วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

บราซิล อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

 

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

เมื่อครั้งมาเยือนแดนไทยก่อนช่วงกีฬาโอลิมปิคเมื่อหลายปีก่อน ตบทีมไทยชนะแบบขาดลอยไปหลายลูก เลยทำให้อยากรู้นักหนาว่าประเทศนี้มันอยู่หลืบไหนของแผนที่โลก เมื่อครั้นโอกาสมาถึงจึงไม่รอช้า จับเครื่องบินพร้อมโรยตัวลงยังแผ่นดินบราซิลในทันที แล้วทริปนี้จึงเริ่มต้น

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

บราซิล (Brasil) สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุด และมีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ อีกทั้งเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของโลก มีเมืองหลวงคือ กรุงบราซิเลีย ใช้ภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาราชการ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง พ่อค้าแม่ขายตามสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงผู้ให้บริการนั้นพูดภาษาอังกฤษได้คล่องปรื๋อ ความตื่นเต้นที่ดึงดูดให้มาติดกับประเทศนี้คือ แม่น้ำอะเมซอนหรือป่าอะเมซอน ความลึกลับในป่าดิบชื้นที่กว้างใหญ่ และธรรมชาติของผืนป่าที่มีความสมบูรณ์ ที่สำคัญ แม่น้ำอะเมซอนกินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศบราซิลเลยทีเดียว จึงเป็นสิ่งล่อใจให้ต้องมาเยี่ยมยล

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

Amazon River (แม่น้ำอะเมซอน) มีต้นกำเนิดมาจาก Andes mountains ของประเทศเปรูที่ไหลผ่านทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาใต้ ออกสู่มาสมุทรแอตแลนติกทางตอนเหนือของบราซิล แม่น้ำอะเมซอนมีความยาวเกือบ 4,000 ไมล์ หากล่องเรืออยู่กลางแม่น้ำจะมองไม่เห็นฝั่งทั้งสองด้าน เนื่องจากอะเมซอนจัดว่าเป็นแม่น้ำที่มีความกว้างที่สุดในโลก ส่วนที่แคบที่สุดก็ประมาณ 1 ไมล์ สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัส นอกจากความงามที่อลังการของธรรมชาติที่สมบูรณ์ และสัตว์นานาชนิดแล้ว ยังมีจุดบรรจบกันของแม่น้ำนิโกรที่มีสีดำ กับแม่น้ำโซลิมอยส์ที่มีสายน้ำสีเหลืองไหลเคียงคู่กันไปเป็นระยะทางยาวหลายไมล์ ซึ่งสามารถเห็นความต่างกันของสายน้ำทั้งสองอย่างชัดเจน ก็บอกแล้วว่าแม่น้ำสายนี้มีเสน่ห์ที่ทำให้ต้องมนต์

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

เยือนบราซิลครานี้ขอข้ามเมืองหลวงไปก่อนละกัน เพราะประเทศนี้มีสถานที่ที่น่าสนใจมากมายเหลือเกิน และเป็นไปไม่ได้เลยหากมาบราซิลแล้วจะพลาด เลยต้องขอซอยเท้าจังหวะลาตินไปเยือนถิ่นที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์กของประเทศอย่าง ริโอ เดอ จาเนโร กันก่อนเลย

