น้ำท่วมตายแล้ว 212 - ระวังนาลแก 6 - 8 ต.ค. (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3
ศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม สรุปสถานการณ์อุทกภัยใหญ่ ล่าสุด เสียชีวิตแล้ว 212 ราย เฝ้าระวังพายุนาลแก 6 - 8 ต.ค. นี้ ด้านการรถไฟฯ สั่งหยุดเดินรถทุกขบวนแล้ว หลังน้ำท่วมราง
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัย เรื่องพายุ "นาลแก"
โดยออกประกาศเมื่อเวลา 05.30 น. วันนี้ (4 ตุลาคม) พายุโซนร้อน "นาลแก" บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 250 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของเกาะไหหลำ ประเทศจีน หรือที่ ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ตุลาคม นี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศไทยมีฝนตกชุกและมีฝนตกหนักบางแห่งใน ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้
ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
ศอส. สรุปน้ำท่วม ตาย 212 ระวังพายุนาลแก 6 - 8 ต.ค.
นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) เป็นประธานการประชุม ศอส. ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ยังคงมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 25 จังหวัด (จ.สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี อุบลราชธานี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สุรินทร์ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี เชียงใหม่ ยโสธร และร้อยเอ็ด) 179 อาเภอ 1,240 ตำบล 10,703 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 746,999 ครัวเรือน 2,420,868 คน มีผู้เสียชีวิต 212 ราย สูญหาย 2 คน
โดยกรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ถึงพายุโซนร้อน "นาลแก" บริเวณทะเลจีนใต้ มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 17.6 องศาเหนือ ลองจิจูด 114.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 95 ก.ม./ช.ม. ซึ่งพายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 18 ก.ม./ช.ม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 5 ต.ค. นี้ และจะมีผลกระทบกับประเทศไทย บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในวันที่ 6 - 8 ต.ค. 54
น้ำท่วมลำปาง
ศิลปากรเร่งซ่อมพระธาตุหมื่นครื้น
กรมศิลปกรที่ 17 นำแท่งเหล็กยึดโยงโดยรอบองค์พระธาตุหมื่นครื้น ตั้งอยู่หมู่ 11 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง เพื่อป้องกันการพังทลาย
นาย สุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เข้าตรวจสอบที่วัดพระธาตุหมื่นครื้น ซึ่งตั้งอยู่หมู่ 11 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง หลังจากที่เมื่อวานนี้ องค์พระธาตุซึ่งมีอายุ 1,342 ปี ได้พังทลายลงมาบางส่วน จนเกรงว่าหากฝนยังคงตกติดต่อกันไม่หยุด อาจจะทำให้องค์พระธาตุทั้งหมด ซึ่งเหลือเพียง 1 เดียวของวัด พังทลายลงมาทั้งหมดก็เป็นได้ เนื่องจากองค์พระธาตุดังกล่าว ได้ก่อสร้างมาตั้งแต่สมัยทวาราวดี และเป็นการก่อด้วยอิฐและดินเหนียว ทำให้ความคงทนแข็งแรงหมดไปตามกาลเวลา
ดัง นั้นในเย็นวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรที่ 17 จ.น่าน จึงได้นำแท่งเหล็กมีมาการยึดโยงโดยรอบทั้งสี่ด้านขององค์พระธาตุ ตั้งแต่ฐานจนถึงยอดองค์พระธาตุ เพื่อเป็นการป้องกันการพังทลายของอิฐ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากยังคงมีฝนตกลงมาติดต่อกัน
