ในหลวงมีพระราชดำรัสขอร่วมมือแก้น้ำท่วม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบ มีใจความว่า ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกัน มาอวยพรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาเป็นประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอสนองต่อพร และไมตรีจิตเหล่านั้นด้วยใจจริงเช่นกัน ท่านทั้งหลายในปีนี้ ผู้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญ ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหาร ย่อมทราบแก่ใจอยู่ทั่วกันว่า ความมั่นคงของประเทศชาตินั้น จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติ อยู่ดี มีสุข ไม่มีทุกข์ ยากเข็ญ ดังนั้น การอันใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชนทุกคน ทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่ จะต้องร่วมมือกัน ปฏิบัติ แก้ไข ให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะขณะนี้ ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงขอที่จะร่วมมือกัน ปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่นโครงการต่างๆ ที่เคยพูดไปนั้น เป็นการแนะนำ ไม่ใช่สั่งการ แต่ถ้าปรึกษากันแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ คุ้มค่า และทำได้ ก็ทำ ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน หากจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจาคทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยความสุข ความเจริญ ให้แก่ท่านทั่วกัน
INNNEWS.CO.TH
ในหลวงเสด็จถึงพระบรมมหาราชวังแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จออกจากโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภาคณะทูตานุทูต ข้าราชการตลอดจนพสกนิกร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ราว 18,000 คน เนื่องในพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม
โดยมีข้าราชการ แพทย์ และพยาบาล รวมถึงประชาชนจำนวนมาก เฝ้ารับเสด็จตลอดสองข้างทาง พร้อมส่งเสียงถวายพระพร ทรงพระเจริญ อย่างกึกก้อง โดยระหว่างนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแย้มพระสรวล ให้ผู้ที่มาเข้าเฝ้าฯ ทำให้หลายคนปลาบปลื้มจนกั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีการพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม
ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันนี้ เวลา 10.30 น. เพื่อพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาท คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภาคณะทูตานุทูต ข้าราชการ ตลอดจนพสกนิกร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ราว 18,000 คน โดยในเวลา 07.30 น. จะมีขบวนอัญเชิญพระเต้าปทุมนิมิตทอง นาก เงิน ซึ่งบรรจุนน้ำพระพุทธมนต์เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร ไปยังหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จากนั้นในเวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินออก ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และ ประธานศาลฎีกา กล่าวกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคลตามลำดับ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ
พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และจุดเทียนถวายพระพร จัดขึ้นในวันนี้ โดยรัฐบาลร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และภาคประชาชน เป็นเจ้าภาพการจัดงาน โดยมีพิธีอัญเชิญพานพุ่มสักการะเข้าประจำที่ ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ถวายพานพุ่ม เวลาประมาณ 19.00 น. นายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ กล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเสร็จแล้ว จุดเทียนชัยถวายพระพร และร่วมกันขับร้องเพลงสดุดีมหาราชา จากนั้น จึงเริ่มการจุดพลุดอกไม้ไฟ และการแสดงมหรสพต่างๆ
ปชช.พร้อมใจสวมเสื้อสีชมพู หลั่งไหลรอเฝ้าฯ รับเสด็จฯ
บรรยากาศที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อช่วงเช้านี้ เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ เดินทางมาจับจองพื้นที่ตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อรอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ มุขเด็จ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท โดยมีทั้งประชาชนที่เดินทางมาเป็นครอบครัวและเป็นหมู่คณะ ซึ่งต่างพร้อมใจกันใส่เสื้อสีชมพู พร้อมถือธงตราสัญญาลักษณ์เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ และธงชาติ และบางรายได้มาจับจองพื้นที่ตั้งแต่ในช่วงเช้ามืด เพื่อที่จะ
ได้พื้นที่ ที่ดีที่สุด ซึ่งตลอดฝั่งถนนตั้งแต่บริเวณแยกผ่านพิภพลีลา จนถึงศาลหลักเมือง กระทรวงกลาโหม ไม่มีพื้นที่ว่างเลย