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

Rio De Janeiro (ริโอ เดอ จาเนโร) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศบราซิล รองจากเมืองเซาเปาลู ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของประเทศบราซิล ก่อนที่จะเปลี่ยนเมืองหลวงมาที่เมืองบราซิเลียเมื่อปีค.ศ. 1960 เมือง ริโอ เดอ จาเนโร เป็นสถานที่ตั้งของรูปสลักพระเยซูขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ที่สูงตระหง่านอยู่บนยอดเขา ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กของเมือง รูปสลักพระเยซูนี้มีชื่อว่า œChrist The Redeemer หรือพระคริสต์ผู้ไถ่บาป ออกแบบโดย เอโตร์ ดา ซิลวา กอชตา ชาวบราซิล และสร้างโดย ปอล ลันดอฟ สกี ประติมากรชาวฝรั่งเศส เชื้อสายโปแลนด์ รวมระยะเวลาการก่อสร้างนาน 5 ปีจึงแล้วเสร็จ โดยมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2474 รูปสลักมีความสูง 38 เมตร ต้องนั่งรถไฟขึ้นไปเพื่อชมความงามและเข้าไปให้ใกล้รูปสลักมากที่สุด เพราะรูปสลักนี้ตั้งอยู่บนภูเขา Corcovado ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ Tijuca สามารถไปปิคนิคและชมทิวทัศน์ความงามของเมือง ได้แบบสุดลูกหูลูกตาจากจุดนี้ มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก เหมือนตกอยู่ในอ้อมกอดแห่งเมืองริโอ เดอ จาเนโร ก็ไม่ปาน

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

ออกจากเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศบราซิลด้วยความรู้สึกของอ้อมกอดที่อบอุ่น มุ่งสู่เมืองใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศด้วยความตื่นเต้นและใคร่รู้ มันจะต้องมีสีสันแห่งความสนุกและเร้าใจรออยู่เป็นแน่

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

Sao Paulo (เซา เปาลู) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศบราซิล และใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกตามจำนวนประชากร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ มีการรวมของประชากรหลากหลายเชื้อชาติเหมือนเมืองใหญ่ในต่างประเทศทั่วไป เนื่องจากครั้งประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่17 และ 18 นั้นถูกขยายอำนาจโดยชาวโปรตุเกส และต่อมาในศตวรรษที่ 19 ชาวยุโรป อย่างอิตาลี สเปน เยอรมันนี ต่างหลั่งไหลเข้ามา จากเริ่มแรกเป็นชาวไร่ ชาวสวนทำไร่กาแฟ ต่อมาการค้าทางด้านกาแฟเริ่มตกต่ำลง จึงได้มีการลงทุนประกอบการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรม จึงทำให้มีความเจริญและมีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

สีสันความเจริญของเมืองใหญ่นั้นมีความหลากหลาย เป็นศูนย์รวมของคนหลายเชื้อชาติ มีร้านค้าขายอาหารที่เป็นซุ้มตั้งอยู่เรียงราย เดินชมรอบเมืองไปเพลินๆ ก็เหลือบไปเห็นศิลปินเปิดหมวกพร้อมเครื่องดนตรีชนิดหนึ่ง ยาวๆ เหมือนกับที่พวกไวกิ้งชอบใช้คล้ายงวงช้าง เสียงนั้นฟังดูไม่คุ้นหู แต่ก็สร้างความไพเราะให้กับผู้ที่สัญจรไปมาต้องหยุดดู แหม พี่แกนั่งบนพรมด้วยเท่ห์เชียว

บราซิล ตอนที่1 อ้อมกอด ริโอ เดอ จาเนโร

สเน่ห์ของบราซิลทำให้รู้สึกเหมือนต้องมนต์ พาให้เท้านั้นก้าวเดินโดยไม่รู้สึกเหนื่อยอ่อนแม้แต่น้อย เพราะยังมีสถานที่ที่เป็นไฮท์ไลท์อีกมายมายท้าทายให้ต้องไปยล ส่วนจะเป็นที่ใดนั้นต้องตามต่อกันตอนที่สอง

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

แต่ยังลังเลอยู่ว่าจะออกตัวสู่เกาะ หรือขึ้นเขากันก่อนดี ใจก็คิดไปในขณะที่เท้ามันออกก้าวเดินแล้ว งั้น...ลุยต่อไปขึ้นเขาก่อนเลยดีกว่าในอากาศยามเช้าแบบนี้ ก่อนที่จะไปนอนผึ่งลมอาบแดดกันที่ชายหาดอีกสักรอบ จึงเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสโดย มุ่งหน้าตรงสู่ยอดเขาที่ชื่อหวานจ๋อย อย่าง ชูก้า โลฟ

