วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

“เฉลิมชัย” อัด “แม้ว-ปู” ข่มขืนประเทศ ส่งพวกรุมโทรมซ้ำ


เฉลิมชัย ศรีอ่อน (แฟ้มภาพ)



ปชป.เพิ่งตื่นใช้ทีวีดาวเทียมบลูสกาย-ทีนิวส์ เป็นช่องทางสื่อสารกับประชาชน “กรณ์” ขอวิชาสร้างมวลชนกับ ปชป.ภาคใต้ที่รวมตัวกันเหนียวแน่น หลังพบคะแนนใน กทม.สูสี พท. “เฉลิมชัย” อัด “นช.แม้ว-ปู” ข่มขืนประเทศไทย แถมส่งพวกรุมโทรมซ้ำ เอาตำแหน่งเป็นเดิมพันคราวหน้า ปชป.ได้ ส.ส.เพิ่มแน่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (28 พ.ย.) พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการโครงการยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาศักยภาพสาขาพรรค 14 จังหวัดภาคใต้ โดยนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาค กทม. กล่าวถึงการสื่อสารของสมาชิกพรรคกับผู้บริหารของพรรคว่า ปัจจุบันมีช่องทางการสื่อสารที่สำคัญคือ มีสื่อในบลูสกายแชนแนลทีวี ทีวีดี ซึ่งเป็นทีวีดาวเทียม รวมถึงทีนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อที่เป็นพันธมิตรกับพรรคสามารถติดตามได้ว่าผู้บริหารของพรรคดำเนินงานอย่าไร

นอกจากนี้ยังมีสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คที่สามารถเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทำความเข้าใจกับกลุ่มคนที่เข้ามาแชร์ติดตามเป็นเพื่อน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสื่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เอื้อต่องานการเมือง ทำให้รู้แนวคิดของพรรคและคู่แข่งขัน จึงอยากให้สมาชิกพรรคได้ติดตามข่าวสารในช่องทางดังกล่าว หรือการรับข่าวสารเอสเอ็มเอสของทีนิวส์ ที่ได้จัดทีมติดตามการทำข่าวของผู้บริหารพรรค โดยเสียค่าสมาชิกเดือนละ 39 บาท ก็สามารถรับรู้ข่าวสารความเป็นไปของผู้บริหารพรรค รวมทั้งหากจะติดตามดูรายการสายล่อฟ้าก็จะทราบประเด็นสถานการณ์ ข่าวร้อน ที่จะใช้เป็นข้อมูลในการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เพื่อใช้ในการต่อสู้ใต้เข็มขัดได้อีกช่องทางหนึ่ง

ส่วนพื้นที่ใน กทม. แม้พรรคได้ ส.ส.23 ที่นั่งจากทั้งหมด 33 ที่นั่ง แต่เมื่อรวมตัวเลขของคะแนนทั้งหมดกลับพบว่าพรรคประชาธิปัตย์ชนะคู่แข่งแค่ 6 หมื่นคะแนน เฉลี่ยชนะเขตละไม่กี่พันคะแนน ถือว่าสูสีกันมาก จึงอยากได้ความรู้การสร้างมวลชนและจัดตั้งสมาชิกของสาขาพรรคในภาคใต้ว่าทำอย่างไรถึงทำให้คนภาคใต้ยึดมั่นและศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ได้เหนียวแน่นขนาดนี้

ด้าน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ก้าวต่อไปพรรคประชาธิปัตย์” ตอนหนึ่งว่า ตนคาดว่าในอนาคตจะมีพรรคการเมืองหลักๆ ในประเทศเพียงแค่ 2-3 พรรคเท่านั้น และพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นหนึ่งในนั้น เพราะไม่ได้เป็นพรรคของนายทุน แม้จะหมดยุคสมัยของตนหรือนายอภิสิทธิ์ไปแล้วก็จะมีคนใหม่มาแทนที่ เพราะพรรคเปิดโอกาสให้ทุกคนมาเป็นเจ้าของพรรค ต่างจากพรรคที่มีนายทุน เมื่อนายทุนพรรคตายไปตามสัจธรรม พรรคนั้นๆ ก็จะล้มหายตายจากไปด้วย

