แน่นอนว่าใครที่มาถึง จ.ฉะเชิงเทรา ก็ต้องมากันที่ “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” หรือ “วัดหลวงพ่อโสธร” วัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ที่มีประวัติการสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยเดิมนั้นชื่อว่า “วัดหงส์” เนื่องจากมีหงส์ทำด้วยทองเหลืองอยาบนยอดเสา ต่อมาหงส์ที่ยอดเสาหักตกลงมาเสียชำรุด ทางวัดจึงเอาธงไปติดไว้ที่ยอดเสาแทนรูปหงษ์ จึงได้ชื่อว่าวัดเสาธง แล้วต่อมาก็เกิดมีพายุพัดเสานี้หักลงส่วนหนึ่ง จึงได้ชื่อว่าวัดเสาทอน และต่อมาชื่อนี้ได้กลายไปเป็น “วัดโสธร” ในปัจจุบัน |
|||||||
“หลวงพ่อพุทธโสธร” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ฝีมือช่างล้านช้าง ตามตำนานไม่ได้กล่าวไว้ว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ได้แสดงปาฏิหาริย์ลอยมาตามน้ำ และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ ต่อมา พระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะมีผู้มาลักพาไปจึงได้เอาปูนพอกหุ้มองค์เดิมไว้จนมีลักษณะที่เห็นในปัจจุบัน ใครมาถึงวัดหลวงพ่อโสธรแล้ว มักจะตรงเข้าไปจุดธูปเทียนบูชาหลวงพ่อโสธรองค์จำลองกันก่อน ซึ่งจะประดิษฐานอยู่ด้านหลังของพระอุโบสถหลังใหม่นั่นเอง |
|||||||
|
|||||||
การก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่นี้ สร้างขึ้นครอบพระอุโบสถหลังเดิม โดยใช้เทคนิคทางวิศวกรรมสมัยใหม่ ไม่มีการเคลื่อนย้ายองค์หลวงพ่อโสธร และพระพุทธรูปทั้ง 18 องค์ ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถหลังเดิม |
|||||||
|
|||||||
อีกมุมหนึ่งของวัด ด้านหลังพระอุโบสถ ก็ยังมี โรงเจหลวงพ่อโสธร ตั้งอยู่ ที่โรงเจแห่งนี้ก็สามารถเข้าไปไหว้เทพเจ้า ทำบุญสุนทานกันได้อีก ซึ่งคนที่มาที่นี่ก็นิยมมาไหว้พระสังกัจจาย ขอพรให้สุขภาพแข็งแรง ชีวิตมั่งมีศรีสุข และมาไหว้เจ้าแม่กวนอิม เพื่อเสริมดวงชะตา |
|||||||
ฉันมาถึงที่วัดนี้ก็เดินตามทางเข้ามาเรื่อยๆ ระหว่างทางก็จะมีร้านค้ามาขายของกิน พืชผักผลไม้อยู่มากมาย และจุดแรกที่ฉันแวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็คือ พระราหู ที่มีป้ายติดไว้ว่าเป็นพระราหูองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คนที่มาไหว้พระราหูเชื่อว่าจะทำให้เกิดโชคลาภและความสำเร็จ และยังช่วยในเรื่องของการแก้ปีชงได้ด้วย ส่วนใกล้ๆ กับพระราหู ก็จะมี พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ หรือช้างสามเศียร ตั้งอยู่เพื่อให้คนได้มาลอดใต้ท้องช้างเพื่อสะเดาะเคราะห์และเพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิต |
|||||||
ด้านล่างฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิมเป็นห้องจัดแสดงเจ้าแม่กวนอิมปางต่างๆ รอบฐานเจ้าแม่กวนอิมด้านนอกก็มีรูปปูนปั้นเกี่ยวกับเจ้าแม่กวนอิมและตำนานเซียน คนที่มาไหว้เจ้าแม่กวนอิมปางนี้ส่วนใหญ่มาไหว้เพื่อขอให้ได้บุตร โดยเฉพาะบุตรชาย และยังขอถึงเรื่องหน้าที่การงาน เงินทอง และโชคลาภด้วย |
|||||||
ทางวัดเปิดให้ประชาชนสักการะกราบไหว้องค์พระพิฆเนศ โดยจัดพื้นที่ให้เป็นศาลาริมแม่น้ำ ภายในศาลาเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศจำลองปางต่างๆ อีกทั้งมีพระพุทธรูป ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะขอพร และคนที่มาไหว้พระพิฆเนศปางนี้ เชื่อกันว่า พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขจะประทานความมีกินมีใช้ มีเงินทองไม่ขาดมือ ได้อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ช่วยขจัดปัดเป่าปัญหาไม่ให้มีเรื่องวุ่นวายใจ |
|||||||
เดินถัดไปเรื่อยๆ บริเวณริมน้ำก็จะเห็นดอกบัวยักษ์ สีชมพูสดใสลอยอยู่ในแม่น้ำ ซึ่งภายในใจกลางดอกบัวยักษ์นี้ก็จะเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ มีการทำสะพานเดินข้ามไปให้คนได้เข้าไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุอย่างสะดวกสบาย และอีกมุมหนึ่งของวัด ก็ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่อีกองค์หนึ่ง นั่นคือ หลวงพ่อโต ที่ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยอายุกว่า 120 ปี |
|||||||
นอกจากนี้ ที่วัดสมานรัตนาราม ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายที่อยู่ภายในวัด ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อองค์ดำ หลวงพ่อประทานพร พระปางลีลา พระพิฆเนศปางปาฏิหาริย์ 108 กร จระเข้โหราเทพารักษ์ เป็นต้น ซึ่งกว่าฉันจะเดินรอบวัดเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จนครบ ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งวันเลยทีเดียว
|
ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557
ไหว้หลวงพ่อโสธร ขอพรพระพิฆเนศ เดินเล่นริมแม่น้ำบางปะกง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น