วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2557

พระราชินีนักพัฒนา แนบกายาดวงใจไทยชั่วกัปกัลป์





๘๒ พรรษามหาราชินี เวียนมาบรรจบ จวบจนบัดนี้แม่หลวงของปวงข้าของชาวไทย ท่านยังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะและพระปรีชาสามารถ เคียงคู่ และเกื้อหนุน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสมอมา

เคยมีโอกาสได้ฟังเพลงๆ หนึ่ง เป็นเพลงที่หาฟังได้ยากมาก และเป็นเพลงที่มักจะบรรเลงในกองทัพฯ โดยวงดุริยางค์ของกองทัพไทย เป็นส่วนใหญ่ ท่วงทำนอง และคำร้องนั้นทำให่เราในฐานะประชาชนผู้เป็นพสกนิกรขององค์ราชัน ราชินี ที่ได้ฟังเพลงนี้ก็ถึงกับน้ำตาซึม




“ป่ารักน้ำคือคำที่ได้ยิน ได้ถวิลชินหูอยู่เนืองนิตย์
ผองไทยได้แน่วแน่แนวชีวิต ที่ประสิทธิ์คิดส่องมองการณ์ไกล…”


นี่คือท่อนต้นของบทเพลงป่ารักน้ำ บทเพลงที่อธิบายถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถได้อย่างชัดเจนและแสนซาบซึ้ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะองค์ราชันนั้น พระองค์เสมือนเป็นน้ำไหลหลาก ที่หลั่งมาจากน้ำพระทัยแสนสดใส พระราชทานแนวคิด ทั้งคำสอนทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง รู้อดออมรู้รัก รู้จักหนทางพออยู่กิน ยึดตามทางสายกลาง พาไทยให้มีสุข ปลดเปลื้องทุกข์เพื่อชีวิตสดใสสุขสว่าง



ในขณะที่องค์ราชินี พระองค์เสมือนป่าพนาสณฑ์ ที่ในกมลนั้นเปี่ยมด้วยหทัยถวิล พระนางทรงคอยสนองปณิธานองค์ภูมินทร์ เพื่อทรงพัฒนาแผ่นดิน และทรงพัฒนาคนไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ตรัสว่า “…พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันก็จะสร้างป่า”







หากลองมองดู เราจะเห็นว่า…ในขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นเรื่องชลประทาน การเกษตร และการพัฒนาชนบท โดยโปรดเกล้าฯจัดหาแหล่งน้ำให้ราษฎรได้มีน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ เพราะทรงตระหนักดีว่า “น้ำคือต้นกำเนิดของชีวิต”


เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไว้ให้ลูกหลานไทย พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่เกื้อหนุนกันกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ


แนวพระราชดำริเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาตินั้น พระองค์ตรัสว่า “คน ป่า และสัตว์ป่า สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างอาศัย เกื้อกูลกัน โดยต่างให้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน คนสามารถใช้ประโยชน์จากผืนป่ามาสร้างอาชีพและรายได้อย่างพอเพียง”


พระองค์ทรงเน้นให้พัฒนาความคิด ให้เป็นเสมือนสำนวนที่ว่า ปลูกป่าในใจคน… คือ คนที่เคยตัดไม้ทำลายป่าก็กลับใจมาช่วยปกป้องและพิทักษ์รักษาป่า รวมทั้งขยายพันธุ์สัตว์ป่าให้คงอยู่คู่ประเทศไทยต่อไป ช่วยให้เกิดความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่แก่ตนเองและชุมชน


พระองค์มีรับสั่งว่า “อย่ามาพูดเรื่องกำไรขาดทุนกับฉันนะ ฉันต้องการให้คนจนมีงานทำมากๆ ขาดทุนของฉันคือกำไรของแผ่นดิน” และนี่คือเป้าหมายสำคัญในการทรงงานของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถซึ่งพระองค์ทรงเรียกว่า “กำไรของแผ่นดิน”



พระราชดำรัสขององค์ราชินี นั้นสุดซาบซึ้ง จึงทำให้นึกไปถึงท่อนหนึ่งในบทเพลง…“แม้เหน็ดเหนื่อยล้าแสนสาหัส ทรงยืนหยัดยอมเหนื่อยไม่หวั่นไหว น้ำพระทัยเมตตาต่อข้าไทย สดใสบริสุทธิ์สุดพรรณนา…”


นับเป็นความโชคดีมหาศาลของปวงชนชาวไทยที่ได้เกิดมาอยู่ใต้ร่มพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และโชคดีที่ได้มีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็น “แม่ของแผ่นดิน” พระผู้ทรงทุ่มเทอุทิศพระองค์อย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อความสุขของปวงประชา
จากใจพสกนิกรคนหนึ่งของพระองค์ท่าน คงไม่มีคำพูดไหนดีไปกว่าท่อนเพลงนี้ที่ว่า…
…ทวยราษฎร์ขอจดจำสิ่งประเสริฐ ขอทูนเทิดพระคุณ ธ ดุจภูผา
สองพระองค์ยิ่งยืนยงคู่พารา แนบกายาดวงใจไทยชั่วกัปกัลป์… ทรงพระเจริญ







http://variety.teenee.com/foodforbrain/63012.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น