ขณะเดียวกัน ยังมีพิธีตักบาตรพระสงค์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคล ในโครงการตักบาตรพระสงฆ์เฉลิมพระเกียรติ 7 เช้า 7 วัน 109 รูป
ประชาชนจับจองพื้นที่สองข้างทางถนนอรุณอมรินทร์
บรรยากาศล่าสุดบริเวณถนนอรุณอมรินทร์ ช่วงเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระบรมหาราชวัง เริ่มมีประชาชนแ ละข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ทยอยเข้ามาจับจองพื้นที่ 2 ข้างทาง เพื่อเตรียมถวายพระพร และชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด
ส่วนด้านการจัดการจราจร พ.ต.ท.ประสพโชค เอี่ยมวินิจ สารวัตรงานสายตรวจ 5 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยว่า ในวันนี้ ได้ใช้กำลังตำรวจจราจรกลาง จำนวนทั้งสิ้น 100 นาย ในการดูแลการจราจรตลอดเส้นทางการเสด็จพระราชดำเนิน ซึ่งตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ พบว่าการจราจรยังคงเคลื่อนตัวได้ดี แต่ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนที่จะเดินทางเข้ามาร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ ให้เดินทางมาด้วยรถประจำทาง หรือรถแท็กซี่ จะดีกว่า เพื่อความสะดวก และลดปัญหาจราจรที่ติดขัด
ประชาชนรอรับเสด็จฯ ในหลวง ร.พ.ศิริราช เนืองแน่น
บรรยากาศบริเวณใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในขณะนี้ เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่มาจับจองพื้นที่เพื่อรอรับเสด็จฯ และชื่นชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม ซึ่งประชาชนต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีชมพู ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของการเฉลิมฉลอง เช่นเดียวกับบริเวณด้านหน้าของตึกอำนวยการ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งเป็นถนนที่รถยนต์พระที่นั่งจะผ่าน ก็มีประชาชนมาจับจองพื้นที่เต็ม 2 ข้างทางเช่นเดียวกัน ขณะที่บรรยากาศบริเวณทางเข้า - ออกของโรงพยาบาลศิริราช ในขณะนี้ ก็มีประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ประชาชนชาวไทย - ต่างชาติ รอรับเสด็จฯ ในหลวง ณ ประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์
ประชาชนจำนวนมาก ได้เข้าจับจองพื้นที่เพื่อเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งบริเวณประตูศักดิ์ไชยสิทธิ์ พระบรมมหาราชวัง ตลอดแนวถนน ไปจนถึงถนนราชดำเนิน ในขณะที่การรักษาความปลอดภัยนั้น เจ้าหน้าที่ทั้งทหาร และตำรวจ ได้คอยตรวจสอบความเรียบร้อย และคอยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เพื่อความเป็นระเบียบในการเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในการรับเสด็จฯ และนอกจากประชาชนชาวไทยแล้ว ยังมีชาวต่างชาติให้ความสนใจที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันนี้ด้วย
ประชาชนเฝ้าฯ รอรับเสด็จ ในหลวง ตลอดแนวเส้น ถ.อรุณอมรินทร์
บรรยากาศล่าสุดบริเวณ 2 ข้างทางถนนอรุณอมรินทร์ ช่วงเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ประชาชน และข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ได้ทยอยเดินทางเข้ามาจับจองที่นั่งเพื่อเฝ้าฯ รอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างต่อเนื่อง โดยชาวบ้านย่านจรัญสนิทวงศ์ 46 กล่าวว่า มารอรับเสด็จฯ ในหลวง เป็นประจำทุกปี และในช่วงคำวันนี้ ก็จะเดินทางไปร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรที่บริเวณท้องสนามหลวงด้วย ซึ่งทุกครั้งที่ได้ชื่นชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ก็รู้สึกปลื้มใจ และขอให้พระองค์ท่าน ทรงมีความสุข มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง ด้าน นายพงพันธ์ ศักดิ์ดี ชาวบ้าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่มารอรับเสด็จฯ เป็นครั้งที่ 2 กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ชีวิตหนึ่งได้มาเฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ในบริเวณนี้ ก็ได้มีตำรวจจราจรในโครงการพระราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานทุนทรัพย์จัดตั้งขึ้น นำรถยนต์สายตรวจประดับธงชาติ และธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ จำนวน 60 คัน มาเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย
สนามหลวง ล่าสุด ประชาชนสวมเสื้อสีชมพู รอรับเสด็จฯ เนืองแน่น
บรรยากาศล่าสุดที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ขณะนี้เนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่พร้อมใจกันเฝ้าฯ รอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยประชาชนต่างพร้อมใจใส่เสื้อสีชมพู และถือธงตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ และธงชาติ เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อย่างไรก็ตามในช่วงสายนี้ เริ่มมีแสงแดดจัด แต่ประชาชนก็ยังคงเฝ้าฯ รอรับเสด็จอย่างต่อเนื่อง พร้อมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และแสดงความปลาบปลื้ม
