วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

นักลงทุนโวยรัฐไม่เคลียร์ฟื้นฟูน้ำท่วม เตรียมย้ายฐานผลิต


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ไทยพีบีเอส

นักลงทุนจวกยับ!! ภาครัฐไม่มีมาตรการชัดเจนที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมหลังน้ำท่วม อีกทั้งเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อมีข้อจำกัดมาก ชี้ชอบแก้ปัญหาการเมือง มากกว่าเศรษฐกิจ เตรียมย้ายถิ่นฐานไปผลิตประเทศเพื่อนบ้าน

วานนี้ (22 พฤศจิกายน) จากการร่วมประชุมระหว่างกรมส่งเสริมการส่งออก และผู้ประกอบการส่งออกในอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) รวมไปถึงสมาคมต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อชี้แจงมาตรการให้ความช่วยเหลือและการบรรเทาอุทกภัย โดยมีนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน

โดยแหล่งข่าวรายงานจากที่ประชุมว่า การประชุมดังกล่าวมีตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน และตัวแทนจากสถาบันการเงินทั้งธนาคารรัฐ และธนาคารพาณิชย์ เข้าร่วมประชุมนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยภาพรวมการประชุมนั้น ภารเอกชนยังไม่พอใจในมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูของภาครัฐ เพราะไม่ตรงตามที่ต้องการ อีกทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วมของภาครัฐยังไม่ชัดเจน

แหล่งข่าวยังระบุอีกว่า ผู้ส่งออกหลายสมาคมได้แสดงความเห็นว่า รัฐบาลต้องเร่งให้ความเชื่อมั่นให้กับต่างชาติ แต่เท่าที่ผ่านมาคำพูดของรัฐบาลไม่น่าเชื่อถือ ตั้งแต่เรื่องนิคมอุตสาหกรรม หลายต่อหลายนิคม ที่ให้คำมั่นว่าจะไม่ท่วม แต่ก็ท่วมจนหมด และเมื่อน้ำท่วมแล้ว ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเมื่อไรน้ำจะลด เมื่อไรจะเตรียมระบบสาธารณูปโภคที่พร้อมเพื่อจะได้กลับมาผลิตสินค้าอีกได้ จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายนิคม เตรียมย้ายถิ่นฐานการผลิตไปยังต่างประเทศแล้ว

ล่าสุด ทางหอการค้าญี่ปุ่นได้สอบถามมายังรัฐบาลไทย แต่ทางรัฐบาลไทยยังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน ผู้ประกอบการของญี่ปุ่นจากนิคม 7 แห่ง ได้ส่งวัตถุดิบไปผลิตยังประเทศตน และประเทศอื่นแล้ว เพื่อกระจายความเสี่ยง ขณะที่มาตรการช่วยเหลือด้านการเงินมีเงื่อนไข และข้อกำจัดค่อนข้างมากในการที่จะขอสินเชื่อดังกล่าว

ทางด้าน นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ต้องการสภาพคล่อง และต้องการสินเชื่อมาฟื้นฟูกิจการ ทั้งขนาดกลาง และขนาดย่อย แต่ทางภาครัฐตั้งข้อกำจัดในการปล่อยสินเชื่อมากจนเกินไป จึงอยากให้ภาครัฐเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขดังกล่าว

ขณะที่ นายเชียรช่วง กัลยาณมิตร กรรมการบริหาร บริษัท แม็กซอน ซิสเทม และตัวแทนจากสมาคมกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทางบริษัทกำลังหารือที่จะย้ายถิ่นฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น โดยคาดว่าจะย้ายไปประเทศอินเดีย เพราะมีค่าการลงทุนที่ต่ำและมีจำนวนประชากรจำนวนมาก

นายเชียรช่วง ยังกล่าวอีกว่า ตนมีบริษัทภาคส่วนอิเลคทรอนิคส์ 3 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม 2,000-3,000 ล้านบาท และไม่มีมาตรการฟื้นฟูใด ๆ เลยทั้ง ๆ ที่น้ำท่วมมากกว่า 1 เดือนแล้ว อีกทังยังจะจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นปกติในวันที่ 15 เมษายนปีหน้า ซึ่งถือว่าช้ามากเกินไป นอกจากนี้ยังมีบริษัทบางรายย้ายไปตั้งโรงงานที่จังหวัดศรีโสภณ ประเทศกัมพูชาแล้ว เพราะมีค่าแรงถูกเพียง 80 บาทต่อวันเท่านั้น ส่วนเหตุผลที่นักลงทุนเริ่มย้ายถิ่นผลิตนั้นเป็นเพราะ รัฐบาลมักจะแก้ไขปัญหาการเมืองมากกว่าปัญหาเศรษฐกิจ

ส่วนนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้กล่าวปิดท้ายว่า ตนขอรับปัญหาและจะนำข้อร้องเรียนของภาคเอกชนทั้งหมดไปรายงานให้กระทรวงพาณิชย์รับทราบ เพื่อเรียนท่านายกรัฐมนตรีต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น