และ มีรายงานอีกว่า ภายในสัปดาห์นี้ อธิบดีกรมศิลปากร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะเดินทางมาตรวจสอบความเสียหาย พร้อมพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อให้กรมศิลปากรเข้ามาทำการบูรณะโดยเร็วที่ สุดต่อไป
สะพาน อ.เถิน เริ่มทรุดหลังโดนน้ำซัด
น้ำในลำห้วยแม่เตี๊ยะ ได้ไหลเอ่อล้นท่วมบน ถนนสายพหลโยธิน ต.แม่ถอด สูงกว่า 80 เซนติเมตร คอสะพานเริ่มมีการทรุดตัว
ความ คืบหน้าล่าสุด หลังจากผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ช่วงบริเวณถนนพหลโยธิน ก.ม.ที่ 640-641 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง หลังจากน้ำในลำห้วยแม่เตี๊ยะ ได้ไหลเอ่อล้นท่วมบน ถนนสายพหลโยธิน ต.แม่ถอด ซึ่งมีน้ำจากลำห้วยแม่เตี๊ยะ น้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้แล้ว และ ล่าสุดนายสมเกียรติ ตันตระกูล นายอำเภอเถิน จ.ลำปาง สั่งห้ามรถบรรทุกและรถทุกชนิด ที่มีน้ำหนักมาก ห้ามสัญจรและข้ามสะพานดังกล่าวแล้วหลังรับรายงานว่า คอสะพานอาจจะมีการทรุดตัว หลังจากพบว่า คอสะพานและตัวสะพาน เกิดการสั่นตัวและมีเสียงขยับคล้ายกับสะพานกำลังจะเริ่มทรุดตัว และพังลงมา
อย่าง ไรก็ตาม ทางอำเภอเถิน จ.ลำปาง เร่งประชาสัมพันธ์ ให้ ผู้ที่ใช้รถต้องขับรถ อ้อมไปใช้ทาง อ.วังชิ้น จ.แพร่ แทนแล้ว ซึ่งต้องขับรถอ้อมไกลกว่าจุดเดิมมากว่า 30 กิโลเมตร
น้ำป่าซัดชาวลำปาง สูญหาย 2 ราย
นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร อ.เมือง จ.ลำปาง ได้สรุปสถานการณ์น้ำป่าจากดอยพระบาท ไหลหลาก และท่วมฉับพลันในพื้นที่เทศบาล ซึ่งเป็นเขตติดต่อเทศบาลนครลำปาง ว่า ภัยทางธรรมชาติครั้งนี้ สร้างความเดือดร้อนบ้านเรือนขยายวงกว้างกว่า 700 หลังคาเรือน กระจายใน 3 ตำบลของพื้นที่ ซึ่งนอกจากทางเจ้าหน้าที่จะพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายวัย 88 ปี ราษฎรในบ้านกล้วยหลวง ต.กล้วยแพะ อ.เมือง ที่นอนจมน้ำเสียชีวิตอยู่ใต้ถุนบ้านแล้ว
ล่าสุด รายที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่พบว่า มีชาวบ้านในชุมชนกล้วยแพะ ต.กล้วยแพะ ทราบชื่อ คือ นายเหมือน ใจน้อย อายุ 65 ปี พลัดตกลงไปในลำห้วยแม่ปุง ที่น้ำป่าไหลหลากเชี่ยวกรากอย่างมาก ขณะนี้ร่างได้สูญหายไปในกระแสน้ำ จากการค้นหายังไม่พบ เหตุครั้งนี้เกิดขึ้นจาก นายเหมือน พยายามจูงรถจักรยานข้ามถนนสายชุมชนบ้านประสบสุข - บ้านกล้วยกลาง ต.กล้วยแพะ แต่ต้านกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวผ่านถนนไม่ไหว จึงถูกน้ำพัดตกลงไปในลำห้วยทันที
ท่วมลำปางกระทบแล้วกว่า 1,000 ครัวเรือน
นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง สรุปเบื้องต้นสถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองลำปาง เขตเทศบาลนครลำปาง เทศบาลเมืองเขลางค์นคร และเทศบาลตำบลพิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง รวมถึงพื้นที่ อ.ห้างฉัตร อ.เกาะคา อ.แม่ทะ และ อ.สบปราบ ถือว่ามีบ้านเรือนประสบภัยจากน้ำป่าที่ไหลหลากลงมาเมื่อช่วงกลางดึก ก่อนท่วมฉับพลันในพื้นที่ จนถึงขณะนี้ มีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบกว่า 1,000 หลังคาเรือน กระจายใน 20 ตำบล
