ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
กาชาดคอนเสิร์ตสนองพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
การแสดงกาชาดคอนเสิร์ต เป็นการบรรเลงบทเพลงคลาสสิก โดยวงดุริยางค์ราชนาวี ซึ่งกองทัพเรือได้ดำเนินการตามพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการเผยแพร่ดนตรีแนวเพลงคลาสสิกให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย รวมถึงเพื่อหารายได้โดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย
โดยจัดให้มีขึ้นเป็นประจำเกือบทุกปี แล้วแต่สถานการณ์ความพร้อมในการแสดง จนถึงปัจจุบันนับเป็นครั้งที่ 41
กองทัพเรือได้ก่อตั้งวงดุริยางค์ราชนาวีขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2478 และได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนในปี พ.ศ.2502 ก็สามารถเปิดคอนเสิร์ตขึ้นเป็นครั้งแรกในชื้อ ออเคสตรัลคอนเสิร์ต
ต่อมาในปี พ.ศ.2503 ได้จัดให้มีการแสดงดนตรี อานันทมหิดลคอนเสิร์ต ตามพระราชประสงค์ของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อหารายได้สมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล
ในเวลาต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชปรารภแก่ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งเป็นประธานกรรมการจัดงานแสดงดนตรีอานันทมหิดล ด้วยมีพระราชประสงค์ให้กองทัพเรือจัดแสดงดนตรีเพื่อหารายได้บำรุงสภากาชาดไทยบ้าง
กองทัพเรือจึงได้สนองพระมหากรุณาธิคุณดำเนินการตามพระราชประสงค์ ในการจัดวงดุริยางค์ราชนาวี บรรเลงคอนเสิร์ต ตั้งแต่ปี พ.ศ.2504 เป็นต้นมา โดยใช้ชื่อว่า “กาชาดคอนเสิร์ต” และได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตราบจนปัจจุบัน
ซึ่งเงินรายได้จากการรับบริจาค กองทัพเรือได้ทูลเกล้าถวายผ่านสภากาชาดไทย เพื่อนำไปสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของสภากาชาดไทย ในอันที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในทุกรูปแบบ
โดยกองทัพเรือทำหน้าที่เป็นเพียงองค์กรกลางในการดำเนินการจัดหาเพื่อนำรายได้จากการจัดงานโดยไม่หักค่าใช้จ่าย นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาดไทย
ไม่เพียงแต่การจัดวงออเคสตร้าในการแสดงดนตรี แต่วงดุริยางค์ราชนาวี ยังได้ปฏิบัติภารกิจทั้งในงานพระราชพิธี รัฐพิธี และงานบรรเลงต่างๆ จนได้รับคำชมเชย และสร้างชื่อเสียงให้กองทัพเรือเสมอมา
และครั้งที่ยังความปลื้มปีติแก่กำลังพลของกองดุริยางค์ราชนาวี รวมถึงทหารเรือทุกนายอย่างหาที่สุดมิได้ คือ เมื่อครั้งที่วงดุริยางค์ราชนาวีได้เข้าถวายการบรรเลงเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2537
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชดำรัสตอนหนึ่ง พระราชทานแก่พสกนิกร ทหาร ตำรวจ พลเรือน และประชาชนที่เข้าเฝ้าถวายพระพร นับเป็นความภาคภูมิใจและเป็นเกียรติภูมิที่วงดุริยางค์ราชนาวี รับเหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ความว่า
“ขอแถมอีกนิดหนึ่ง วงดนตรีทหารเรือเล่นเพลงสรรเสริญฯ เพราะเหลือเกิน แล้วก็ขอแถมว่า เสด็จฯ ไปไหนทั่วโลก สมัยเมื่อ 20 ปีมาแล้วก็มีเพลงสรรเสริญพระบารมีโดยต่างชาติเล่น ทุกแห่ง ทุกคนบอกเพลงสรรเสริญพระบารมีของไทยนี่เพราะเหลือเกิน”
สำหรับการจัดการแสดง กาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 41 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 และ 29 กรกฎาคม 2557 ที่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เวลา 19.30 น.
โดยวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นรอบสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ส่วนในวันที่ 29 กรกฎาคม เป็นรอบเสด็จพระราชดำเนิน ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทอดพระเนตรการแสดง
การแสดงกาชาดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ แบ่งการแสดงออกเป็น สองภาค
โดย ภาคแรกเป็นการบรรเลงเพลงคลาสสิก จากวงซิมโฟนีออเคสตร้า ดุริยางค์ราชนาวี ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการเผยแพร่ดนตรีแนวคลาสสิก เริ่มด้วย บทเพลง La Forza del Destino (Overture) ของ Verdi ต่อด้วยเพลง Symphony NO.5 ของ Beethoven ซึ่งในภาคแรกนี้ อำนวยเพลงโดย นาวาโท ประกอบ มกรพงศ์
ในภาคที่ 2 แบ่งการแสดงออกเป็น 5 องค์ ดังนี้ องค์ที่ 1 รักจากใจนาวี รักท้องนทีทะเลกว้าง , องค์ที่ 2 รักธรรมชาติมิรู้จาง , องค์ที่ 3 มิเลือนราง รักมอบแด่ครอบครัว , องค์ที่ 4 รักชีวิตให้คงดำรงไว้ มอบดวงใจรักชนชาวไทยทั่ว และ องค์ที่ 5 ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เทิดเหนือหัว แนบใจตัว ราชนาวีไทย
ซึ่งในภาคที่สองนี้ อำนวยเพลงโดย นาวาโท ศุภกร แตงน้อย ได้รับเกียรติ จากนักร้องรับเชิญ ประกอบด้วย ศรีไศล สุชาติวุฒิ สุรสีห์ อิทธิกุล แกงส้ม เดอะสตาร์ (ธนทัต ชัยอรรถ) และ ปุยฝ้าย เอเอฟ (ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล) ร่วมขับร้องในบทเพลงต่างๆ
สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล บำรุงสภากาชาดไทย สามารถโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารทหารไทย ชื่อบัญชี กาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 41 เลขบัญชี 115-2-17986-5 และส่งใบโอนเงินมาที่ กรมการเงินทหารเรือ โทร. 02 475 5557 และติดต่อขอบัตรรับชมได้ที่ โทร. 02 465 3262 ในวันและเวลาราชการ
มา : ปชส.กองทัพเรือและสยามรัฐ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น