แกลง) เมื่อถึงแกลงเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง หลวงหมายเลข 3 (ถ.สุขุมวิท) ผ่าน อ.ขลุง จ.จันทบุรี แล้วข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเวฬุ เข้าสู่เขต จ.ตราด ที่ ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง ระยะทางประมาณ 315 กม. ซึ่งเส้นทางนี้จะสะดวกและรวดเร็วกว่าเส้นทางแรก
***หากไม่ต้องการเข้าสู่ตัวเมืองตราด ท่านสามารถที่จะเลี้ยวขวา บริเวณแยกเขาสมิง(แยกแสนตุ้ง) หลังจากข้ามสะพานเวฬุแล้ว เพื่อไปยังท่าเรือเฟอร์รี่ได้เลย
+ รถโดยสารประจำทาง
มีบริการเดินรถทั้งที่สถานีหมอชิตและสถานีเอกมัย สอบถามตารางเดินรถได้ที่ Call Center 1490 เรียก บขส.
+ ท่าเรือข้ามไปยังเกาะช้าง
- ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์เฟอร์รี่
มีเรือออกทุกชั่วโมง เที่ยวไป-กลับ ตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. ใช้เวลาในการข้ามฟาก 30 นาที สอบถามโทร. 0-3953-8196
- ท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติ
มีเรือออกทุกๆ 45 นาที เที่ยวไป-กลับ ตั้งแต่เวลา 06.30-19.00 น. ใช้เวลาในการข้ามฟาก 30 นาที สอบถามโทร. 0-3955-5188
+ ทัวร์ดำน้ำเกาะต่างๆ
มีบริการทั้งดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น มีรถไปรับ-ส่งถึงที่พัก ติดต่อ คุณปู โทร. 08-1863-1561
+ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. โทรศัพท์ : +66 (0) 3959 7255, +66 (0) 3959 7259 – 60
credit : sanook
http://www.tlcthai.com/travel/6468
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น