ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
สั่งจำคุก นปช.ฉกของเซ็นทรัลเวิลด์ช่วงม็อบ 3 ปี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ศาลอาญาสั่งจำคุก 7 นปช. ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ช่วงการชุมนุม นปช. โดย 6 คน เจอคุก 6 เดือน ส่วนคนปล้นทรัพย์ในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เจอคุก 3 ปี 6 เดือน
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 ธันวาคม ศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพินิจ จันทร์ณรงค์ และพวกรวม 7 คน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีและใช้อาวุธปืนร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป, ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีและใช้อาวุธปืนร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, ฝ่าฝืนประกาศข้อกำหนดตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามมิให้มีการชุมนุม หรือ มั่วสุม สืบเนื่องจากเหตุการณ์จลาจลเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ในช่วงเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา โดยจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ เฉพาะข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
โดยจำเลยทั้ง 7 คนถูกจับกุมตัวได้ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2553 หลังจากแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประกาศสลายการชุมนุมในช่วงบ่าย และทั้งหมดถูกควบคุมตัวในเรือนจำ ไม่ได้รับการประกันตัวจนถึงปัจจุบัน โดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า แม้คดีนี้เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมจำเลยทั้ง 7 คน ได้ในที่เกิดเหตุขณะก่อความวุ่นวาย แต่ก็ไม่ได้นำสืบว่าจำเลยทั้ง 7 คน เป็นผู้ใช้อาวุธปล้นทรัพย์ หรือต่อสู้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังไม่มีทรัพย์สินของกลางที่ยืนยันความผิดของจำเลย
คงมีเพียงนายคมสันต์ สุดจันทร์ฮาม จำเลยที่ 3 ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำห้าง จับกุมพร้อมแบตเตอร์รี่ และโทรศัพท์มือถือ ที่ขโมยมาจากร้านค้าภายในห้าง ดังนั้น พยานหลักฐานของโจทก์ไม่มีน้ำหนักให้เชื่อว่าจำเลยที่เหลือ กระทำความผิดฐานปล้นทรัพย์ และใช้อาวุธต่อสู้เจ้าพนักงาน แม้จะสามารถตรวจยึดกระสุนปืนเอ็ม 60 จำนวน 100 นัด ได้ภายในห้าง แต่ตำรวจก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าอาวุธดังกล่าวเป็นของจำเลย จึงพิพากษาว่าจำเลยทั้ง 7 คน มีความผิดฐานฝ่าฝืนประกาศข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ลงโทษจำคุก 1 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษลงกึ่งหนึ่ง คงโทษจำคุก 6 เดือน
ส่วนนายคมสันต์ สุดจันทร์ฮาม จำเลยที่ 3 กระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ลงโทษจำคุก 3 ปี รวมโทษทั้งหมด จำคุก 3 ปี 6 เดือน และให้คืนของกลางแก่ผู้เสียหาย ส่วนข้อหาอื่นให้ยกคำร้อง
อย่างไรก็ตาม สำหรับนายพินิจนั้น ยังคงเป็นจำเลยในคดีเผาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ร่วมกับนายสายชล แพบัว ซึ่งจะมีการนัดสืบพยานกันต่อในปีหน้า ขณะที่ยังมีเยาวชนชายอายุ 17 ปี อีก 2 คน ที่ถูกฟ้องในคดีปล้นทรัพย์และเผาเซ็นทรัลเวิลด์เช่นกัน แต่แยกพิจารณาที่ศาลเยาวชนฯ และจะมีการนัดสืบพยานต่อในปีหน้าด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น