ทั้งนี้ถือว่า ในพื้นที่ จ.ลำปาง ในช่วงนี้เกิดฝนตกหนักอย่างมาก โดยเฉพาะบนเขาพระบาท ที่ฝนตกหนักกว่า 150 มิลลิเมตร จึงทำให้น้ำป่าหลากลงมาท่วมตัวเมืองลำปาง และถนนสายสำคัญหลายสาย
เกาะคา-ลำปาง อ่วม! 600 หลัง จม 1.80 เมตร
สถานการณ์น้ำท่วมที่ ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง ขณะนี้ในพื้นที่ ต.นาแส่ง ระดับน้ำวัง ยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1.80 เมตร
นายประดิษฐ์ วงศ์หาร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมที่ ต.นาแส่ง อ.เกาะคา ขณะนี้ในพื้นที่ ต.นาแส่ง ระดับน้ำวัง ยังทรงตัวอยู่ระดับน้ำสูงประมาณ 1.80 เมตร หลังถูกน้ำวังและน้ำป่าจากลำห้วยต่าง ๆ ไหลเอ่อล้นเข้าท่วม 2 หมู่บ้าน ในพื้นที่บ้านนาแก้ว บ้านนาแส่ง มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 600 หลังคาเรือน ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา ประชาชนต้องไปอาศัยนอน ตามริมถนนทางหลวงและนอนนตามวัดต่าง ๆ ขณะนี้ ชาวบ้าน ยังคงหวาดผวากลัวน้ำหนุนขึ้นอีก เพราะในพื้นที่ท้องฟ้ายังมืดครึ้ม ปกคลุมไปด้วยกลุ่มเมฆฝน
การรถไฟหยุดเดินขบวนสายลำปาง-ชุมแสง
การรถไฟลำปาง ประกาศหยุดเดินรถไฟ เส้นทางสายลำปาง - ชุมแสง จ.นครสวรรค์ หลังน้ำท่วมรางบริเวณสี่แยกดอนปาน ต.สบตุ๋ย
สถานีรถไฟนครลำปาง ประกาศหยุดเดินรถไฟโดยสารทุกขบวน ในเส้นทางสายระยะสั้นคือ สายลำปาง - ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ไว้แล้ว หลังพบว่า น้ำท่วมรางรถไฟ ใกล้บริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟ สี่แยกดอนปาน ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งห่างจากสถานีรถไฟลำปาง 500 เมตร
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ทราบว่า คงจะหยุดเดินรถไฟอย่างไม่มีกำหนด เพราะสถานการณ์น้ำท่วมรางรถไฟสายเหนือ ถือว่ายังคงวิกฤติในหลายจังหวัด ส่วนในตัวเมืองลำปาง คืนนี้ ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ด้าน นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง สั่งการเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายพร้อมเฝ้าระวังน้ำท่วมทั้ง 13 อำเภอ ในคืนนี้ (3 ตุลาคม) ไว้แล้ว
น้ำท่วมรางรถไฟสายเหนือวิกฤติ! งดเดินรถต่อ
สถานการณ์น้ำท่วมสายเหนือยังวิกฤติ การรถไฟฯ ประกาศงดเดินรถต่อไปอีก
สถานการณ์น้ำท่วมทางรถไฟ ในเส้นทางสายเหนือ ยังรุนแรงในหลายจุด ปริมาณน้ำสูง เหนือสันรางกว่า 62 เซนติเมตร โดยในช่วงเช้าวันนี้ (4 ตุลาคม 2554) ระดับน้ำยังคงเอ่อท่วมย่านสถานีและทางรถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องประกาศหยุดการเดินรถสายเหนือทุกขบวน ยกเว้นขบวนรถท้องถิ่นสามารถวิ่งได้ในระยะสั้น ช่วงพิษณุโลก - ชุมแสง - เด่นชัย
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการเดินรถ จึงต้องประกาศงดเดินรถในบางช่วงสถานี ชุมแสง-ปากน้ำโพ-ชุมแสง และช่วงสถานีลพบุรี - ท่าแค - ลพบุรี ต่อไปอีก
น้ำท่วมพิจิตร- น้ำทะลักย่านเศรษฐกิจ
ฝนถล่มจังหวัดพิจิตร นานหลายชั่วโมง ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจร้านค้ากลางเมือง ชาวบ้านเร่งนำกระสอบทรายกั้นอลหม่าน
ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงค่ำวานนี้ (3 ตุลาคม) ได้เกิดพายุฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมง อีกทั้งระดับน้ำในแม่น้ำน่าน ก็มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำฝนที่ตกลงมาได้ จึงทำให้เกิดน้ำท่วมเขตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะที่บริเวณถนนศรีมาลา ถนนธิตะจารี ถนนราษฎร์เกษมอุทิศ ถนนบุษบา และเกือบทุกเส้นทางของ จ.พิจิตร โดยระดับน้ำสูงถึง 40-50 เซนติเมตร ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า ต้องเร่งขนย้ายสิ่งของ และรีบนำกระสอบทรายมากั้น ไม่ให้น้ำเข้าไปท่วมในบ้านของตนกันจ้าละหวั่น ซึ่งเจ้าหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองพิจิตร ต้องนำรถดับเพลิงเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อปิดกั้นเส้นทางเข้า ออก และระดมเจ้าหน้าที่เสริมคันกั้นกระสอบทรายให้สูงขึ้น พร้อมสูบน้ำที่เข้าท่วมในย่านเศรษฐกิจของ จ.พิจิตร เป็นการเร่งด่วน
น้ำท่วมสิงห์บุรี - สูญแล้ว 100 ล้าน
นายอำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ยอมรับ สถานการณ์น้ำท่วม ยังวิกฤติหนัก ทำชาวบ้านเดือดร้อน ค้าขายหยุดชะงัก สูญแล้ว 100 ล้านบาท
นายณัฐ ชาติวัฒนศิริ นายอำเภออินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เปิดเผยขณะนั่งเรือสำรวจความเสียหาย และการใช้ชีวิตของชาวบ้านในตลาดอินทร์บุรี โดยระบุว่า สถานการณ์น้ำล่าสุดนั้น แม้จะมีปริมาณลดลงประมาณ 40 เซนติเมตร แต่ก็ไม่ได้ทำให้สภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านดีขึ้น และยังถือว่ายังอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยการค้าขายทุกอย่างนั้นต้องหยุดชะงักนานกว่า 1 เดือนแล้ว ส่วนชาวบ้านต้องอพยพขึ้นไปอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน และต้องสัญจรด้วยเรือออกมาซื้อของบริเวณตลาดบนทางเข้าเทศบาล รวมถึงต้องออกมารับสิ่งของบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยเรือเท่านั้น
โดยภาพรวมความเสียหายในขณะนี้ ประเมินเบื้องต้น ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ล้านบาท และยังคาดการณ์ด้วยว่า น่าจะท่วมไปอีก 1 เดือน เนื่องจากยังมีปริมาณน้ำเหนือก้อนใหญ่ ที่จะไหลลงมาสมทบอีกภายใน 1 - 2 วันนี้ ส่วนการให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะการรักษาพยาบาลนั้น ยังพอแก้ไขปัญหาได้ เนื่องจากทางสาธารณสุขจังหวัดได้มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ประจำทุกตำบล และโรงพยาบาลอินทร์บุรี ยังสามารถเปิดให้บริการได้ ขณะที่ ที่ว่าการอำเภอนั้น เปิดให้บริการเฉพาะฝ่ายทะเบียน อาทิ การแจ้งเกิด แจ้งตาย และการทำบัตรประชาชน แต่ก็ถือว่า เป็นไปด้วยความยากลำบาก
คมนาคม สรุปน้ำท่วมกระทบจราจร 158 เส้นทาง
คมนาคม สรุปพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวม 158 เส้นทาง ขณะที่ การรถไฟฯ สั่งหยุดเดินรถ 19 ขบวน
กระทรวงคมนาคม ได้สรุปพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ประจำวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า ทางหลวง ที่มีการจราจรผ่านไม่ได้ 37 สายทาง ในพื้นที่ 10 จังหวัด ขณะทางหลวงชนบท ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 121 สาย
ใน 20 จังหวัด ซึ่งจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ จ.พิจิตร และ จ.นครสวรรค์
