วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

คาร์บอมบ์!หน้ารร.ฮอลิเดย์ฮิลล์เบตงดับ2เจ็บอื้อ












คาร์บอมบ์!หน้ารร.ฮอลิเดย์เบตง โฆษกกอ.รมน.ภาค4เผยตาย2เจ็บ36ราย บึ้มทหารพรานชุดรปภ.นราธิวาสพลีชีพ1เจ็บ3


เหตุรุนแรงในช่วงสุดท้ายของเดือนรอมฎอนยังเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 25 กรกฎาคม เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณหน้าโรงแรมฮอลิเดย์ ฮิลล์ (ฟูทูน่า) เลขที่ 50 ถนนภักดีดำรงค์ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา โดยคนร้ายซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ในรถยนต์แล้วนำไปจอดไว้หน้าโรงแรม เบื้องต้นตรวจพบผู้เสียชีวิต 2 คน คือ 1.น.ส.เพ็ญนภา ตุ่นห่อ 2.นายเดโช ดารีเยาะ

นอกจากนี้พบผู้บาดเจ็บกว่า 40 คน ตรวจสอบเบื้องต้น ได้แก่ 1.นายเสกสรร เส็นเจริญ อายุ 56 ปี 2.น.ส.มุขพร ภูศรี อายุ 27 ปี 3.นาย JEEMIHAN A/L อายุ 28 ปี 4.น.ส.ฮาซีดา สะมาแอ อายุ 26 ปี 5.นายอภิชาติ แซ่ตั่ง อายุ 20 ปี 6.นางมาลี รุ่งวิชานิวัฒน์ 7.น.ส.เสี่ยวมุ่ย แซ่หวัง อายุ 32 ปี 8.น.ส.จินตนา มาเยาะ อายุ 43 ปี 9.น.ส.ตีเมาะ สะมะแอ อายุ 34 ปี 10.น.ส.ทัสยา ศรีอินทร์ อายุ 30 ปี 11.น.ส.อัสมี ทองดีนอก อายุ 41 ปี 12.น.ส.ศิริพร จ่ายเหลา อายุ 17 ปี 13.นางอาเสาะ แซ่หม่ำ อายุ 36 ปี 14.น.ส.อรสา เรียนแก้ว อายุ 25 ปี 15.นายกชกร แซ่ตั่ง อายุ 17 ปี 16.น.ส.ศิริพร จะไฮลา อายุ 16 ปี 17.น.ส.สุปราณี ศรีจันทร์ อายุ 23 ปี 18.น.ส.ศิริรัตน์ ปุน อายุ 34 ปี 19.น.ส.สุมาลินทร์ จันทร์ตูม อายุ 24 ปี 20.น.ส.ปรารถนา จันทร์ อายุ 28 ปี 21.น.ส.วาสนา พรหมจันทร์ โดยในส่วนผู้บาดเจ็บมีเด็กหญิงวัย 10 ขวบ รวมอยู่ด้วย และในจำนวนผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัสหลายคน

เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้ปิดกั้นบริเวณเส้นทางผ่านโรงแรมฮอลิเดย์ ฮิลล์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะลอบวางระเบิดซ้อนไว้ จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายซุกซ่อนระเบิดน้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัมส่ไว้ในรถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีขาว ทะเบียน บค8594 เบตง เป็นป้ายทะเบียนปลอม นอกจากนี้แรงระเบิดทำความเสียหายให้อาคารใกล้เคียงและโดยรอบ

ต่อมา พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่ยะลา 2 ราย บาดเจ็บ 36 ราย อาการสาหัสอีก 3 ราย ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์โรงพยาบาลเบตง โดยขณะนี้แพทย์แจ้งว่าอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนผู้บาดเจ็บรายอื่นๆ ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์ สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ทางหน่วยเฉพาะกิจยะลาได้เข้าควบคุมสถานการณ์ร่วมกับตำรวจ และหน่วยอีโอดีได้เข้าปิดกั้นพื้นที่ ตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด

พ.อ.ปราโมทย์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุระเบิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการมาโดยตรงถึง พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ให้ควบคุมสถานการณ์โดยเร็ว รวมทั้งตรวจสอบยานพาหนะต่างๆ และปิดกั้นเส้นทางการเข้า-ออก โดยเฉพาะการลำเลียงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ส่งโรงพยาบาล พร้อมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในพื้นที่เสี่ยง เพราะเกรงว่ากลุ่มคนร้ายจะก่อเหตุซ้ำอีก ซึ่ง พล.ท.วลิต ได้ประชุมเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด

สำหรับจุดที่คนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์เป็นใจกลางเมือง ซึ่งวันนี้ (25 ก.ค.) ตรงกับวันศุกร์ จะมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ระหว่างตรวจสอบ ซึ่งอาจมีนักท่องเที่ยวหรือต่างชาติรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ อ.เบตง จ.ยะลา เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเป็นอำเภอที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเบาบางที่สุดใน 37 อำเภอของสามจังหวัดชายแดนใต้และบางส่วนของ จ.สงขลา

ด้าน นายคุณวุฒิ มงคลประจักษ์ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองเบตง และที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า เหตุคาร์บอมบ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุความรุนแรงที่สุดอีกครั้งนับตั้งแต่เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดธนาคารในพื้นที่ อ.เบตง พร้อมกัน 6 แห่ง เมื่อเดือนสิงหาคม 2549 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็มีการวางระบบการดูแลความปลอดภัยพื้นที่อย่างเข้มงวด ทำให้ตลอดช่วง 7 ปี ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ค่อนข้างเบาบางลงเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น กระทั่งเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย ทยอยเดินทางเข้ามาเที่ยวและจัดทริปทัวร์เพื่อรับประทานทุเรียนที่กำลังให้ผลผลิต แม้ก่อนหน้านี้จะมีการแจ้งประสานให้ทุกฝ่ายเฝ้าระมัดระวังในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการถือศีลอดก็ตาม