ทรงพระเจริญกึกก้อง ถ.อรุณอมรินทร์ ขณะขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่าน
บรรยากาศล่าสุดบริเวณ 2 ข้างทาง ถนนอรุณอมรินทร์ ช่วงเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ทันทีที่รถยนต์พระที่นั่ง ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินผ่านนั้น ประชาชนและข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ ที่รอเฝ้าฯ รับเสด็จ ต่างก็เปล่งเสียงทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง พร้อมกับโบกสะบัดธงชาติและธงตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์ ด้วยความปีติยินดีอย่างยิ่ง จากการสอบถามประชาชนรายหนึ่งที่มารอเฝ้าฯ รับเสด็จเป็นปีแรก กล่าวว่า รู้สึกตื้นตันใจอย่างยิ่ง ที่ได้ชื่นชมพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่านไปแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจในโครงการพระราชดำริ และประชาชน ต่างก็เดินข้ามฝั่งไปจับจองที่นั่งบริเวณข้างทางถนนอรุณอมรินทร์ ขาออก เพื่อรอเฝ้าฯ รับเสด็จอีกครั้งในเวลา 11.00 น. ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินจากพระบรมมหาราชวัง กลับไปประทับยังโรงพยาบาลศิริราช
ในหลวง - ราชินี และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จฯ ออกจาก ร.พ.ศิริราช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินออกจาก ร.พ.ศิริราช แล้ว ประชาชนเปล่งเสียงทรงพระเจริญก้อง
เมื่อเวลา 10.25 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากโรงพยาบาลศิริราช ไปยังพระบรมมหาราชวัง โดยตลอดเส้นทางที่รถยนต์พระที่นั่งผ่าน ประชาชนที่มารอรับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีที่โรงพยาบาลศิริราช ต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ นอกจากนี้ ประชาชนยังได้นำธงชาติ และธงตราสัญลักษณ์ ภปร โบกสะบัดตลอดเส้นทางด้วยความปลื้มปีติด้วย
พระบรมฯ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินออก ณ ท้องพระโรง หน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ โดยทรงกราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคลว่า ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า บรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ มีความปีติ ปราโมทย์ เป็นพ้นประมาณ ที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้มาประชุมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล ในมหามงคลสมัย ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 7 รอบ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย สำนึกตระหนักเสมอมา ในพระราชจริยวัตร ที่ทรงพระราชอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญประการทั้งหลายทั้งปวง ก็เพื่อความเจริญร่มเย็นอานาประชาราษฏร์ และความมั่นคงของประเทศชาติเป็นสำคัญ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง ผู้มีวาสนาอย่างยิ่งที่เกิดมาในแผ่นดินไทย ภายใต้พระบุญญาธิการ จึงได้รับพระบารมีแผ่ปกเกล้าปกกระหม่อม ให้มีความสุขความเจริญ และมีเกียรติยศเป็นที่เชิดชู ซึ่งต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอยู่ถ้วนหน้า ในมหามงคลสมัยพิเศษนี้ ข้าพระพุทธเจ้า จึงขอพระราชทานถวายสัตย์ปฏิญาณว่า การใดที่จะเป็นประโยชน์แก่ผาสุกมั่นคงของประเทศชาติและประชาชนแล้ว จะมุ่งมั่นปฏิบัติการนั้นจนเต็มกำลังความรู้ความสามารถ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยกตัญญูกตเวทิตาจิต และความจงรักภักดี กับขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กับทั้งพระบรมเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ในอดีตทุกพระองค์ จงพร้อมกันอภิบาลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ให้ทรงสมบูรณ์ด้วยพระพลานามัย มีพระราชหฤทัยผ่องแผ้ว ปลอดพ้นจากเรื่องรบกวนกังวล มีพระราชประสงค์จำนงใด ขอจงสำเร็จศุภผลดังพระราชหฤทัยจำนงทุกประการ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ในหลวง ทรงมีพระราชดำรัส ขอร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วม