ขณะที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. แจ้งว่า ทางรถไฟ ที่มีน้ำท่วมใน 2 พื้นที่ คือ 1. เส้นทางสายเหนือ ได้แก่ จ.นครสวรรค์ จำนวน 6 แห่ง จ.ลำปาง 2 แห่ง และ ลพบุรี 1 แห่ง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร การรถไฟฯ จึงต้องประกาศงดเดินรถสายเหนือ จำนวน 19 ขบวน ส่วนเส้นทางสายตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับผลกระทบ 1 แห่ง ใน จ.สระบุรี แต่ยังคงเดินรถตามปกติ
น้ำท่วมมหาสารคาม - ลิงโกสัมพีกว่าพันตัวขาดอาหาร
น้ำท่วมหนักที่ วนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย จ. มหาสารคาม ทำลิงกว่าพันตัว ขาดอาหาร
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีที่ไหลผ่าน อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ยังคงอยู่ในระดับวิกฤต โดยระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน เฉลี่ยวันละ 5 เซนติเมตร ซึ่งขณะนี้สูงกว่าระดับตลิ่งอยู่ที่ 33 เซนติเมตร ทำให้พื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายในวงกว้างขณะเดียวกัน ที่วนอุทยานโกสัมพี อ.โกสุมพิสัย ซึ่งเป็นที่อยู่ของลิงแสมกว่า 1,000 ตัว
บนพื้นที่ 125 ไร่ ถูกน้ำท่วมขังทั้งหมด โดยจุดที่ลึกที่สุดภายในวนอุทยานความลึกอยู่ประมาณไม่ต่ำกว่า 5 เมตรอีกทั้งน้ำจากแม่น้ำชีที่เอ่อล้นขึ้นมา ได้กัดเซาะต้นจามจุรีขนาดใหญ่ อายุกว่า 200 ปี หักโค่นลงมาด้วย ทำให้ฝูงลิงแสมต้องหนีตายกระจัดกระจายไปอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ เช่น ตามกำแพงวัด ตามบ้น ยอดต้นไม้ ตามถนน ด้านหน้า และด้านข้างวนอุทยานที่ยังไม่ถูกน้ำท่วมแทน ซึ่งลิงทั้งหมดขาดแคลนแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เนื่องจากต้นกระเบา ที่เป็นแหล่งอาหารของลิง อยู่ภายในวนอุทยานที่ถูกน้ำท่วม
โดยคาดว่าต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ลิงแสมทั้งหมดจะเข้าไปใช้ชีวิตภายในวนอุทยานได้ดังเดิมอย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลตำบลหัวขวาง ได้นำอาหารและผลไม้มาเลี้ยงลิง เนื่องจากมีค่าอาหารประจำเดือน ๆ ละ 4,000 บาท จากการจัดงานประเพณีบุญพาข้าวลิง ที่จัดขึ้นทุกปี ซึ่งจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของลิงได้อีกทางหนึ่ง นายศิริพรรณ ขุ่มด้วง นายอำเภอโกสุมพิสัย อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ได้ให้ทางเทศบาลตำบลหัวขวางเป็นหน่วยที่รับผิดชอบ ทางเทศบาลตำบลหัวขวาง ได้นำอาหารและผลไม้มาเลี้ยงลิง เนื่องจากมีค่าอาหารประจำเดือน ๆ ละ 4,000 บาท และในช่วงที่น้ำเริ่มท่วมเข้าวนอุทยานโกสัมพีในช่วงแรก ได้เพิ่มค่าอาหารป็น 5,500 บาทและล่าสุดทางอำเภอได้สั่งให้เทศบาลตำบลหัวขวางได้มาเบิกค่าใช้จ่ายให้กับลิงเป็น 10,000 บาท เพื่อให้ลิงได้มีอาหารกิน
น้ำท่วมนครสวรรค์ - ชาวบ้านผวาข่าวลือจระเข้หลุดเกือบร้อย
ชาวนครสวรรค์ผวาหนักหลังประสบภาวะน้ำท่วมแล้ว ยังต้องผวากับข่าวลือข่าวจระเข้จากฟาร์มต่างๆ หลุดออกมาไม่น้อยกว่า 100 ตัว วอน จนท.เร่งล่า
หลังจากที่น้ำท่วมมานานนับเดือน ที่จังหวัดนครสวรรค์ และมีข่าวว่า จระเข้ที่หลุดจากฟาร์มต่างๆ เริ่มหิวโหยลอยคอออกหาอาหารตามใต้ถุนบ้าน ตามแม่น้ำลำคลอง ล่าสุดชาวบ้าน ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยมีชาวบ้านที่ออกหาปลาได้พบจระเข้ไม่ต่ำกว่า 3 ตัว ที่ลอยตัวบนผิวน้ำ บริเวณ หมู่ 4 ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์
