ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557
มอดของแผ่นดิน
ข่าวคราวเกี่ยวกับการตรวจสอบโกดังข้าวที่รับจำนำจากชาวนา ซึ่งดำเนินการมาในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และได้พบร่องรอยของความทุจริตคดโกงกันอย่างมโหฬารในโครงการรับจำนำข้าวดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนข้าวที่ขาดหายไปไม่ตรงกับตัวเลขที่รับจำนำ หรือข้าวเสียข้าวเน่าแล้ว สิ่งหนึ่งที่พบเห็นจากการตรวจสอบดังกล่าวก็คือ มีมอดจำนวนมากแทะกินข้าวเหล่านี้อยู่ด้วยแทบทุกแห่ง เพิ่มความเสียหายแก่ข้าวที่รับจำนำไว้ให้เสียหายหนักขึ้นไปอีก
มอดเป็นสัตว์ที่แทะกินทุกอย่างที่หาได้
ที่ไหนมีมอดที่นั้นมีแต่ความเสียหาย
ฤทธิ์เดชของมอดลือเลื่องเป็นที่รู้จักกันมานานในเรื่องการสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับผู้คนทั้งหลายในโลกนี้ แม้กระทั่งในสมัยพันกว่าปีที่ผ่านมาก็มีการหยิบยกฤทธิ์เดชของมอด มาเป็นเครื่องเตือนใจผู้บริหารงานให้ระวังพฤติกรรมเยี่ยงมอดที่อาจมีปะปนอยู่ในวงการของตน เพราะจะทำให้การงานเสียหายหมด หรือไม่อาจบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
ผู้หยิบยกเรื่องมดมาเปรียบเทียบก็คือ “ขงเบ้ง” ผู้เป็นอัจฉริยะบุคคลในประวัติศาสตร์จีนยุคสามก๊ก ซึ่งในยุคดังกล่าวมีการต่อสู้ช่วงชิงอำนาจกันด้วยกำลังทหาร ระหว่างฝ่ายของ “เล่าปี่” กับฝ่ายของ “โจโฉ” และ “ซุนกวน” โดยขงเบ้งเป็นมันสมองคนสำคัญของเล่าปี่ในการแนะนำวิธีการต่างๆ ในการต่อสู้ให้กับฝ่ายเล่าปี่
ขงเบ้งไม่เคยเป็นทหารมาก่อน ไม่เคยเข้าโรงเรียนนายสิบหรือโรงเรียนนายร้อย ไม่เคยเรียนโรงเรียนเสนาธิการ ไม่เคยเรียน วปอ. และไม่เคยมีรุ่นอะไรกับใคร แต่เขาก็เขียนหลักการเกี่ยวกับการปกครองทหารไว้ให้กองทัพของเล่าปี่ยึดถือเป็นแบบฉบับได้เป็นอย่างดี ซึ่งหลักการที่ขงเบ้งเขียนขึ้นนี้มีชื่อว่า “มอดแห่งกองทัพ”
ขงเบ้งเขียนไว้อย่างนี้
“หากในกองทัพเกิดพฤติกรรมดังต่อไปนี้คือ
1. สืบข่าวสอดแนมไม่ละเอียดลึกซึ้ง ไม่ตรงกับความเป็นจริง และจุดไฟสัญญาณเตือนภัยหรือสื่อสารไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ หนึ่ง
2. ปฏิบัติการเชื่องช้าผิดหมายกำหนดการ ละเมิดคำสั่ง และจุดไฟสัญญาณเตือนภัยหรือสื่อสารไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ หนึ่ง
3.ประมาท ไม่ปฏิบัติตามกองบัญชาการ หนึ่ง
4.ตัวนายไม่รักถนอมไพร่พล แย่งยึดขูดรีดเอาตามอำเภอใจ หนึ่ง
5.แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว ละเมิดกฎหมายบ้านเมืองเพื่อเรื่องของตน ไม่ใส่ใจว่าราษฎรจะอดอยากเหน็บหนาวอย่างไร หนึ่ง
6.เสกสรรปั้นเรื่องภูตผีปีศาจ กระพือโหมข่าวดีหรือข่าวร้าย หนึ่ง
7.ทำโวยวายตื่นตูมโดยไร้เหตุผลที่สมควรสร้างความตระหนกเสียขวัญแก่บรรดาทหาร หนึ่ง
8.ผู้กล้ามิได้เลื่อนตำแหน่ง แต่พวกสอพลอบ้าอำนาจและพวกปลิ้นปล้อนกลับได้รับแต่งตั้งให้เป็นนายหนึ่ง
9.เขมือบกินทรัพย์สินของหลวงเสียสิ้นคลัง จัดการใช้จ่ายทรัพย์สินของหลวงตามอำเภอใจตนเอง หนึ่ง
พฤติกรรมทั้ง 9 ประการนี้แล คือ มอดแห่งกองทัพ หากมีบังเกิดขึ้นแล้ว กองทัพจักต้องวินาศพ่ายแพ้แน่นอน”
นี่คือหลักการทำงานที่ขงเบ้งกำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นข้อห้ามสำคัญ สำหรับผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการ ซึ่งมิได้จะใช้ได้เฉพาะวงการของทหารเท่านั้น แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับทุกวงการ ไม่ว่าวงการใหญ่หรือเล็ก
แม้กระทั่งวงการเมือง
เพราะถ้ากองทัพมีมอด กองทัพก็เสียหายและถ้าการเมืองมีมอด บ้านเมืองก็หายนะ โดยเฉพาะการเมืองบ้านเราที่ผ่านมาภายใต้ระบอบทักษิณ ที่มีทั้งมอดตัวใหญ่และมอดตัวเล็กเต็มไปหมดทุกวงการ กัดกินแทะทึ้งทรัพย์สมบัติของแผ่นดินทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม จนเรียกได้ว่าเป็นยุคแห่ง “มอดของแผ่นดิน” ทีเดียวที่นำมาซึ่งความล่มสลายของชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศขณะนี้
นำหลักการของขงเบ้งที่เขียนไว้ดังกล่าวมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ นอกจากจะเป็นเครื่องเตือนใจกองทัพที่กำลังจัดการกับ “มอดของแผ่นดิน” ในวงการต่างๆของบ้านเมืองในขณะนี้แล้ว ยังสามารถนำมาใช้เตือนใจตัวเองคือกองทัพด้วยว่า อย่าให้เกิดมีมอดขึ้นในกองทัพเป็นอันขาด เพราะถ้ากองทัพมีมอด กองทัพก็เสียหายเช่นเดียวกัน
ต้องดูแลกวดขันพวกของตนด้วย
เพราะที่ผ่านๆ มาแล้วภายใต้ระบอบทักษิณนั้น กองทัพถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อค้ำจุนอำนาจทางการเมืองแก่ระบอบทักษิณมาแล้วทั้งมอดใหญ่และมอดเล็ก แพร่พันธุ์ขยายตัวฝังอยู่ในกองทัพมาโดยตลอด
โดยเฉพาะคนที่นำมาใช้งานในขณะนี้ ที่แม้จะไม่ได้เป็นทหารอยู่ในกองทัพก็ตาม ต้องรู้จักคนเหล่านี้ให้ดีว่าเป็นคนอย่างไร เพราะความรู้หรือความสามารถไม่สำคัญเท่าความซื่อสัตย์สุจริตต่อแผ่นดิน หรืองานการที่เคยทำมาในอดีตว่าเป็นอย่างไร และสังคมมีความรู้สึกอย่างไรกับคนเหล่านี้
http://www.naewna.com/prasong/13598
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น