นายเฉลิมชัยกล่าวว่า วันนี้หลายภาคส่วนการเมืองอ้างเรื่องความปรองดอง เป็นคำพูดที่ตนเองมองว่าสวยหรู วันนี้เขาบอกเกิดจากต้นไม้พิษ เป็นคำพูดที่พูดตอกย้ำทุกวัน คนที่พูดก็รู้ว่าหลอกประชาชน แต่พูดมาหลายปีจนคิดว่าเป็นความจริง และวันนี้ได้กลายเป็นดินพิษ ที่ไม่ว่าจะปลูกอะไรก็แล้วแต่ ผลผลิตที่ออกมาก็จะเป็นพิษทั้งหมด เพราะเกิดจากกระบวนการที่ไม่ถูกต้องและชอบธรรม เพราะทำเพื่อพวกพ้อง ไม่คำนึงถึงประชาชน

“ผมสงสารคนไทย 15 ล้านคนที่โดนหลอกและกำลังตายผ่อนส่ง เพราะก็ใช้ของแพงเหมือนกับคนอีก 45 ล้านคน วันหนึ่งคงรู้สึก แต่กว่าจะถึงวันนั้นไม่แน่ใจว่าประเทศจะเสียหายมากแค่ไหน และสงสารประเทศไทยที่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาประเทศโดนข่มขืน โดนพี่น้องคู่หนึ่งข่มขืน ไม่สนใจพี่น้องประชาชนเอาความสุขของตัวเองเป็นใหญ่อย่างเดียว และยังให้พวกมารุมโทรมประเทศไทย รัฐบาลรู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น และรัฐบาลเท่านั้นที่จะคลี่คลายได้หากเป็นผู้ปกครองที่ดี แต่วันนี้รู้ทั้งรู้ว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญจะก่อให้เกิดความแตกแยกทางความคิด แต่ก็ยังออกมาสนับสุนนกันเต็มที่ ซึ่งนักปกครองที่ดีเขาไม่ทำกัน วิกฤติที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบ”

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า วันนี้ปัญหาปากท้องประชาชนที่ควรแก้ไขกลับไม่สนใจ ดันทุรังใช้เสียงข้างมาก เผด็จการในรัฐสภาซึ่งถือว่าเลวร้ายกว่าเผด็จการใช้กำลัง เพราะไม่มีวันคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชน เป็นอุปสรรคที่สุดในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนต้องออกมาปกป้องประเทศชาติและแสดงพลัง ก่อนหน้านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ บอกว่ามาทำงานจะแก้ไขไม่แก้แค้น แต่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เพราะเมื่อมาเป็นรัฐบาลก็แก้แค้นอย่างเดียว ข้าราชการที่รักความเป็นธรรมเริ่มออกมาต่อต้านในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

“วันนี้ผมไม่อยากเห็นการเมืองไทยเป็นระบบเผด็จการรัฐสภา เพราะมันเลวร้ายกว่าเผด็จการทหารในฐานะนักการเมืองจึงออกมาเตือนประชาชน เพราะสิ่งเหล่านี้จะนำประเทศไปสู่วิกฤต”

ส่วนแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะเดินไปข้างหน้า คือ ปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ในส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้า จากการที่ตนได้ลงพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน ขอให้ชาวใต้สบายใจได้ เพราะตนจะลบคำสบประมาทด้วยการเอาตำแหน่งมาเดิมพัน โดยมั่นใจว่าภาคอีสานและเหนือจะได้ ส.ส.เพิ่มขึ้น 100 เปอร์เซ็นต์ ที่มีการสบประมาทว่าอีก 10 ปี พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ชนะ เชื่อว่าถ้าเราไม่ละความพยายาม ก็ยังมีโอกาสขึ้นมาบริหารประเทศชาติในวันข้างหน้า และอยากจะเห็นคะแนนในระบบเขตและบัญชีรายชื่อภาคใต้เพิ่มมากขึ้น เพื่อที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้เดินไปข้างหน้าและต่อสู้รักษาผลประโยชน์ของประชาชน





โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2555 11:52 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น