นายสมหมาย เดชสำลี อายุ 45 ปี อยู่ ม.4 ต.แควใหญ่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เล่าว่า ชาวบ้านที่ ต.แควใหญ่ ต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา ไม่มีใครกล้าออกจากบ้านยามค่ำคืน หลังจากทราบข่าวว่า มีจระเข้หลายตัวหลุดมาจากฟาร์มแห่งหนึ่งจนล่าสุด ตนได้ออกหาปลากับเพื่อน ๆ ตามแม่น้ำน่าน และพบกับจระเข้ขนาดใหญ่ไม่ต่ำกว่า 3 ตัวว่ายน้ำมาใกล้เรือ จึงได้ใช้หม้อแบตเตอรี่รถยนต์ช็อตเข้าที่ตัวจระเข้เพื่อให้มันสลบ แต่มันก็ไม่สลบ และได้ว่ายน้ำหลบหนีไปทั้ง 3 ตัว คาดว่ายังมีจระเข้ที่ยังหลบหนีอีกหลายตัว หวั่นทำอันตรายต่อคน
นายสมหมาย เล่าด้วยว่า เวลานี้ชาวบ้านต้องอยู่อย่างหวาดผวา หลังทราบข่าวจระเข้หลุดจากฟาร์มมาหลบซ่อนตัวอยู่ตามใต้ถุนบ้าน และตามโพรงหญ้าจำนวนหลายตัว ทราบข่าวมาว่าตั้งแต่น้ำท่วมมีชาวบ้านสามารถจับจระเข้ได้แล้ว 5-6 ตัว และคาดว่าน้ำท่วมครั้งนี้น่าจะมีจระเข้หลุดไม่น้อยกว่า 100 ตัว เวลานี้จระเข้ได้หิว อาศัยตามแม่น้ำลำคลองใต้ถุนบ้านใครบ้างก็ไม่รู้ ทางที่ดีทางจังหวัดน่าจะประกาศเตือนภัยชาวบ้าน และจัดชุดไล่ล่า เพื่อให้ชาวบ้านได้อยู่อย่างสบายใจ
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมนครสวรรค์ ยังส่งผลรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.วัดไทรย์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังจากที่ แนวคันกั้นหิน ได้พังลง ส่งผลให้ น้ำแม่น้ำปิง ไหลเข้าท่วม ต.วัดไทรย์ ไปแล้ว 12 หมู่บ้าน ปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างเรื่อย ๆ น้ำได้ไหลข้ามถนน โดยกระแสน้ำแรง ทำให้กำแพงบ้านเรือนหลายหลัง ได้รับความเสียหาย ประกอบกับ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ปริมาณน้ำ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุด ถนนสายบ้านแก่ง ใช้การไม่ได้แล้ว
โดยขณะนี้ จ.นครสวรรค์ จะใช้การจราจรได้เพียงสายเดียวคือ นครสวรรค์ - กำแพงเพชร ที่จะเดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือ โดยผู้ที่ต้องการเดินทางไป จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก ต้องใช้เส้นทาง นครสวรรค์ - กำแพงเพชร เพื่อเข้าแยก ต.หนองขัง อ.บรรพตพิสัย แล้วออกไปยัง จ.พิจิตร แทน
น้ำท่วมลพบุรี
บ้านหมี่ยังอ่วมจมลึก 4 เมตร
อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ยังวิกฤติ ล่าสุด น้ำได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนประชาชนจมน้ำสูงกว่า 4 เมตร
นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม นายอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดในพื้นที่อำเภอบ้ามหมี่ จังหวัดลพบุรี ว่า ล่าสุด ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อัตราการเพิ่มของน้ำช้าลง ปริมาณน้ำในอำเภอบ้านหมี่ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งพื้นที่ประสบอุทกภัยหนัก จะอยู่ในบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา โดยระดับน้ำสูงถึง 4 เมตร ซึ่งในขณะนี้ มีพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 18 ตำบล จาก 21 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบแล้ว 22,000 ครัวเรือน วัดเสียหายกว่า 60 แห่ง โรงเรียนปิดการเรียนการสอน 24 แห่ง ในเบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ขณะเดียวกัน