วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กทม.ดำเนินคดีเอาผิด “พ.ต.ต.เสงี่ยม”


โฆษก กทม. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ขรก.การเมือง ประจำสำนักเลขาธิการ สำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมที่เดินทางมาชุมนุมกดดันเจ้าหน้าที่รวมทั้งบุกเปิดประตูระบายน้ำของกทม.ว่า

กทม.ได้มอบหมายผู้แทนเข้าพบ พงส. สน.คันนายาว เพื่อแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ในข้อหาบุกรุกอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น และฝ่าฝืนคำสั่งของ ผู้ว่าฯกทม. หลังจากเมื่อวันที่ 27 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 28 พ.ย. เวลา 18.00 น.

โดยในวันที่ 30 พ.ย. 54 เวลา 02.00 น. แกนนำผู้ชุมนุมได้กระทำการฝ่าฝืนคำสั่งของ ผู้ว่าฯกทม. เข้าไปในพื้นที่ประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ ซึ่งเป็นบริเวณห้ามเข้าตามคำสั่งดังกล่าว

ถือว่า การเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเป็นการเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองประตูระบายน้ำพระยาสุเรนทร์ของ กทม. เป็นเหตุให้ กทม.ได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องเป็นคดีอาญาที่ 2110/54 และอยู่ระหว่างดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

“ขอยืนยันว่ากทม.ไม่ได้ขัดคำสั่งนายกฯ ตามที่ พ.ต.ต.เสงี่ยม กล่าวหา ใช้เป็นข้ออ้างในการนำม็อบบุกเปิดประตูระบายน้ำ และกทม.จำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.ต.เสงี่ยม เนื่องจาก กทม.เป็นหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบดูแลทรัพย์สินของราชการ

หากไม่ฟ้องอาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ ซึ่งการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำก็ถือเป็นอำนาจหน้าที่ของกทม.ตามกฎหมาย ผู้ใดที่ไม่เกี่ยวข้องจะละเมิดมิได้ จึงอยากให้ประชาชนชาวบ้านเข้าใจด้วยว่า การฟ้องของ กทม. ในครั้งนี้มีเหตุผล ไม่ใช่การคุกคามหรืออยากรังแกชาวบ้านที่มาชุมนุมแต่อย่างใด”

ความล้มเหลวของศปภ.ในวันนี้คือการเมืองแทรกแซงการบริหารจัดการ และแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ซึ่งการที่มีคนให้ข้อมูลที่ผิดพลาดทำให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจผิดพลาดเช่นกัน นอกจากนี้แล้วยังมีการกล่าวหาหน่วยงานรัฐแบบผิดๆ

ซึ่งภายหลังความจริงปรากฏ กลับไม่มีผู้ใดออกมาแสดงตัวขอโทษกับเหตุดังกล่าว ถือเป็นการนำการเมืองมาบ่อนทำลายบรรยากาศความปรองดองในชาติอย่างร้ายแรง ทำให้หน่วยงานรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบอำนาจในกฎหมายได้รับความเสียหายอย่างมาก

ข่าวโดย : ผู้จัดการออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น