วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

เตือนบทเรียน บิ๊ก ขรก.ขี้เบ่ง “สุกำพล” ยันทุกคนต้องปฏิบัติตามขั้นตอน “ทอท.” ห่วงกระทบภาพลักษณ์


รมว.คมนาคม เตือนบทเรียน บิ๊ก ขรก.ขี้เบ่ง หลังข่าวเด้ง ซี 7 ตบบ้องหู จนท.สนามบิน ยันทุกคนต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของสนามบิน ไม่มีข้อยกเว้น เพราะเป็นไปตามหลักสากลในมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของทั่วโลก ทอท.ยอมรับ การทำร้ายร่างกายในสนามบิน ถือเป็นเรื่องใหญ่ หวั่นกระทบภาพลักษณ์ฉาวโฉ่

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่มีข้าราชการซี 7 ตบบ้องหูเจ้าหน้าที่สนามบินสุวรรรณภูมิ โดยระบุว่า การรักษาความปลอดภัยเป็นมาตรฐานของสนามบินทุกแห่งในประเทศไทยที่ต้องมีความเข้มงวด ซึ่งแม้แต่ตัวเองเวลาเดินทางก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ไม่มีการยกเว้นเช่นกัน ซึ่งเป็นไปตามหลักสากลในมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของทั่วโลก และเรื่องดังกล่าวมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ต้องดูแล ทุกเรื่องคงไม่ต้องมาถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหมด

ด้าน นายสมชัย สวัสดีผล ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ (ทสภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งเจ้าหน้าที่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตามแผนรักษาความปลอดภัยของสนามบินในสังกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ทุกแห่ง เป็นไปตามมาตรฐานที่ ทอท. กำหนดไว้ และยังต้องทำตามมาตรฐาน ที่บริษัทที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยสนามบิน หรือ เอเอสไอ ประเทศสหรัฐฯ กำหนดด้วย

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับว่า เป็นเรื่องใหญ่ที่มีการทำร้ายร่างกายกันในสนามบินและอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ซึ่งทาง ทอท.จะดูว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสนามบินนั้น กระทบต่อภาพลักษณ์องค์กรมากน้อยแค่ไหน และแก้ไขได้อย่างไรบ้าง

สำหรับขั้นตอนการเข้ารับการตรวจค้น ณ จุดตรวจค้นผู้โดยสาร ของฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย นั้น ในช่วงขั้นตอน ณ จุดเอกซเรย์ ระบุว่า ผู้โดยสารทุกคนต้องนำสัมภาระเข้าตรวจ และแยกของประเภท โลหะ เสื้อคลุม คอมพิวเตอร์ แยกตรวจต่างหากในถาดสัมภาระที่จัดไว้ให้ ทั้งนี้ ระหว่างการตรวจ ผู้โดยสารอาจถูกขอให้ถอดเข็มขัดและรองเท้า เพื่อนำไปตรวจในเครื่องเอกซเรย์ หากผู้โดยสารเดินทางเครื่องจับโลหะ โดยไม่มีสัญญาณเตือน ก็สามารถไปรับสัมภาระได้

แต่หากมีสัญญาณเตือนผู้โดยสารคนนั้น เจ้าหน้าที่จะเชิญไปจุดที่จัดไว้ เพื่อตรวจร่างกาย และหากเจ้าหน้าที่ ใช้เครื่องตรวจจับโลหะชนิดมือถือ ตรวจสอบทั่วทั้งร่างกายผู้โดยสารแล้ว เกิดสัญญาณเตือนบริเวณใด เจ้าหน้าที่จะขอให้ผู้โดยสารนำวัตถุที่เป็นสาเหตุของเสียงสัญญาณนั้นออกมา ให้เจ้าหน้าที่ตรวจ ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการมอง ก็ต้องนำสิ่งนั้นไปเอกซเรย์

สำหรับผู้โดยสารที่ถูกขอให้เปิดกระเป๋าสัมภาระ ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และผู้โดยสารที่ปฏิเสธการตรวจค้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ หรือตรวจค้นร่างกายและปฏิเสธ ที่จะปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ทางสนามบิน ก็ขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารดังกล่าว ผ่านจุดตรวจค้นเพื่อเข้าสู่ท่าอากาศยาน






โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มกราคม 2555 14:54 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น