วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

พิพิธภัณฑ์ฯพาณิชย์นาวี? แหล่งท่องเที่ยวมากความรู้ คู่เมืองจันท์

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี



แวะเวียนมาเทียวเมืองจันท์อีกหน วันนี้อยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่อัดแน่นไปด้วยความรู้ และเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย ?พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี? ทุกครั้งที่ได้ยินคนชวนมาเที่ยวจันทบุรี ผมมักจะคิดถึงทะเล และสวนผลไม้ ก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ แต่ที่จริงแล้วเมืองจันท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อย่าง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี ที่วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ มีโอกาสเดินทางมาพร้อมกับ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ และ สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก เพื่อชมพิพิธภัณฑ์แห่งความภาคภูมิใจของจันทบุรีและประเทศไทยแห่งนี้

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี เกิดขึ้นจากการที่กรมศิลปากร ได้ตั้งฐานปฏิบัติการโบราณคดีใต้น้ำขึ้นที่ท่าแฉลบ และตั้งศูนย์การอนุรักษ์โบราณวัตถุใต้ทะเลขึ้นที่ ค่ายเนินวง ต.บางกจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งได้มีการสำรวจทางโบราณคดีใต้น้ำพบโบราณวัตถุจากซากเรือจมในอดีตมากมาย ประกอบกับการที่กองทัพเรือสามารถตรวจจับและยึดโบราณวัตถุจากนักล่าสมบัติใต้ทะเลชาวต่างชาติที่แอบมาลักลอบค้นหาในท้องทะเลไทยได้อยู่บ่อยครั้ง

พอนานวันเข้าโบราณวัตถุใต้ทะเลก็มีจำนวนมากขึ้นเป็นปริมาณมากกว่าหมื่นๆชิ้น กรมศิลป์จึงดำเนินการสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวีขึ้นในปี พ.ศ. 2537 เพื่อเป็นสถานที่รวบรวมและเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับงานทางโบราณคดีใต้น้ำ พร้อมด้วยเรื่องราวของการพาณิชย์นาวีไทยใช้พื้นที่บริเวณโบราณสถานค่ายเนินวง ตำบลบางกะจะ เป็นสถานที่ตั้ง โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์



ห้องจัดแสดงสินค้าและวิถีชีวิตชาวเรือ



พอเดินเข้ามาด้านในของพิพิธภัณฑ์แล้วจะเห็นได้ว่าที่นี่พื้นที่กว้างขวางพอสมควร มีลักษณะเป็นอาคารแฝด 2 ชั้น ภายในมีการแบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 6 ห้อง ถึงจะไม่หรูหราและทันสมัยมากนัก แต่ทุกส่วนสัดภายในพิพิธภัณฑ์ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว สะดุดตาตั้งแต่ห้องแรก??ห้องจัดแสดงสินค้าและวิถีชีวิตชาวเรือ? ที่พอเดินเข้ามาก็จะพบกับเรือสินค้าลำมโหฬาร ตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่กลางห้อง
จุดเด่นของเรือลำนี้ไม่ได้อยู่ที่ความใหญ่โตเท่านั้น แต่ผู้ร่วมเดินทางทุกคนล้วนสงสัยเหมือนผมว่าทำไมต้องมี รูปตาอยู่ด้านข้างทั้งสองฝั่ง และมีรูปยักษ์อยู่ด้านหน้าเรือด้วย

ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์เล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เป็นการวาดเล่นให้เป็นเอกลักษณ์ของเรือเฉยๆอย่างที่ผมคิด แต่ในน่านน้ำจะแบ่งประเภทเหลือด้วยตาด้านข้างของเรือ อย่างเรือที่ตาดำมองออกไปยังเบื้องหน้าคือ เรือสินค้า เรือที่มีตาดำมองเหลือบลงไปในทะเลคือเรือประมง และเรือที่มีรูปตาตัดเหลือเพียงครึ่งเดียวคือเรือโจรสลัด นับเป็นความรู้ใหม่ที่ถ้าไม่ได้มาที่นี่คงไม่ได้รู้



