วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ในหลวง ทรงแนะให้ปลูกป่าป้องน้ำท่วม เพิ่มโทษคนลอบตัด

ในหลวง

ในหลวงทรงแนะให้ปลูกป่าป้องน้ำท่วมเพิ่มโทษคนลอบตัด


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดให้นายกรัฐมนตรีและคณะกยน.-กยอ. เข้าเฝ้าถวายรายงานการจัดการน้ำ ณ โรงพยาบาลศิริราช ทรงแนะปลูกป่าเน้นไม้เนื้อแข็งเพื่อป้องกันน้ำท่วม และให้เพิ่มโทษคนลอบตัด

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 17.49 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ หรือ กยอ. และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ หรือ กยน. เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานเรื่องการวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการวางแผนเพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรงและกว้างขวาง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้องจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างเป็นระบบ รัฐบาลจึงได้ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2554 และแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำขึ้นมาดำเนินการ

โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำรัสว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมต้องหาวิธีระบายน้ำ ให้น้ำไหลอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังมีเรื่องดินและเรื่องป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าให้ได้ด้วยการเพิ่มบทลงโทษ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย โดยปลูกทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อนผสมกัน เพราะไม้เนื้ออ่อนโตเร็ว แต่รากไม่ยึดดินเท่ากับไม้เนื้อแข็งที่โตช้ากว่า แต่หยั่งรากลึก ช่วยป้องกันดินถล่มได้

"ก็ยากที่จะพูด แต่ว่าข้อสำคัญเป็นการไหลของน้ำ หากให้สามารถ ให้น้ำมันไหลสม่ำเสมอ อย่างที่เห็นมา ในปีที่ผ่านมา น้ำลงมาพรวดพราด แล้วก็ไม่ลง ไม่ยอมลงที่มีปัญหาสำคัญก็เรื่องของป่าไม้ เรื่องต้นไม้ ตลอดตั้งแต่ภาคเหนือ มาถึงภาคกลาง แล้วในภาคใต้ก็มีปัญหาเป็นแห่ง ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าในประเทศไทยและในต่างประเทศเห็นว่า เพราะว่าป่าไม้ถูกทำลาย

ป่าไม้มีหลายชนิด โดยเฉพาะ 2 ชนิด ป่าไม้ที่ขึ้นเร็ว โตเร็ว และทำลายเร็ว และมีต้นไม้ที่ขึ้นช้า และถูกทำลาย ก็เลยทำให้ไม่สามารถที่จะแก้ไขต้นไม้ที่โตเร็ว ทำลายเร็ว ก็ทำให้มีดินถล่มทุกแห่ง จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ทางภาคเหนือก็มีมาก แต่ก่อนนี้ไม่มี ก่อนนี้มีแต่ภาคใต้ ที่มีเพราะว่า มีต้นไม้ที่โตเร็ว ก็ทำลายเร็ว ความเร็ว และก็มีอันตรายมาก มาเดี๋ยวนี้ไปถึงภาคเหนือเกือบทุกแห่ง มีการทำลาย ทลายของดิน ของภูเขา อันนี้ก็อันตรายมาก และแก้ไขยาก ก็ต้องหาวิธีที่จะแก้ไขเรื่องป่าไม้เป็นสำคัญ ที่ลำบากเพราะว่า ความโลภของคน ต้นไม้ที่ชอบ ที่ถูกทำลายคือต้นที่มีคุณภาพ ต้นไม้แข็ง ก็หมายความว่าเป็นต้นไม้ที่ถูกทำลายแล้วขึ้นช้า แล้วจะทำอย่างไร เพราะว่า ความโลภของคน โดยเฉพาะเราตำหนิข้าราชการที่โลภและก็อยากได้เงิน แต่อันนี้ลำบาก ต้นไม้ที่ช่วยในเรื่องของน้ำท่วมนี่ ก็จะขึ้นช้า ปลูกยาก แต่หลักการที่จะต้องทำก็คือ จะต้องปลูกต้นไม้ขึ้นเร็วผสมกับต้นไม้ที่ขึ้นช้า และก็ช่วยในการป้องกันน้ำท่วม ก็ต้องปลูกต้นไม้ที่เรียกว่า หาไม้แข็ง และขึ้นช้า แต่ว่าเมื่อขึ้นช้าก็ป้องกันยากที่จะไม่ถูกทำลาย พอถูกทำลาย ปลูกแทนมันยาก และก็ต้นไม้ที่ไม้แข็งย่อมขึ้นช้า อันนี้จะต้องหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้มีการทำลาย และก็ให้มีการลงโทษหนัก เพื่อจะไม่ให้ถูกทำลาย การปลูกก็ควรจะปลูกต้นไม้ที่ขึ้นช้า ที่เป็นไม้แข็ง ไม้รากลึก ทำให้ป้องกันการดินถล่ม อันนี้ก็เป็นปัญหายากมาก วิธีจะทำก็ต้องปลูกผสมพวกต้นไม้ ไม้อ่อนและขึ้นเร็วกับไม้แข็งที่ขึ้นช้า

เพราะฉะนั้น จะต้องหาวิธีที่จะป้องกันการทำลาย เพราะว่า ต้นไม้ไม้แข็งเมื่อถูกทำลายแล้วก็กว่าจะแทนที่ได้ ก็กินเวลานาน อย่างที่กรุงเทพฯ ได้ปลูกต้นไม้แข็ง เช่น ไม้สัก และไม้ยาง ไม้สักก็กินเวลาหลายสิบปีกว่าจะโตและแกร่ง ไม้ยางขึ้นได้เร็วกว่า แต่อย่างไรก็กินเวลานาน 60 ปี กว่าจะใช้ได้ หมายความว่า เป็นงานหนักและการปลูกต้นไม้ที่จะช่วยให้เป็นไม้ที่จะช่วยในเรื่องของที่เรา ปัญหาที่เราทำคือน้ำท่วม ดินถล่ม ต้องใช้เวลาเป็นแรมปีถึงจะดีขึ้นได้

วิธีทำก็หลีกปัญหา ก็จะต้องปลูกต้นไม้ที่ขึ้นเร็ว หมายความว่าประมาณ 10 ปี ก็โตแล้ว ใช้การได้ แล้วก็ผสมกับต้นไม้ที่ต้องใช้เวลานาน กว่าจะใช้งานได้ ก็ใช้งานทั้งในฐานะเป็นไม้และในฐานะเป็นต้นไม้ที่จะป้องกันน้ำท่วม เป็นเวลาหลายสิบปี ก็ความคิดที่จะทำก็คือปลูกต้นไม้ที่เกิด ที่ขึ้นเร็ว ที่จะใช้งานได้ ขายได้ ได้รายได้ ส่วนหนึ่ง แล้วก็ไม้แข็ง ไม้ที่มีคุณภาพ ไม้ที่แพง ไม้ที่คนชอบไปตัดแล้วไปขาย ก็ต้องพยายามที่จะทำป่าที่ปลูกต้นไม้หลายชนิด"




 Kapook



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น