22ส.ค.2557 นายเกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยสังคมและเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยผลสำรวจมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยและการเมืองไทยในสายตานักธุรกิจเอเชีย 5 ชาติ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีการเข้ามาลงทุนต่อเนื่องในอาเซียนรวมถึงไทยด้วย และมีสัดส่วนรวมกันถึง 62% ของการส่งออกรวมของไทย โดยสำรวจผู้ประกอบการในไทย 666 ราย ระหว่างวันที่ 8-18 สิงหาคม 2557 พบว่านักธุรกิจต่างชาติในกลุ่มสำรวจ 88.2% ให้ความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะสามารถแก้ปัญหาการเมืองและกระตุ้นเศรษฐกิจได้รวดเร็ว ถือว่าสอบผ่านและเป็นคะแนนอยู่ในเกรดเอ แต่ยังขอดูผลงาน คสช.ในระยะที่ 2 หรืออีก 60 วันข้างหน้า หลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ว่าจะสามารถผลักดันแผนงานตามที่ได้กำหนดไว้ และออกมาตรการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีแค่ไหน
“นักธุรกิจเอเชียทั้ง 5 ชาติ 83.8% เห็นว่าการทำงานของ คสช.ให้ยึดเป้าหมายการทำงานเป็นหลัก แต่เห็นว่า คสช.ไม่ควรอยู่เกิน 3 ปี หากว่า คสช.ไปเร็วเกินไปอาจทำให้ปัญหาความขัดแย้งกลับมาอีก แต่อยู่นานเกินกว่านี้จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในสานตานักลงทุนต่างชาติ เห็นว่าเมื่อดับไฟได้แล้วก็ควรเร่งสร้างบ้านให้เข้มแข็ง” นายเกียรติอนันต์กล่าว
นายเกียรติอนันต์กล่าวว่า นักธุรกิจเอเชียได้เสนอว่า รัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องค่าครองชีพ ปฏิรูปพลังงาน พัฒนาด้านการศึกษา เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน และการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อเสริมศักยภาพและความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ประเด็นที่ยังวิตกสูงคือ ปัญหาคอร์รัปชั่น ปฏิรูปการศึกษา และปฏิรูปแรงงาน โดยมองว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีดีพี) ของประเทศไทยปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2.5-2.7% และเศรษฐกิจจะดีขึ้นในปี 2558 และขยายตัวได้ 3-3.5%
http://www.chaoprayanews.com/2014/08/22/5-%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%b4-%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%8a%e0%b8%b5%e0%b8%a2-%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%84%e0%b8%aa%e0%b8%8a-%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%9c%e0%b9%88/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น