พบว่า ประชาชนบางส่วนไม่ยอมออกมาจากบ้านเรือน เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน ทางเจ้าหน้าที่เร่งเข้าทำความเข้าใจ โดยใช้หลักจิตวิทยากับประชาชน ให้ยอมออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ เน้นการช่วยเหลือชีวิตประชาชนเป็นหลัก และเร่งอพยพประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว คาดว่า น้ำจะท่วมขังอีกประมาณ 1 เดือน เนื่องจากยังไม่สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้
ชัยบาดาล ยังอ่วม นาลแก จ่อถล่มซ้ำ
น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ในอำเภอชัยบาดาล จ.ลพบุรี เสียหายยับ โดยเฉพาะ ต.วิเชียรบุรี อ่วมหนัก ท่วมขังเป็นเวลานาน "นาลแก" จ่อถล่มซ้ำ
นายไพฑูรย์ ไวยฉาย นายอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอชัยบาดาล ล่าสุดวันนี้ (4 ตุลาคม) พบว่าระดับน้ำเริ่มลดลงจากเมื่อวาน 12 ซม. อย่างไรก็ตาม ซึ่งยังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ เนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เกินความจุอยู่ที่ 136 เปอร์เซ็นต์ ทำให้จำเป็นต้องระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือในพื้นที่ ต.วิเชียรบุรี มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน โดยภาพรวมทั้งอำเภอ มีน้ำท่วมแล้ว 10 ตำบล วัดเสียหาย 8 แห่ง โรงเรียนเสียหาย 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 38,594 ไร่ ส่วนถนนที่ยังได้รับความเสียหายและไม่สามารถใช้สัญจร ได้ คือ ถนนสาย 205 เส้นทางลำนาราย-ชัยบาดาล น้ำท่วมสูง 65 ซ.ม. ด้านความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ได้แจกจ่ายถุงยังชีพไปแล้ว 8,675 ชุด พร้อมทั้งเรือเล็กอีก 30 ลำ
ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายปกครองได้อนุมัติ โครงการช่วยเหลือไปแล้ว 27 โครงการ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 4,000,000 บาท และอนุมัติเงินช่วยเหลือประชาชน 1,226 ครัวเรือน ที่ถูกน้ำท่วมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,130,000 บาท
ทั้งนี้ ทางอำเภอได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมพร้อมรับมือ พายุนาลแก ที่จะพัดเข้าประเทศไทยอีกไม่กี่วันข้างหน้า แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สถานการณ์น้ำท่วมพะเยา เริ่มคลี่คลายแล้ว
สถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่ อ.แม่ใจ และ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
นางธวัลรัตน์ ไชยอินปัน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากอิทธิพลจากพายุโซนร้อน "เนสาด" ที่ส่งผลกระทบให้หลายพื้นที่ในจังหวัดพะเยา เกิดฝนตกหนัก ส่วนวานนี้ที่ผ่านมา ที่ อำเภอแม่ใจ น้ำในอ่างเก็บน้ำ ท่ามะบวบ หมู่ที่ 9 ต.บ้านเหล่า อ.แม่ใจ ได้ล้นสปลิล์เวย์ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ หมู่ 6 และหมู่ 9 ส่งผลให้ราษฎร กว่า 54 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ อำเภอเชียงม่วน ก็มีพื้นที่ทางการเกษตร รวมถึง ถนนได้รับความเสียหายเช่นกัน
ขณะที่ สถานการณ์ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำทั้ง 2 อำเภอ เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น อยู่ระหว่างการสำรวจของเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