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

Sugarloaf Mountain (ยอดเขาชูการ์ โลฟ) เป็นยอดเขาที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดโคปาคาบานาในเมืองริโอ เดอ จาเนโร มีความสูง 1,400 เมตร ซึ่งสูงตระหง่านอยู่ที่ปลายแหลมสุดของปากอ่าวกวานาบารา บนยอดเขามีบริการกระเช้าที่จะพานักท่องเที่ยวข้ามจากเขาอีกลูกหนึ่งไปยังยอดเขาชูก้า โรฟ เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงาม ระหว่างที่กระเช้าไปถึงตรงกลางทางระหว่างภูเขาทั้งสองลูก บรื๋อออ...ทั้งสูงทั้งเสียว แต่ก็สนุกและตื่นเต้นกับทิวทัศน์ที่ปรากฎอยู่โดยรอบ โดยเฉพาะด้านล่างนั้น ก็จะเป็นวิวที่งดงามของชายหาดโคปาคาบานา ที่สามารถมองเห็นชายหาดโค้งรับกับหาดทรายขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใส ดุจภาพเขียนที่ตราตรึง พอทำให้ลืมความเสียวไปได้บ้าง

นอกจากจุดชมวิวบนยอดเขาแล้ว ชูก้า โลฟ ยังเป็นสถานที่โปรดปรานของนักปีนเขาที่ชอบความท้าทายจากทั่วโลกอีกด้วย เพราะยอดเขาแห่งนี้มีพื้นที่ในการปีนเขาที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งมีมากกว่า 270 เส้นทาง และมีความยากง่ายต่างกัน เรียกว่าใครที่ชอบตะกายปีนป่ายท้าความชันแล้วล่ะก็ สามารถเลือกกันได้อย่างหนำใจเลยเชียว

เมื่อลงจากยอดเขาชูก้า โลฟ ด้วยความอิ่มเอมทางสายตากับการชมวิวแล้ว ขามันก็ยังสั่นพับ พับ อาจเป็นด้วยว่าเพราะกลัวความสูงนั่นเอง แต่ใจยังสู้ เพราะสิ่งที่กำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ ขอบอกว่าตะลึง! และประทับใจแบบสุดๆ เพราะตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยพบเคยเห็นอะไรที่สามารถชักนำความรู้สึกไปถึงแดนมนุษย์ต่างดาวได้อย่างสถานที่แห่งนี้มาก่อน

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

Vale de Lua (หุบเขาโลกพระจันทร์) เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ Chapada Dos Veadeiros ห่างจากเมือง Sao Jorge ไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร ดินแดนแห่งนี้ดูประหลาดแปลกตา เพราะหินที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าดูคล้ายๆ กับเอเลี่ยน หรือดินแดนบนโลกพระจันทร์อะไรทำนองนั้น แต่มันก็สะกดให้ตะลึงงันไปชั่วครู่ จนแทบอยากละลายแทรกตัวให้กลมกลืน ธรรมชาติแห่งนี้มีมนต์ขลังทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม ระหว่างช่องว่างของหินแต่ละก้อนนั้น ก็มีสายน้ำจากแม่น้ำ San Miguel แทรกตัวไหลผ่านทุกซอกหลืบ ซึ่งเป็นภาพที่งามจับจิต

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

หินหน้าตาแปลกประหลาดที่หุบเขาโลกพระจันทร์นี้ เป็นหินที่มีความเก่าแก่ที่สุด ที่สามารถพบได้เพียงแห่งเดียวในโลกคือที่ประเทศบราซิล และองค์การยูเนสโกก็ได้ประกาศรับรองให้เป็นมรดกโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อปีค.ศ. 2001

ลงเขาพร้อมความหิว เลยตั้งใจว่าจะข้ามไปหาอาหารอร่อยสไตล์บราซิลเลี่ยนแท้ๆ รองท้องที่เกาะซันตา คาตารีนา ให้สบายอารมณ์สักหน่อย เพื่อเป็นการพักผ่อนไปในตัว ว่าแล้วขาก็ไวเท่าความคิดรีบกระโจนไปในทันที

