ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ฉุนผับฉาวทำท่องเที่ยวพัง ขู่สั่งปิด
ปลาวาฬ อิสสระ
เรียงเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต สั่งปิดผับฉาว เหตุรุมแทงปลาวาฬเจ็บสาหัส ชี้ทำภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเมืองภูเก็ต เสียหายด้านยับ เผยเคยมีเหตุลักษณะนี้มาแล้ว ขู่หากมีอีกสั่งปิดถาวรแน่
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา ที่หนุ่มไฮโซ ปลาวาฬ วรสิทธิ์ อิสสระ เจ้าของโรงแรมดัง ศรีพันวา ถูกแทงกลางผับที่ภูเก็ต บาดเจ็บสาหัส และกำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ภูเก็ตนั้น
ล่าสุด วานนี้ (8 มกราคม) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ขณะนี้ นายวรสิทธิ์ ก็ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยมีเพื่อน ๆ เดินทางจากกรุงเทพฯมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย แต่จะอนุญาตให้เข้าเยี่ยมอาการในห้องไอซียูได้ไม่กี่คนเท่านั้น เพราะเกรงว่าอาจมีเชื้อโรคปนเปื้อนได้ เนื่องจากนายวรสิทธิ์ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือไม่ได้รับอนุญาตจากครอบครัว อิสสระ เข้าไปโดยเด็ดขาด
ด้าน นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทั้งปลาวาฬ และนายเจเรมี เรนเนอร์ ดาราฮอลลีวู้ด ทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อทั้งไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสื่อต่างชาติที่ให้ความสนใจในตัวดาราฮอลลีวู้ด ซึ่งเกือบถูกกลุ่มคนร้ายที่เป็นคนไทยรุมทำร้ายร่างกายในเหตุการณ์ครั้งนี้เช่นกัน
นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตเป็นอย่างมาก และไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายใดๆ ได้เลย โดยสิ่งที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่พยายามเสริมสร้างภาพลักษณ์เมืองภูเก็ตให้เป็นเมืองน่าเที่ยว กลับต้องเสียความรู็สึกและมัวหมองไปกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อีกทั้งทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจว่า จังหวัดภูเก็ต เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ ภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งปิดสถานบันเทิงแห่งนี้ไปแล้ว 90 วัน หลังจากตรวจสอบพบว่าเคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งหากยังมีครั้งที่ 3 จังหวัดในฐานะอำนาจผู้ว่าฯ จะสั่งปิดกิจการเป็นการถาวรทันที ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตเคยสั่งปิดสถานบันเทิงในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว จากนี้ไปถ้าตนยังเป็นผู้ว่าฯ อยู่จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก
เช่นเดียวกับ นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต ฝ่ายต่างประเทศ มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอาชญากรรมร้ายแรง ที่ถือว่าทำเกินกว่าเหตุ ส่งผลให้ชาวต่างชาติดูว่าบ้านเรามีความรุนแรงถึงขั้นพยายามจะเอาชีวิตกัน แค่มูลเหตุเพียงเล็กน้อย และแน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองภูเก็ตในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นอน เพราะผู้ถูกทำร้ายเป็นคนที่มีชื่อเสียงและยังมีดาราที่มีชื่อเสียงร่วมเหตุการณ์เข้าไปอีก ทำให้สื่อต่างชาติยิ่งนำเสนอข่าวกันอย่างหนักเลยทีเดียว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)


ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น