เรือสินค้า



เรือลำนี้มีส่วนของการจัดแสดง 2 ชั้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในเรือเดินชมห้องต่างๆ ของเรือได้ทั้งหมด บนชั้น 2 ของเรือจะมีการจัดแสดงองค์ประกอบสำคัญๆของเรือสำเภาโบราณครบครันทั้ง ใบเรือ พังงาเรือ ลูกตะเภา รวมถึงหุ่นจำลองลูกเรือที่ทำหน้าที่ต่างๆด้วยท่าทางแข็งขัน อย่างจับกังหรือจุมโผ่ แบกหามกระสอบสิ่งของต่างๆ มีคนดึงเชือกใบเรือ มีเฒ่าเต้งมาทำหน้าที่คอยดูแลสมอเรือ และที่ดาดฟ้ามีไต้ก๋งยืนคุมคนงานอยู่อีกที ชั้นล่างเรือจัดแสดงวิถีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายของชาวเรือ และโบราณวัตถุที่ขุดพบจากทะเลต่างๆ
เสร็จจากชมและรับความรู้มากมายจากเรือสินค้าลำใหญ่แล้ว เราได้เดินทางชมรอบพิพิธภัณฑ์ต่อที่ละห้องเริ่มจาก ?ห้องแนะนำปฏิบัติการโบราณคดีใต้น้ำ? ในห้องนี้จะทำให้ทุกคนรู้ว่าโบราณคดีใต้น้ำ แตกต่างจากบนบกอย่างไร พร้อมกับมีการจำลองวิถีการทำงานของนักโบราณคดีใต้น้ำมาจัดแสดงให้ชมกันอีกด้วย จากนั้นมาต่อที่ ? ?ห้องคลังเก็บโบราณวัตถุ? เป็นห้องที่แสดงการเก็บรักษาโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์นับหมื่นๆชิ้น ที่ปกติพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอื่นๆจะไม่เปิดเผยความลับ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดถ้าได้มาที่นี่
อีก 3 ห้องที่เหลือก็มีความสำคัญและน่าชมไม่แพ้กันอย่าง ?ห้องแสดงเรือและชีวิตชาวเรือ? ที่จัดแสดงเรือชนิดต่างๆไว้มากมายในรูปแบบโมเดลเรือจำลอง มีทั้ง เรือพระราชพิธี เรือรบสมัยใหม่ เรือสำเภา และเรือพื้นบ้านที่บางลำแทบหาดูไม่ได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีซากเรือโบราณอายุประมาณ 200 ปี ขุดขึ้นมามาจากไม้ตะเคียนต้นเดียวแต่ว่ายังขุดไม่เสร็จ ซึ่งเจ้าหน้าที่เราให้ฟังว่ามีการสันนิษฐานไว้หลายทาง แต่ที่ฟังแล้วต้องขนลุกคงหนีไม่พ้นคงเป็นเรื่องอาถรรพ์ไม้ตะเคียน

ลัดเลาะต่อมาเรื่อยๆก็มาถึง ?ห้องของดีเมืองจันท์? ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองจันท์ และจัดแสดงของดีขึ้นชื่ออย่าง ผลไม้ พลอย เสื่อ ฯลฯ ปิดท้ายด้วย ?ห้องบุคคลสำคัญ? ห้องที่รำลึก เชิดชูพระมหาวีรกรรมขององค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในครั้งทำสงครามเมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่เส้นทางเดินทัพเมื่อคราวมารวบรวมพลที่จันทบุรี
อยากให้ทุกคนลองเข้ามาสัมผัสเรื่องราวดีๆที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดูสักครั้ง เลิกคิดว่าการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ต่างๆเป็นเรื่องน่าเบื่อ แล้วจะรู้ว่าความรู้ที่เราจะได้รับกลับไปจากพิพิธภัณฑ์แต่ละแห่งนั้นมีมากมายแค่ไหน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี ตั้งอยู่ที่ หมู่ 8 ค่ายเนินวง ต.บางกะจะ อ.เมือง จ.จันทบุรี เปิดทำการตั้งแต่วันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0 3939 1431,0 3939 1433


ห้องคลังเก็บโบราณวัตถุ





ห้องคลังเก็บโบราณวัตถุ






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เดลินิวส์ออนไลน์
http://travel.tlcthai.com/4463

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น