วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จงทำแต่กรรมดี กรรมชั่วจึงค่อยหมดไปด้วยการไม่กระทำอีก


จงทำแต่กรรมดี กรรมชั่วจึงค่อยหมดไปด้วยการไม่กระทำอีก


คนไทยในเมืองไทยโดยมาก
เพียงแต่เอาพุทธศาสนามาถือไว้
ไม่ได้ปฏิบัติตามพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
จึงมีแต่ชาวพุทธเป็นส่วนมาก พุทธบริษัทที่แท้มีน้อยเหลือเกิน
ถ้าอาจารย์ผู้สอนมีศรัทธาเชื่อมั่นในคุณของพระรัตนตรัยที่แท้จริงแล้ว

คือ เชื่อกรรมเชื่อผลของกรรมว่า
ทำดีย่อมได้รับผลของกรรมดีมีความสุขกายและใจ
เชื่อว่า ทำกรรมชั่วย่อมได้รับผลของกรรมชั่วเป็นทุกข์กายและใจ

คนเราเกิดมาย่อมมีกรรมทุก ๆ คนจึงได้เกิดมา
ถ้าไม่มีกรรมก็ไม่ได้เกิด
เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องอาศัยกรรมนั้นแหละเป็นเครื่องอยู่
คือ การทำมาหาเลี้ยงชีพ
เมื่อไม่ทำมาหาเลี้ยงชีพจะอยู่กับเขาในโลกนี้ได้อย่างไร
ฉะนั้น เมื่อจำเป็นจะต้องทำกรรม จึงควรงดเว้นกรรมชั่วเสีย
จงทำแต่กรรมดี กรรมชั่วจึงค่อยหมดไปด้วยการไม่กระทำอีก
ผู้เชื่อกรรมเห็นชัดแจ้งอย่างนี้แล้ว
ย่อมละจากบาปกรรมนั้น ๆ ด้วยตนเอง
โดยไม่ต้องมีสิ่งอื่นบังคับ

เจตนาที่เป็นอกุศลที่จะให้ล่วงในศีลข้อนั้น ๆ ย่อมไม่มี
ศีล ๕ , ศีล ๘ ของฆราวาส และศีล ๑๐ ,
ศีล ๒๒๗ ของพระภิกษุ สามเณร
ก็จะหยั่งรากฐานลงลึกถึงซึ่งรากฐานของพระพุทธศาสนา ( คือจิต )
ต่างคนก็จะมีศีลเป็นอิสระ รักษาศีลด้วยศรัทธาของตนเอง
พระพุทธศาสนาก็มั่นคงไปสิ้นกาลนาน




:: หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น