"หลังจากนี้อาจต้องหารือร่วมกันอย่างจริงจังเพื่อวางมาตรการดูแลความปลอดภัยอีกครั้ง เนื่องจากผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งเป็นเมืองชายแดน" นายคุณวุฒิ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นช่วงใกล้สิ้นสุดเดือนรอมฎอน ทำให้บรรยากาศในตัวเมืองของจังหวัดชายแดนภาคใต้คึกคัก เพราะประชาชนเชื้อสายไทยมุสลิมและนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านจะเข้ามาจับจ่ายซื้อสิ่งของในช่วงเทศกาลดังกล่าว

ขณะที่ช่วงเช้าวันเดียวกัน บริเวณถนนสายกลาง เขตเทศบาลนครยะลา มีชาวไทยมุสลิมจำนวนมากทยอยเดินทางมาจับจ่ายซื้อของกันหนาแน่น เพื่อหาซื้อเสื้อผ้าและสิ่งของใหม่ โดยเฉพาะร้านทองจะมีสตรีชาวไทยมุสลิมนิยมไปซื้อหาทองคำมาสวมใส่ เพื่อรอเตรียมต้อนรับวันฮารีรายอ ที่จะมีขึ้นประมาณวันที่ 28-29 กรกฎาคมนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการร้านค้าขายของได้มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจยะลาเริ่มมีความคึกคักขึ้นมา ท่ามกลางมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยเข้มงวดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการก่อเหตุร้ายของกลุ่มก่อความไม่สงบตามที่มีกระแสข่าวแจ้งเตือนอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ บรรดาชาวไทยมุสลิม จ.ยะลา ที่เดินทางไปทำงานยังต่างจังหวัดต่างทยอยเดินทางกลับบ้านเพื่อเตรียมตัวร่วมเฉลิมฉลองเทศกาล “ฮารีรายอ” ซึ่งคืนวันที่ 27 กรกฎาคม จุฬาราชมนตรีได้กำหนดการดูดวงจันทร์เพื่อกำหนด “วันตรุษอีดิลฟิตรี” หรือ วันฮารีรายอของพี่น้องชาวมุสลิม หลังถือศีลอดตลอด 1 เดือนรอมฎอนที่ผ่านมาด้วย

วันเดียวกัน เวลา 15.30 น. พ.ต.อ.สมชาย พนมอุปการ ผกก.สภ.สุคิริน รับแจ้งเหตุคนร้ายวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุด รปภ.ครู สังกัดกองร้อย ทพ.ที่ 1114 กรมทหารพรานที่ 11 ทำให้ทหารผู้เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 3 นาย เหตุเกิดบนถนนในพื้นที่หมู่ 2 ต.เกียร์ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส จึงพร้อมด้วย พ.อ.อนุสรณ์ สวนอิน ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 กำลังผสม รวมทั้งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.446 และกองวิทยาการ ภ.จ.นราธิวาส เดินทางเข้าตรวจสอบ

พบริมถนนสายเกียร์-สุคิริน ห่างจากโรงเรียนนิคมพัฒนา 2 ประมาณ 100 เมตร มีหลุมระเบิดกว้าง 80 ซม. ลึก 90 ซม. พร้อมเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบไว้ในกล่องเหล็กหนัก 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลแว้ง ทราบชื่อคือ 1.อส.ทพ.ภักดี แซ่อุ่น อายุ 28 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ช่องท้อง ต่อมาเสียชีวิต 2.ส.ต.เทียนชัย พรรลา อายุ 32 ปี 3.อส.ทพ.คมสันต์ เผือกงาม อายุ 29 ปี และ 4.อส.ทพ.ฉัตรชัย คำพู อายุ 31 ปี ทั้ง 3 นายถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัว อาการสาหัส

จากการสอบสวน ร.อ.สมชาย น้อยนาม ผบ.ร้อย.ทพ.ที่ 1114 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุทหารพราน 12 นาย ออกเดินเท้าเพื่อลาดตระเวน รปภ.ครูโรงเรียนนิคมพัฒนา 2 เมื่อเสร็จภารกิจมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายแฝงตัวในป่าทึบลอบจุดชนวนระเบิดที่วางไว้เสียงดังสนั่น ทำให้ อส.ทพ.ภักดี ที่เดินใกล้จุดระเบิดเสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 3 นายดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ เวลา 09.00 น. ร.ต.ท.อภิชาต เดชฤกษ์ปาน ร้อยเวร สภ.หนองจิก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคดีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนพกสั้นยิง นายอิสมาแอล กาโน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 6 อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตบนถนนภายในหมู่บ้านตันหยงบูโล๊ะ หมู่ 1 ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 02.30 น.ที่ผ่านมา

จากการสอบสวนทราบว่า นายอิสมาแอลเดินทางจากบ้านพัก อ.ยะหา จ.ยะลา มาบ้านของภรรยาในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นได้ไปนั่งพูดคุยกับเพื่อนบ้านจนกระทั่งเวลา 02.00 น. ได้เดินกลับบ้านพักตามถนนในหมู่บ้าน ระหว่างทางมีคนร้ายดักซุ่มในมุมมืดและใช้อาวุธปืนยิงโดนบริเวณลำตัวและศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่



..............



(หมายเหตุ : ขอบคุณภาพจากหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่)





http://www.komchadluek.net/detail/20140725/188935.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น