ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยว ประวัติศาสตร์ Thailand > เรื่องทั่วๆไปที่คนไทยควรรู้ >
วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
เกาะ"รถบรรทุก"ตะลอน2ฝั่งถนน"พหลฯ-ลาดพร้าว"ในยามค่ำคืน หนุ่ม-สาวยังไม่ได้กลับบ้าน แต่"น้องน้ำ"ถึงแล้ว
"ไปทางไหนครับ ไปทางไหนคะ" ดังขึ้นตลอดทาง ในช่วงเช้าก่อนมาทำงาน และขณะเดินทางกลับบ้านในช่วงเย็น
โดยเฉพาะในหลายๆ พื้นที่ ที่รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
เมื่อพลบค่ำ "มติชนออนไลน์" ได้ติดสอยห้อยตามรถบรรทุกขนาด 6 ล้อ ของบริษัท มติชน ที่ปกติจะใช้ขนกระดาษ แต่ต้องนำมาใช้ขน "คน" ในช่วงนี้
จากแยกประชานุกูล เรื่อยไปตามถนนกำแพงเพชร เลี้ยวซ้ายตรงแยกกำแพงเพชร มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต
ก่อนจะลุยน้ำไปที่แยกลาดพร้าว ไปตามถนนพหลโยธิน วนเข้าถนนลาดพร้าว
คือเส้นทางที่ใช้ในการส่งพนักงาน พร้อมกับแวะรับคนอื่นตลอดทางดังกล่าว
โดยมีจุดหมายปลายทางคือ เดอะมอลล์บางกะปิ
ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลกระทบแนวกั้นกระสอบทรายเป็นระยะๆ ตลอด 2 ข้างทาง
ก่อนจะกระเด็นสาดผู้สัญจรบนทางเท้า ที่สวมบูทหุ้มเข่า ถลกขากางเกงขึ้นสูง
พร้อมกับเปล่งเสียงดังออกมาบอกว่า "เบาๆ หน่วยพี่"
"ขอโทษครับ" คือเสียงของชายขับรถคนหนึ่ง ก็ดังขึ้นมาหลังจากนั้น
จะว่าไปแล้ว บรรยากาศนี้ไม่ได้เห็นบ่อยนัก เมื่อครั้งบ้านเมืองอยู่ปกติ ท้องถนนเต็มไปด้วยรถขนาดน้อยใหญ่ ผู้คนเดินกันอลหม่านบริเวณป้ายรถเมล์ และสถานีรถไฟฟ้าแต่และแห่ง
สิ่งที่เห็นก็คือว่า ถนนหลายสายถูกแทนที่ด้วย "น้ำ" จากเดิมที่เคยใช้ "รถ" ต้องเปลี่ยนมาเป็น "เรือ" แทน
การสัญจรเส้นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ถนนวิภาวดี-รังสิต ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ไม่มีรถให้ใช้บริการ และไม่มีรถเลยหลังเวลา 3 ทุ่มเป็นต้นไป ก็มีบ้าง ที่นานๆ ครั้งผ่านมาที
นับเป็นคืนที่เงียบสงัด ถนนโล่ง จนไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้
แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว!!
ฉะนั้น เมื่อเดินทางผ่านแถวนั้น คงสบายใจที่รถไม่ติด แต่ไม่สบายกาย เมื่อต้องตะเกียกตะกายฝ่ากระแสน้ำ ไปยังที่เป้าหมายด้วยความหวังว่า จะมีใครผ่านมาแล้วแวะรับ
สิ่งหนึ่งที่จะต้องไม่ลืมก็คือ ปกติใช้เวลาเดินทางมาทำงานนานหลายชั่วโมงเพราะ "รถติด" พอมาวันนี้ แม้การจราจรจะโล่ง แต่ก็ยังใช้เวลาในการเดินทางนานหลายชั่วโมงเช่นกัน เพราะต้องคอย "ติดรถ" คนอื่น
ทั้งจากที่ทำงานไปบ้าน หรือจากบ้านไปที่ทำงาน
เผลอๆ อาจจะใช้เวลานานกว่าด้วยซ้ำ เพราะต้องเสียเวลาในการชมเมือง ในเส้นทางที่ไม่อยากไป แต่จำเป็นต้องไป
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นบรรยากาศ ที่ทุกๆ เย็นในห้วงเวลานี้ ที่พนักงานหลายแห่งหลายองค์กร มักจะเจออยู่เนืองๆ ตั้งแต่ระดับผู้บริหารถึงระดับปฏิบัติการ ต่างก็จำเป็นต้องปีนบันไดลิงขึ้นรถบรรทุก อย่างทุลักทุเล
อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ คงไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก หรืออาจจะเกิดขึ้นในคราวต่อไป
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเห็นคือ "น้ำใจ" ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการช่วยเหลือเพื่อมนุษย์ ในยามวิกฤต และจะดีกว่านี้ หากเปลี่ยน "น้ำเหนือ" ที่ไหลบ่าเข้ามา กลายเป็น "น้ำใจ"
เพราะถึงอย่างไรแล้ว เราก็ยังเชื่อว่า "คนไทยไม่ทิ้งกัน"
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น