กาฬสินธุ์-ลำน้ำปาว ทะลักท่วมบ้าน 120 หลัง
ลำน้ำปาว เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนประชาชน เขตพื้นที่บ้านท่าสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ 120 หลังคาเรือน ชาวบ้านเร่งขนของหนีน้ำโกลาหล
สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.กาฬสินธุ์ จากอิทธิพลของการระบายน้ำ ของเขื่อนลำปาว ล่าสุดที่บ้านท่าสินธุ์ และบ้านท่าสีดา ต.ลำพาน เขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ แม่น้ำปาวได้เริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนถึง 120 หลังคาเรือน ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งเก็บข้าวของสำคัญไปไว้บนบ้าน เนื่องจากถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 50 ซม. บางรายเจ้าหน้าที่ได้ตั้งเต็นท์ให้ไปอาศัยอยู่บนถนนเป็นการชั่วคราว
ขณะที่ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมเหล่ากาชาด ได้นำถุงยั้งชีพแจกจ่ายที่เหลือ พร้อมกับนำรถบรรทุกน้ำดื่มสะอาด จากสำนักงานฟ้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 6 จ.ขอนแก่น แจกจ่ายให้กับประชาชนสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.กาฬสินธุ์ มีพื้นที่น้ำท่วม 8 อำเภอ ยังคงทรงตัว เพราะเขื่อนลำปาว ยังมีน้ำที่เกินพิกัด และยังระบายน้ำออกเฉลี่ยวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำที่ระบายออกจากตัวเขื่อน ยังคงมีอิทธิพลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปาว และแม่น้ำชียังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จนท.เร่งบรรจุหินซ่อมประตูบางโฉมศรี
วิศวกร เผยการทำงานปิดช่องขาดประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ผ่านมา 5 วัน ยังไม่เห็นผล เหตุกระแสน้ำแรง เร่งโยนกล่องหินตามเป้า ชะลอความเร็วน้ำ
สำหรับความคืบหน้าปฏิบัติการปิดช่องขาด ที่บริเวณประตูระบายน้ำบางโฉมศรี วันที่ 5 ในเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่จากกรมการทหารช่างกองทัพบก กรมชลประทาน อยู่ระหว่างการเรียกรวมกำลังพล เพื่อวางแผนและปฏิบัติงานในช่วงสายของวันนี้ โดยตลอดคืนที่ผ่านมา จนถึงเช้าวันนี้ ได้มีสายฝนตกลงมาโปรยปราย ทำให้การทำงาน เป็นด้วยความอยากลำบาก โดยระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 40 - 50 ซม.
ทางด้าน นายมนตรี ตันตระกูล วิศวกรใหญ่ควบคุมการก่อสร้างกรมชลประทาน เปิดเผยว่า การทำงานจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นผลชัดเจน เนื่องจากปริมาณกล่องบรรจุหิน ที่โยนลงไปนั้น มีจำนวนไม่มาก และเนื่องจากกระแสน้ำแรง ทำให้การยึดเกาะกันของกล่องหินนั้นเป็นไปได้ยากเช่นกัน โดยคาดว่า หากสามารถโยนกล่องหินได้ตามที่ประมาณการไว้คือ 7,300 กล่อง จะสามารถชะลอความแรงของน้ำที่ 300 - 400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือปริมาณร้อยละ 60 - 70 พร้อมกันนี้ ยังกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันนั้น กรมชลประทานได้มีการปรับแผน เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหน่วยงานอื่น เพื่อนำมาปรับใช้ให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
http://hilight.kapook.com/view/63361
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น