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

Santa Catarina Island (เกาะซันตา คาตารีนา) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล ซึ่งเป็นรัฐหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศที่มีมาตราฐานการครองชีพสูงที่สุดในเขตละตินอเมริกา ประชากรส่วนมากจะเป็นผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานของเชื้อสายโปรตุเกส เยอรมัน และอิตาลี

บนเกาะซันตา คาตารีนา มีชายหาดที่สวยงามและมีความยาวถึง 561 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และก็มีกิจกรรมเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับนักท่องเที่ยวมากมายอย่าง การจัดกิจกรรมการแข่งขันการเล่นกระดานโต้คลื่นนานาชาติ นอกจากนี้ ยังมีจุดดำน้ำดูปะการังเพื่อนักท่องโลกใต้น้ำอยู่มากมาย ขณะที่กำลังปล่อยใจไปกับสายลม ว่าแล้วท้องก็เริ่มส่งเสียงครวญครางดังขึ้น จึงต้องร้องตะโกนหาอาหารท้องถิ่นจานอร่อยมาลองลิ้มกันดู อยากรู้จังว่ารสชาติจะเข้มข้นเหมือนสีผิวของคนประเทศนี้กันหรือเปล่า มาลองอาหารท้องถิ่นจานแรกกันเลย

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

Feijoada เป็นสตูเนื้อที่เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวย และมีเครื่องเคียงมากมายเช่น ไส้กรอก ถั่ว ส้ม บางร้านก็มีกล้วยทอดด้วย รสชาติสตูกับข้าวสวยมันก็เข้ากันดีกับเนื้อสตูที่เปื่อยยุ่ย ไส้กรอกก็รสชาติอร่อยเนื้อแน่น แต่ว่ามันแปลกก็ตรงเครื่องเคียงที่เป็นผลไม้นี่แหละ ทำให้ต้องแยกกันกินจะดีกว่า

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

แต่จานสองนี่สิเด็ด รสชาติอร่อยมาก อาจเพราะว่าเป็นของปิ้งย่างคล้ายบาร์บีคิวนั่นเอง แต่รสชาติของเนื้อที่คลุกเคล้าเครื่องเทศก่อนนำไปย่างนั้นขอบอกเลยว่าถึงใจ

บราซิล ตอนที่3 มหัศจรรย์แห่งหุบเขาโลกพระจันทร์

Churrasco เป็นอาหารท้องถิ่นเมนูเด็ดไม่แพ้จานแรก เป็นเนื้อซี่โครงย่างติดมันนิดหน่อยอร่อยถูกใจ มักจะกินพร้อมกันกับของปิ้งย่างอื่นๆ อีก เช่น ไส้กรอก และเนื้อชิ้นโตติดมันเช่นกัน อาหารของคนบราซิลที่นิยมบริโภคกันมักเป็นเนื้อ ไส้กรอก และเป็นอาหารจานหนัก หากคุณเป็นพวกมังสาวิรัสล่ะก็ ขอบอกว่าเสียใจ เพราะอาหารจานผักนั้นหายาก เนื่องจากคนบราซิลเค้ากินกันจุจริงๆ เพราะสังเกตุจากแต่ละเมนูที่จัดมาเสิร์ฟนั้นเป็นแบบเต็มสตรีม นำมาแบบจานใหญ่โตทั้งนั้น เรียกได้ว่ากินมื้อเดียวถึงกับอิ่มไปถึงพรุ่งนี้กันเลยทีเดียว

เมื่อหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน บวกกับอากาศสบายๆ ของชายหาดบนเกาะซันตา คาตารีนา ต้องขอหลับตาแล้วเซกู๊ดบายในอ้อมกอดแห่งแดนละติน ก่อนบอกย้ำคำว่า...แซมบ้า ไอเลิฟยู

Written by Omyim

ลิขสิทธิ์บทความของ e-magazine.info

ติดตามบทความ ท่องเที่ยว หรืออ่าน แมกกาซีน

(ติดต่อขอใช้บทความที่ฝ่ายการตลาด โทร. 02 713 5220)

ที่มาข้อมูล : www.e-magazine.info

ข้อมูลโดย : www.e-magazine.info


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น