วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ภูมิบ้านภูมิเมือง : เขาศรีวิชัยที่พุนพิน ภูมิพระวิษณุแห่งสุวรรณภูมิ

ศาสนาฮินดูหรือที่เรารู้จักกันในนาม “ศาสนาพราหมณ์” นั้น มีหลักฐานว่าได้เดินทางมาในดินแดนสุวรรณภูมิมานานแล้ว แรกเริ่มนั้นได้มีการสถาปนา ไวษณพนิกาย ที่นับถือพระวิษณุและไศวะนิกาย ที่นับถือบูชา พระศิวะหรือศิวลึงค์ขึ้น ด้วยเหตุนี้เทวสถานซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของศาสนาพราหมณ์ในยุคแรกนั้น จึงพบว่าในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้นั้นได้พบรูปเคารพพระวิษณุและรูปศิวลึงค์อยู่หลายแห่ง อาทิตย์นี้ขอตามรอยหาเทวสถานสำคัญดังกล่าวกับคณะของ นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากรไปยังเมืองสุราษฎร์ธานี ซึ่งในอดีตนั้นพื้นที่เมืองไชยาและสุราษฎร์ธานี เป็นส่วนหนึ่งของ อาณาจักรศรีวิชัย

แหล่งโบราณคดีนั้นคือ เขาศรีวิชัย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของควนพุนพิน หมู่ที่ 1 บ้านหัวเขา ตำบลศรีวิชัย อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขาศรีวิชัยนี้นิยมเรียกอีกชื่อว่าเขาพระนารายณ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของคลองพุนพินสาขาของแม่น้ำตาปี ห่างจากคลองโดยเฉลี่ยประมาณ 400 เมตร เป็นภูเขาขนาดย่อมประกอบด้วยเนินเขาหินดินดานผสมเนินดิน กว้างประมาณ 100 ยาว ประมาณ 650 เมตรสูงประมาณ 21-30 เมตร บนยอดเขามีพื้นที่ราบกว้างประมาณ 45-50 เมตร ยาวตลอดแนวสันเขา บริเวณพื้นที่ราบชายเนินมีเนื้อที่ประมาณครึ่งตารางกิโลเมตร ต่อด้วยพื้นที่ราบลุ่มกว้างขวางฝั่งคลองพุนพินซึ่งใช้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านในปัจจุบัน ประกอบด้วยเนินเขาหินดินดานผสมเนินดิน บริเวณที่เป็นโคก 2 แห่งนั้นสร้างศาสนสถานประดิษฐานประติมากรรมหรือรูปเคารพ พบโยนิโทรนะ ส่วนอีกโคกหนึ่งใกล้เชิงเขามีใบเสมาหินทรายแดงสมัยอยุธยาและพบชิ้นส่วนของศิวลึงค์ บริเวณพื้นที่ราบห่างจากเขาศรีวิชัยไปทางตะวันตกนั้นมีสระน้ำขนาดใหญ่ เป็นสระกลมสันขอบสระเป็นแนวกันดินและสันนิษฐานว่าเป็น “สระพัง” แหล่งเก็บน้ำสำหรับทำการกสิกรรม



โบราณสถานรูปเคารพบนเขาศรีวิชัย



การเรียงอิฐตามยุคสมัยที่มีการสร้างใหม่


การเรียงอิฐและการปาดมุมให้มีส่วนโค้ง

บนเขาศรีวิชัยนั้นประกอบด้วยเนินอิฐหรือศาสนสถาน 2 แห่ง เนินหนึ่งเป็นที่ตั้งของเทวสถานและพบเทวรูปประดิษฐานอยู่คือพระนารายณ์ศิลาสวมหมวกแขก ทรงกระบอกสูงทรงคาดผ้าเฉียง ขนาดสูง 1.69 เมตร บริเวณบนยอดเขานั้นพบลูกปัดจำนวนมาก
เป็นลูกปัดโรมัน ลูกปัดมีตา ลูกปัดแก้ว ลูกปัดที่ทำจากหินต่างๆ กระจายอยู่ทั่วไปหมด พบเครื่องประดับต่างๆ เช่น ตุ้มหูทำด้วยโลหะ นอกจากนี้ยังขุดพบพระพิมพ์ขนาดเล็กที่เรียกว่า พระพิมพ์เม็ดกระดุม โดยบังเอิญ และพบเศษเครื่องถ้วยชามจีน สมัยราชวงศ์ซ่ง และราชวงศ์หมิง กระจัดกระจายอยู่ทั่วไปร่วมกับเศษภาชนะดินเผาแบบพื้นเมืองและกระสุนดินเผา บริเวณใกล้เทวสถานเชิงเขาด้านหลังนั้นยังได้ขุดพบเทวรูปพระนารายณ์ศิลาองค์หนึ่งไม่มีเศียร สูง 40 เซนติเมตร เป็นเทวรูปรุ่นเดียวกัน

คำว่า “เขาศรีวิชัย” เป็นชื่อที่เรียกกันไม่ต่ำกว่า พ.ศ.2445 ด้วยปรากฏชื่อในหนังสือสัญญาการรับเหมาะสร้างกุฏิ 3 หลัง ที่อารามวัด ลงวันที่ 24กันยายน ร.ศ.121 ซึ่งมีการเรียกชื่อและเขียนว่า “เขาศริวิไชย์” ซึ่งก่อนนั้นไปจนถึงการตั้งเทวสถานครั้งแรกนั้นไม่มีหลักฐานเรื่องชื่อ คงเรียกกับเนินเขา หัวเขาตามลักษณะ ส่วนชื่อ เขาพระนารายณ์ นั้นเป็นชื่อที่ใช้เรียกเขาศรีวิชัย เนื่องจากพบเทวรูปพระนารายณ์อยู่บนโบราณสถานบนยอดเขา ชาวบ้านเรียกว่า ฐานพระนารายณ์ ปัจจุบันเทวสถานบนเขาศรีวิชัยยังขุดแต่งและสำรวจยังไม่ครบถ้วน ด้วยทุกปีมีการจัดสรรงบประมาณน้อยมากและทำให้ไม่ได้มีการบูรณะตกแต่งอย่างต่อเนื่อง รูปแบบโบราณสถานนั้นเป็นการสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมอย่างจากอินเดียใต้ โดยมีการปาดมุมอิฐให้มีส่วนโค้ง และมีการสร้างซ้อนทับกันหลายสมัย ด้วยความสำคัญของรูปเคารพที่พบนั้น เขาศรีวิชัยจึงเป็นภูมิสถานสำคัญคือเทวสถานที่ประดิษฐานพระวิษณุมาแต่แรกที่ศาสนานี้เดินทางมายังสุวรรณภูมินั่นเอง


ฐานรูปเคารพที่บนเขาศรีวิชัย



พระพิมพ์ที่พบ


ชิ้นส่วนพระวิษณุ


ชิ้นส่วนศิวลึงค์


ตราประทับ


แผ่นหินที่ใช้รองรับส่วนเสาของอาคาร



ผังโบราณสถานที่ขุดแต่งบนเขา



พระวิษณุจำลองที่พบบนเขาศรีวิชัย

http://www.naewna.com/lady/115289


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น