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสตอบ มีใจความว่า ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกัน มาอวยพรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาเป็นประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอสนองต่อพร และไมตรีจิตเหล่านั้นด้วยใจจริงเช่นกัน ท่านทั้งหลายในปีนี้ ผู้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญ ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหาร ย่อมทราบแก่ใจอยู่ทั่วกันว่า ความมั่นคงของประเทศชาตินั้น จะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติ อยู่ดี มีสุข ไม่มีทุกข์ ยากเข็ญ ดังนั้น การอันใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชนทุกคน ทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่ จะต้องร่วมมือกัน ปฏิบัติ แก้ไข ให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะขณะนี้ ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงขอที่จะร่วมมือกัน ปัดเป่าแก้ไขให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่น โครงการต่างๆ ที่เคยพูดไปนั้น เป็นการแนะนำ ไม่ใช่สั่งการ แต่ถ้าปรึกษากันแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ คุ้มค่า และทำได้ ก็ทำ ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน หากจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาติ ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านให้ปราศจาคทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยความสุข ความเจริญ ให้แก่ท่านทั่วกัน
ในหลวง-พระราชินีเสด็จพสกนิกรเปล่ง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้อง
วันนี้ ( 5 ธ.ค.) วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จประทับรถไฟฟ้าลงจากอาคารที่ชั้น 16 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อทรงออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมหาราชวัง โดยบริเวณโรงพยาบาลนั้นมีพสกนิกรจำนวนมากมารอรับเสด็จ เมื่อต่างเห็นพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งหมดต่างส่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทั้งนี้ระหว่างเส้นทางเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแย้มพระสรวลและโบกพระหัตถ์ให้กับพสกนิการที่เข้าเฝ้ารับเสด็จฯด้วย
หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากโรงพยาบาลศิริราช ข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเข้าสู่ถนนราชดำเนินใน โดยทั้งสองพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ให้แก่ประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จ ตลอดเส้นทางจนถึงศักดิ์ไชยสิทธิ์ ประตูราชสำราญ พระบรมมหาราชวัง ประชาชนซึ่งสวมเสื้อสีชมพูที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ ได้เปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" เพื่อถวายพระพรไปตลอดเส้นทาง
ข้อมูลโดย
ชาวไทยพร้อมใจจุดเทียนชัยถวายพระพร
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ชาวไทยร่วมใจจุดเทียนชัยถวายพระพร พร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องทั่วสนามหลวง
วันนี้ (5 ธันวาคม) เวลา 19.19 นาที ที่ผ่านมา ณ บริเวณท้องสนามหลวง ชาวไทยต่างร่วมใจกับจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธี มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี และบรรดาข้าราชการ ตัวแทนองค์กรต่าง ๆ เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพียง
โดยประชาชนจำนวนมาก ต่างพร้อมใจสวมเสื้อสีชมพู และทยอยเดินทางมาพิธีที่ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกคนก็ต่างจัดเตรียมเทียน เพื่อนำมาจุดแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความจงรักภักดี พร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" อย่างกึกก้องทั่วมณฑลพิธี
นายกฯ นำกล่าวราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ - จุดเทียนชัยถวายพระพร"ในหลวง"
นายกฯ นำกล่าวราชสดุดีพระเกียรติ และจุดเทียนชัยถวายพระพร "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ" เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ขณะที่ประชาชนสวมเสื้อชมพูเข้าร่วมอย่างเนืองแน่น
วันนี้ (5 ธ.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถวายคำนับพระบรมสาทิศลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ก่อนจุดเทียนชัย ก่อนนำกล่าวราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ และกล่าวถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ความว่า
"ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่มาชุมนุมพร้อมเพรียงกันอยู่ ณ ที่นี้ และในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ มีความปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมกันแสดงพลังแห่งความจงรักภักดี และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในโอกาสมหามงคลสมัยที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2554 อันเป็นวาระสำคัญยิ่งของชาวไทยทั้งชาติในวันนี้
ปวงชนชาวไทยทั้งหลายล้วนประจักษ์ชัดแจ้งว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงงานหนัก เพื่ออาณาประชาราษฎร์ และเพื่อบ้านเมืองเสมอมา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยมิทรงย่อท้อต่อความยากลำบาก เพื่อบรรเทาทุกข์ของเหล่าราษฎร ทั้งสายพระเนตรที่ยาวไกลสะท้อนเป็นรูปธรรมผ่านโครงการพระราชดำริ มากมาย ล้วนเป็นแนวทางที่แก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง แม้ในช่วงเวลาที่ทรงพระประชวรก็ยังห่วงใยราษฎร และทรงงานอย่างต่อเนื่องไม่เคยหยุด เพื่อพระราชทานความร่มเย็นเป็นสุขแก่อาณาประชาราษฎร์
ปรากฎการณ์ของมหาอุทกภัยร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นเหตุการณ์ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงตักเตือน และชี้แนวทางแก้ไขมาแล้ว ตั้งแต่เมื่ออุทกภัยครั้งสำคัญเมื่อ พ.ส.2526 และ พ.ศ.2538 รัฐบาลร่วมกับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และจะน้อมนำพระกระแสรับสั่ง และแนวพระราชดำริที่เกี่ยวข้อง มาเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระยะยาว ให้เกิดสัมฤทธิ์จงได้ ขณะเดียวกันกับที่ชาวโลก กำลังเผชิญผลกระทบอย่างกว้างขวาง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เป็นแนวทางที่ได้รับความยกย่อง และเห็นพ้องต้องกันทั่วไปในประชาคมโลกว่า แนวปรัชญาตามพระราชดำริดังกล่าว เป็นวิถีทางที่เหมาะสม สำหรับการแก้วิกฤต และสามารถใช้เป็นครรลองดำเนินชีวิตของคนทุกชาติทุกภาษาได้อย่างแท้จริง
ข้าพระพุทธเจ้า และพสกนิกรชาวไทย สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้เย็นศิระเพราะพระบริบาล โดยแท้ โดยนับแต่ทรงดำรงศิริราชสมบัติ จวบจนกระทั่งปัจจุบันเป็นเวลากว่า 65 ปี พระมหากรุณาธิคุณแห่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท เป็นที่ประจักษ์เทิดทูนและแซ่ซ้องด้วยพระอัจฉริยภาพอันล้ำเลิศ ตลอดจนน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมด้วยพระเมตตากรุณา และพระจริยวัตรที่งดงามยิ่งใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจึงสถิตอย่างแนบแน่น ในดวงใจของทวยราษฎร์ชั่วกาลนิรันดร์
เนื่องในมหามงคลอันพิเศษสุดนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำพสกนิกร น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลโดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ดังนี้ ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอประกาศความสามัคคีสมานฉันท์ รวมใจกันเป็นหนึ่ง เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ด้วยความจงรักภักดี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ขออนานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานพรให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง สถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าของปวงข้าพระพุทธเจ้าเหล่าพสกนิกรไทย ตลอดกาลนานเทอญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ธันวาคม 2554 21:02 น.
ประชาชนหลั่งไหลชื่นชมกิจกรรม 5 ธันวาฯ สุดคึกคัก
ประชาชนแห่เก็บภาพกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ที่บรรจงตกแต่งด้วยดอกไม้ ดวงไฟสีต่างๆ ไว้อย่างงดงาม โดยกิจกรรมที่ได้รับความสนใจมากที่สุด คือ ร่วมลงนามถวายพระพรลงบนใบโพธิ์ทอง ก่อนนำไปติดบนต้นโพธิ์เงินขนาดใหญ่ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงงานหนัก เพื่อคนไทยทั่งประเทศมาโดยตลอด
บรรยากาศกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เต็มไปด้วยความคึกคัก ประชาชนแห่เก็บภาพกิจกรรมต่างๆที่บรรจงตกแต่งด้วยดอกไม้ ดวงไฟสีต่างๆ ไว้อย่างงดงาม โดยกิจกรรมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด คือ ร่วมลงนามถวายพระพรลงบนใบโพธิ์ทอง ก่อนนำไปติดบนต้นโพธิ์เงินขนาดใหญ่ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงงานหนักเพื่อคนไทยทั่งประเทศมาโดยตลอด
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมออกร้าน โครงการหลวง โครงการส่วนพระองค์ รวมถึงร้านขายของที่ระลึกจากทุกภาค ที่ภาครัฐและเอกชนพร้อมใจนำมาจัดแสดง รวมถึงบริการอาหารฟรีให้แก่ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมด้วย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2554 21:37 น.
ปชช.เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร “ในหลวง”
“กิตติรัตน์” นำข้าราชการ-ปชช.ร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล และถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายพระพรชัยมงคล และถวายพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554
นอกจากนี้ ยังมีรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ข้าราชการ รวมถึงประชาชนทั่วสารทิศเข้าร่วมงานดังกล่าว และร่วมสวดมนต์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2554 18:27 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น